Skip to main content
sharethis

ศาลเชียงใหม่พิพากษาจำคุก 12 ปี 'พรชัย' ชาวปกาเกอะญอ วัย 38 ปี คดี ม.112, 116 โพสต์เฟซฯ 4 ข้อความ สื่อถึงความเป็นกลางกษัตริย์-ชวนคนร่วมชุมนุม ก่อนศาลไม่ให้ประกันชั้นอุทธรณ์ ระบุอัตราโทษสูง เกรงหลบหนี

 

14 มี.ค. 2566 เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวานนี้ (13 มี.ค.) เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดฟังคำพิพากษาในคดีของพรชัย วิมลศุภวงศ์ ชาวปกาเกอะญอวัย 38 ปี ที่ถูกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 112, มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 สืบเนื่องจากถูกฟ้องว่าเป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊ก 4 ข้อความ ช่วง 18 ต.ค. ถึง 19 พ.ย. 2563 มีเนื้อหาสื่อถึงพระมหากษัตริย์ที่วางตนไม่เป็นกลาง เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง และเชิญชวนให้ไปร่วมการชุมนุมทางการเมืองในช่วงดังกล่าว

พรชัย วิมลศุภวงศ์ (ถ่ายโดย iLaw)

คดีนี้มี เจษฎา ทันแก้ว อดีตการ์ดของกลุ่ม กปปส. เป็นผู้กล่าวหาที่ สภ.แม่โจ้ โดยจำเลยต่อสู้คดีความว่าไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความตามฟ้อง เนื่องจากเฟซบุ๊กของตัวเองถูกแฮ็กในช่วงดังกล่าว

พรชัยเดินทางมาจากนนทบุรี เพื่อฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดเชียงใหม่ หลังเขาต้องเดินทางมาอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อสู้คดีตั้งแต่ปี 2564 

เวลา 9.33 น. สาธิต วคินเดชา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนได้อ่านคำพิพากษาโดยสรุประบุว่า จำเลยต่อสู้คดีรับว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กตามฟ้อง แต่ไม่ใช่ผู้เผยแพร่ข้อความดังกล่าว เนื่องจากถูกโจรกรรมบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวไป

ศาลพิเคราะห์แต่ละข้อความตามฟ้อง เห็นว่ามีเจตนากล่าวถึงพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน มีการใช้สรรพนามไม่เหมาะสมและนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ เป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ทั้งยังชักชวนผู้อ่านข้อความให้เข้าร่วมการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ศาลเห็นว่าจำเลยเพียงแต่กล่าวอ้างลอยๆ ว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวถูกโจรกรรม โดยไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ามีบุคคลได้นำภาพของจำเลยไปตัดต่อหรือใช้แทน หากมีผู้โจรกรรมเฟซบุ๊กจริง จำเลยน่าจะต้องแจ้งความหรือดำเนินการอย่างไรเพื่อหาตัวผู้กระทำ แต่จำเลยไม่ได้กระทำการดังกล่าว ทั้งเชื่อว่าโจทก์ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน

เมื่อจำเลยรับว่าเป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว และมีคลิปวิดีโอที่จำเลยไลฟ์แนะนำตนเองเผยแพร่ในเฟซบุ๊กดังกล่าวมาก่อน จึงเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้เผยแพร่ข้อความตามฟ้อง เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)

การกระทำของจำเลยเป็นคนละวันและเวลา ต่างกรรมต่างวาระกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเรียงกระทงความผิดไป โดยให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักสุด ได้แก่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 4 กระทง รวมจำคุก 12 ปี

หลังอ่านคำพิพากษา ศาลแจ้งให้จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาได้ต่อไป และตำรวจศาลได้ควบคุมตัวพรชัยไปยังห้องขังใต้ถุนศาล ส่วนทนายความและนายประกันได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี

จนเวลา 15.10 น. ศาลจังหวัดเชียงใหม่ให้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 วินิจฉัย โดยเจ้าหน้าที่ศาลระบุให้นายประกันมาฟังคำสั่งในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค. 2566) ต่อไป ทำให้ในคืนนี้ พรชัยต้องถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ เพื่อรอฟังคำสั่งเรื่องประกันตัวต่อไป

