รัฐบาล-กทม.เตรียมพร้อมประชุมเอเปค ชัชชาติแจงเตรียมพื้นที่ชุมนุมให้แล้วขออย่าเคลื่อนที่ ล่าสุดอนุญาตให้จัดได้แล้ว 3 กลุ่ม ผบ.ตร.เตือนผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกคนไม่มียกเว้นโทษถึงจำคุกจะไม่ยอมให้สร้างความเสียหายแก่ประเทศ
14 พ.ย.2565 หลังจากเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมารัฐบาลออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่ตามนัยมาตรา 8(5) แห่ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ที่กำหนดพื้นที่ห้ามชุมนุม 19 แห่งทั้งศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่ใช้ประชุมและโรงแรมที่ผู้นำประเทศต่างๆ ใช้เป็นที่พักระหว่างการประชุม
ความคืบหน้าวันนี้ The Reporters รายงานว่า วันนี้หลังการประชุมคณะกรรมการเพื่อเตรียมการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และเป็นประธานในที่ประชุมกล่าวถึงประเด็นการจัดเตรียมงานและมีประเด็นเรื่องการจัดพื้นที่ชุมนุมซึ่งเป็นจุดที่กังวล
ชัชชาติระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอยากให้ทาง กทม.จัดพื้นที่เป็นสัดส่วนให้ประชาชนมีพื้นที่แสดงออกโดยไม่กีดขวางเส้นทางการจราจร ทาง กทม.จะเปิดพื้นที่ให้เช่นเดิมโดยตอนนี้อนุญาตให้แล้ว 3 กลุ่มระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย.ได้แก่ กลุ่มของไผ่ดาวดิน ทะลุฟ้า และราษฎร
ผู้ว่าฯ กทม.ได้ขอร้องอย่าเคลื่อนและให้อยู่บนพื้นที่ทาง กทม.กำหนดไว้ให้และประสานให้ตำรวจเข้ามาดูแล และขอให้ผู้ที่มาแสดงออกอยู่ในกรอบกฎหมาย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจภารกิจหนักอยู่แล้ว หากมาอย่างสงบและแสดงความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องทำได้ กทม.จัดที่ไว้ให้ดีกว่าไปแสดงออกที่มีผลต่อการประชุม การเปิดพื้นที่แสดงว่ายอมรับแล้วแต่มีกรอบที่ต้องปฎิบัติตามเหมือนเป็นพันธสัญญาระหว่างเรากับประชาชนขอให้ร่วมมือกันยินดีที่จะเคลียร์พื้นที่
นอกจากท่าทีของ กทม. ต่อการชุมนุมในช่วงการประชุมแล้ว Workpoint Today รายงานทางด้านรัฐบาลโดยประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ไปเปิดกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรเพื่อประชุมเตรียมการพร้อมกับตัวแทนหน่วยที่เกี่ยวข้องรวม 27 หน่วยเพื่อติดตามสถานการณ์และความพร้อมการรักษาความปลอดภัย
นอกจากนั้นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ กล่าวถึงหน้าที่การรักษาความปลอดภัยและการจราจรส่วนของการจัดการดูแลการชุมนุมว่านายกรัฐมนตรีออกประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุมทั้ง 19 แห่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกช่วงประชุม 14-19 พ.ย.นี้
ผบ.ตร.ระบุว่าได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกฝ่ายว่าแม้การชุมนุมจะเป็นสิทธิกระทำได้ตามกฎหมายแต่ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมและความสะดวกของประชาชน ผู้กระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกรายและมีโทษถึงจำคุก จะยอมให้ใครมาสร้างความเสียหายให้กับประเทศไม่ได้โดยเด็ดขาด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามยุทธวิธีตามระดับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นเป็นขั้นตอน ส่วนกรณีมีการยื่นข้อเรียกร้องทางกระทรวงต่างประเทศได้จัดสถานที่ไว้เป็นที่กระทรวงและสถานกงศุลที่แจ้งวัฒนะ