ชาวคริสต์ในลาว ทวงถาม ความคืบหน้า คดีครูสอนศาสนา เสียชีวิตปริศนา ในป่าเมืองท่าแขก

สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียทวงถามความคืบหน้ากรณีครูสอนศาสนาชาวลาวถูกพบเป็นศพปริศนาในป่าที่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว หลังผ่านไป 1 เดือนคดีไม่คีบ ด้านชาวคริสต์ในลาวเชื่อเป็นการฆาตรกรรม โดยมีมูลเหตุมาจากการนับถือศาสนา Human Rights Watch ชี้ ทางการลาวต้องดำเนินการอย่างจริงจัง

 

2 ธ.ค. 2565 สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชีย (RFA) รายงานเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2565 เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของสี แสงมะนี ครูสอนศาสนาคริสต์ชาวลาว ซึ่งมีคนพบศพเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่แขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยศพมีรอยถูกตีด้วยของแข็งและมีรอยม่วงช้ำตามร่างกาย ครูสอนศาสนาชาวลาวและประชาชนชาวลาวผู้นับถือศาสนาคริสต์บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่าการเสียชีวิตของสีมีเหตุน่าสงสัยว่าอาจเป็นการฆาตรกรรมจากผู้มีอำนาจที่ไม่ต้องการให้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ใน สปป.ลาว และเกรงว่าอาจถูกคุกคามถึงชีวิตเช่นเดียวกับกรณีที่เกิดขึ้น

สี แสงมะนี เป็นชาวลาวชนเผ่าบ่อหรือไทบ่ อายุ 48 ปี มีอาชีพเป็นครูสอนศาสนาคริสต์ อาศัยอยู่ที่บ้านดอนแก้ว แขวงคำม่วน ซึ่งอยู่ตอนกลางของ สปป.ลาว ติดกับ จ.นครพนมของไทย สีถูกพบเป็นศพอยู่ป่าแห่งหนึ่งในเขตเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา สภาพศพมีรอยถูกตีด้วยของแข็ง มีรอยบวมช้ำตามร่างกายในลักษณะถูกจับทรมานและฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ตามข้อมูลจากผู้ทราบเหตุการณ์ดังกล่าวระบุว่าแม้คดีดังกล่าวจะเกิดขึ้นมานานร่วม 1 เดือนกว่าแล้ว แต่จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุและยังไม่สามารถสรุปคดีได้

ผู้ทราบเหตุการณ์ขอสงวนชื่อและเสียงเปิดเผยต่อ RFA เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า สีขาดการติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนมาตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เขาขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนตัวไปทำงานที่เมืองท่าแขก ก่อนออกจากบ้าน มีชาย 2 คนที่เชื่อว่าเป็นคนต่างถิ่นมาอบรมกับเขาที่บ้าน หลังออกเดินทาง สีไม่ได้ติดต่อกลับมาหาครอบครัวที่บ้าน โดยทางครอบครัวพยายามโทรศัพท์ติดต่อแต่ไม่มีใครรับ หลังจากนั้นครอบครัวและเพื่อนของสีได้ไปตามหาเขาในสถานที่ต่างๆ แต่ไม่พบ ต่อมา ทราบข่าวว่ามีคนพบศพของสีพร้อมรถจักรยานยนต์ ญาติจึงติดต่อไปรับศพมาทำพิธีตามศาสนา

ผู้ทราบเหตุการณ์ดังกล่าวบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามนักบวชในพื้นที่และเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งแต่ยังไม่มีท่าทีว่าจะสามารถนำจากผู้ก่อเหตุได้ในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของสีได้ แต่ครอบครัว เพื่อน และชาวลาวผู้นับถือศาสนาคริสต์เชื่อว่าเกิดจากประเด็นการนับถือศาสนา

สำนักข่าว RFA รายงานเพิ่มเติมว่าเพื่อขอทราบความคืบหน้าทางข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้ ทางสำนักข่าวติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกสืบสวนสอบสวนแขวงคำม่วน เจ้าหน้าที่ป้องกันความสงบเมืองท่าแขก และที่ทำการพรรคประชาชนปฏิวัติลาวในแขวงคำม่วน แต่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบยังไม่สะดวกให้ความเห็นในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าที่แขวงคำม่วนท่านหนึ่งที่เดินทางไปสถานที่พบศพยืนยันว่าสภาพศพของสีมีรอยถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมบริเวณศีรษะ แต่ไม่ทราบว่าครูสอนศาสนาท่านนี้ถูกฆาตกรรมด้วยสาเหตุใดเพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน ขณะเดียวกัน ชาวลาวผู้นับถือศาสนาคริสต์คนหนึ่งที่ทราบเหตุการณ์นี้เชื่อว่าการฆาตกรรมสี แสงมะนี อาจเกิดจากความเชื่อทางศาสนา เพราะชาวลาวผู้นับถือศาสนาคริสต์ต่างทราบอยู่แล้วว่าผู้นำหรือครูสอนศาสนาคริสต์ในหลายพื้นที่ใน สปป.ลาวมักเผชิญปัญหาถูกคุมคามจากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างต่อเนื่อง

