Skip to main content
sharethis

ภาคประชาสังคมร้อง ปธ.กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา ขอทบทวนประกาศคณะกรรมการ สปสช. เกี่ยวกับการให้บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี หลังปรับหลักเกณฑ์ใหม่ กำหนดให้รับบริการเพร็พ (PrEP) ที่หน่วยบริการตามสิทธิเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค นัด 18 ม.ค.นี้ พบอธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อหารือต่อ

16 ม.ค.2566 รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (16 ม.ค.) เวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมร่วมจัดบริการเอชไอวีเพื่อยุติปัญหาเอดส์ประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การสาธารณสุข วุฒิสภา เพื่อขอให้พิจารณาประกาศของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและ (สปสช.) หนังสือชี้แจงแนวทางการจัดบริการยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลังการสัมผัส(Pre-Exposure Prophylaxis, PrEP) ในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยมี นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธาน กมธ. เป็นผู้รับ

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานด้วยว่า สุภาพร เพ็งโนนยาง ผู้แทนสถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี กล่าวว่า จากประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเรื่องหลักเกณฑ์ใหม่ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ในการดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2566 เกี่ยวกับการให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีนั้น  ส่งผลให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์การรักษาอื่นๆนอกสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่สามารถเข้ารับบริการป้องกันเอชไอวีได้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่ตรวจเอชไอวีโดยสมัครใจ ผู้รับบริการ PrEP และผู้ที่รับบริการถุงยางอนามัย ที่ต้องไปรับบริการที่หน่วยบริการตามสิทธิของตนเองเท่านั้น ทำให้เกิดความลำบากในการเข้ารับบริการ ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้

อีกทั้ง เวลาในการเปิด-ปิดบริการสถานพยาบาลตามสิทธิไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิต รวมถึงยังเกิดปัญหาการตีตราและเลือกปฏิบัติที่ยังเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้ารับบริการ นอกจากนี้ กรณีหนังสือชี้แจงแนวทางการจัดบริการ PrEP ในสถานพยาบาลที่มีการปรับเปลี่ยน จากเดิมที่สั่งจ่ายยาโดยแพทย์ของหน่วยบริการ PrEP หน่วยใดก็ได้ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ปรับเป็นต้องผ่านการสั่งจ่ายโดยแพทย์ของสถานพยาบาลของรัฐเท่านั้น ส่งผลให้คลินิกหลายแห่งต้องหยุดให้บริการ ทำให้ประชาชนที่กำลังรับบริการดังกล่าวได้รับผลกระทบและมีโอกาสของการติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้น ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ กมธ.พิจารณาทบทวนประกาศคณะกรรมการ สปสช.เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับบริการอย่างเท่าเทียมและให้การดำเนินงานด้านเอชไอวี และการเร่งรัดยุติเอดส์ของประเทศเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนายแพทย์เจตน์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป

สำหรับเครือข่ายที่ยื่นหนังสือประกอบด้วย คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ มูลนิธิรักไทย สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย มูลนิธิเอ็มพลัส  มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ สถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ในวันที่ 18 ม.ค.นี้ องค์กรภาคประชาสังคมจะเข้าพบอธิบดี กรมควบคุมโรค เพื่อหารือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการ ประกาศงบประมาณสปสช.ปี 2566 และแนวทางการให้บริการเพร็พโดยองค์กรภาคประชาสังคม ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ทั้งนี้ได้มีการยื่น 5,600 รายชื่อที่รณรงค์ผ่าน https://www.change.org/HealthIsRights ให้กับกรรมาธิการสาธารศุขเพื่อดำเนินการต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net