ก่อนหน้านี้ หลังถูกจับกุมในคดีนี้ พรชัยเคยถูกคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงใหม่โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างสอบสวนมาแล้ว ก่อนศาลอุทธรณ์ภาค 5 จะอนุญาตให้ประกันตัวหลังถูกขังไป 44 วัน

ทั้งนี้ น่าสังเกตว่าในคดีของพรชัย ที่จังหวัดยะลา ศาลพิพากษาลงโทษเฉพาะกระทงที่เป็นการเผยแพร่คลิปวิดีโอภาพตนเองกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งจำเลยรับว่าเป็นผู้ไลฟ์สดจริง แต่ข้อความที่ถูกโพสต์หลังจากนั้นอีก 2 ข้อความ (เป็นคนละโพสต์กับคดีที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่) เกิดขึ้นหลังได้ถูกแฮ็กเฟซบุ๊กไป ศาลพิเคราะห์แล้วได้ยกฟ้อง 2 กระทงดังกล่าวนี้ โดยเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ไม่ปรากฏ URL ที่มาของข้อความในเอกสารที่นำมาแจ้งความ และพนักงานสอบสวนเบิกความว่าไม่แน่ใจว่าภาพถูกต้องตามต้นโพสต์หรือไม่ เพราะไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (14 มี.ค.) เดิมเจ้าหน้าที่ศาลนัดหมายนายประกันมาฟังคำสั่งประกันตัวในเวลา 13.30 น. แต่ในเวลาดังกล่าว ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ก็ยังไม่ได้มีคำสั่งกลับมา

กระทั่งจนถึงเวลาประมาณ 17.11 น. ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาอ่านคำสั่งให้นายประกันฟัง โดยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ 

ศาลระบุคำสั่งเห็นว่าพฤติการณ์ในคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 12 ปี หากปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี ให้ยกคำร้อง

ปัจจุบัน พรชัย เป็นชาวปกาเกอะญา จากตำบลแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน เขาถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จำนวน 2 คดี โดย 1 คดีที่ สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ และ 1 คดีที่ สภ.บังนังสตา จ.ยะลา และยังมีคดีการจากเข้าร่วมชุมนุมที่ กทม. อีก 3 คดี รวมเป็น 5 คดี 

ทั้งนี้ การถูกดำเนินคดีในจังหวัดที่ไกลจากเมืองหลวง ทำให้เขาต้องเดินทางเป็นระยะไกลเพื่อรายงานตัวและรับทราบข้อกล่าวหา 

สำหรับคดีที่เชียงใหม่ พรชัย ถูกจับกุมในที่พักอาศัย จ.นนทบุรี เมื่อต้นปี 2564 และนำตัวไปดำเนินคดีที่เชียงใหม่ จากกรณีโพสต์เฟซบุ๊ก 4 ข้อความตามที่รายงานข้างต้น ที่ สภ.แม่โจ้ ซึ่งทำให้เขาถูกฝากขังระหว่างพิจารณาคดี จำนวน 44 วัน และติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างถูกคุมขัง แม้หลังได้รับการปล่อยตัว เขายังต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์ และต้องเดินทางมาสู้คดีที่เชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดศาลจังหวัดเชียงใหม่ทำการสืบพยานเสร็จสิ้นไปเมื่อต้นเดือน ธ.ค. 2565 และกำหนดนัดวันฟังคำพิพากษาตามที่รายงานข้างต้นเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2566 

ขณะคดีที่จังหวัดยะลา พรชัย ถูกตำรวจจาก สภ.บันนังสตา เดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหาในเรือนจำกลางเชียงใหม่ เมื่อต้นปี 2564 ก่อนจะต้องเดินทางไปต่อสู้คดีที่ศาลจังหวัดยะลา จนเมื่อ ธ.ค. 2565 เขาถูกศาลจังหวัดยะลาพิพากษาจำคุก 3 ปี จากกรณีโพสต์คลิปวิดีโอเล่าถึงสถานการณ์และข้อเรียกร้องทางการเมืองในช่วง ต.ค. 2563 โดยที่เห็นว่าเขาให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาจึงลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษา โดยพรชัย ได้รับการประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net