ครูสอนศาสนาคริสต์คนหนึ่งกล่าวกับ RFA ในทำนองเดียวกันว่าเหตุการณ์ฆาตรกรรมสี แสงมะนี อาจเกิดจากการทำกิจกรรมทางศาสนาจนทำให้คนกลุ่มหนึ่งไม่พอใจ ขณะที่ชาวลาวผู้นับถือศาสนาคริสต์อีกคนหนึ่งกล่าวว่าตนรู้สึกเศร้าสลดใจที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ขึ้น และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวผู้ก่อเหตุให้ได้เร็วที่สุดเนื่องจากคดีดังกล่าวสร้างความสะเทือนขวัญแก่ชาวคริสต์ในลาว และกลัวว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นกับตนเองได้เช่นกัน

ฟิล โรเบิร์ตสัน (Phil Robertson) รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอช (Human Rights Watch) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวกับ RFA โดยเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจลาวที่เกี่ยวข้องจะต้องแสดงความจริงใจในการสืบสวนสอบสวนหาผู้ก่อเหตุและนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแนะนำว่าควรมีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางร่วมติดตามคดีนี้ด้วย

ด้าน บุญทอน จันทะละวง ไวเซอร์ ประธานพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยในลาว ที่มีศูนย์กลางอยู่ประเทศเยอรมนี กล่าวกับ RFA ว่าตนเชื่อว่าการฆาตรกรรมสี แสงมะนี เป็นแผนการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่พยายามกดดันและจำกัดการเคลื่อนไหวของชาวคริสต์ในลาว พร้อมระบุว่าทางการลาวควรแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวอย่างจริงจังเพื่อนำหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ก่อนหน้านี้ ในเดือน ส.ค. 2561 สี แสงมะนี เคยถูกเจ้าหน้าที่รัฐเข้าจับกุมที่บ้านของตนเองขณะที่กำลังจัดพิธีนมัสการพระเจ้าประจำสัปดาห์ เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวพยายามบังคับให้เขาเซ็นเอกสารยินยอมเลิกนับถือศาสนาคริสต์ แต่เขาไม่ยินยอม เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่จับกุมเขาพร้อมใส่กุญแจมือ จากนั้นนำตัวไปกักขังไว้ที่โรงเรียนในเขตหมู่บ้านเป็นเวลา 3 วัน ก่อนปล่อยตัวหลังจากที่เขาชำระค่าปรับเป็นเงินจำนวน 200,000 กีบ (ประมาณ 400 บาท) หลังถูกจับกุมครั้งนั้น สี แสงมะนียังคงจัดพิธีนมัสการพระเจ้าประจำสัปดาห์อยู่ที่บ้านของตนตามปกติ รวมถึงเดินหน้าสอนศาสนาทั้งในและนอกพื้นที่ และถูกเจ้าหน้าที่ตักเตือนให้เลิกเคลื่อนไหวหลายครั้ง จนนำมาสู่การเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา

สี แสงมะนี ได้รับการสถาปนาเป็นครูสอนศาสนาคริสต์เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2562 และได้รับการรับรองจากศูนย์คริสตจักรข่าวปะเสิด สปป.ลาว (Lao Evangelical Church) ในวันที่ 22 พ.ย. ปีเดียวกัน

ข้อมูลจากสํานักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุว่ารัฐธรรมนูญของ สปป.ลาว พ.ศ.2534 มาตรา 30 ให้เสรีภาพแก่ประชาชนชาวลาวในการนับถือศาสนา โดยระบุว่า “พลเมืองของ สปป.ลาว มีสิทธิที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อในศาสนา” อย่างไรก็ตาม ข้อความในรัฐธรรมนูญมาตรา 9 กำหนดให้รัฐ “เคารพและปกป้อง” พุทธศาสนิกชนและศาสนิกชนผู้นับถือศาสนาอื่น ทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับการนับถือศาสนาของประชาชน เนื่องจากรัฐบาลลาวให้การสนับสนุนนักบวชในศาสนาพุทธอย่างกว้างขวางในการทำกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งเจ้าหน้าที่รัฐระดับปฏิบัติการ โดยเฉพาะส่วนท้องถิ่นมักปฏิบัติต่อผู้นับถือศาสนาอื่นอย่างแบ่งแยกจนเกิดเหตุขัดแย้งขึ้นบ่อยครั้ง ต่อมาปี พ.ศ.2545 นายกรัฐมนตรีลาวได้ออกพระราชกกฤษฎีกามาตรา 92 ซึ่งกำหนดให้รัฐบาลกลางมีอำนาจสูงสุดในการตัดสินว่าการกระทำใดเป็นเรื่องของศาสนา นอกจากนี้ พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ยังให้อำนาจรัฐบาลกลางในการควบคุมดูแลว่ากิจกรรมทางศาสนาต่างๆ จะต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของ สปป.ลาว

ทั้งนี้ พ.ร.ฎ. ดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อขยายเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่การขาดความเข้าใจและความเพิกเฉยทำให้การบังคับใช้ไม่เป็นผล และกิจกรรมทางศาสนาอื่นๆ ยังคงถูกห้ามใน สปป.ลาว สำหรับการเรียนการสอนในโรงเรียนรัฐของลาวนั้น ไม่มีการบรรจุวิชาศาสนาเข้าในหลักสูตร แต่ประชาชนชาวส่วนใหญ่ในลาวยังคงนับถือศาสนาพุทธ

 

 

เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท