แหล่งข่าวในเมืองลาบุตตาเปิดเผยว่า ผู้รอดชีวิตจากพายุไซโคลนนาร์กิสในพื้นที่ดังกล่าวต้องดิ้นรนมากขึ้น หลังจากโครงการอาหารโลก(WFP) ลดปริมาณอาหารสำหรับแจกจ่ายผู้ประสบภัยลง โดยชาวบ้านต่างกลัวว่าโครงการอาหารโลกจะยุติความช่วยเหลือด้านอาหารให้กับผู้ประสบภัยในอีกไม่ช้า
ประชาชนในพื้นที่บางส่วนกล่าวว่า โครงการอาหารโลกอาจยุติความช่วยเหลือด้านอาหารในเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากเปลี่ยนเป้าหมายไปช่วยเหลือด้านการก่อสร้างซ่อมแซมอาคารในพื้นที่ประสบภัยแทน
เอจู ชาวบ้านในเมืองลาบุตตาเปิดเผยว่า ผู้ประสบภัยจำนวนมากที่มีอาหารไม่เพียงพอต้องขอจากชาวบ้านคนอื่น ๆ บางส่วนต้องจับปลา จับปู และปลูกผักกินเอง โดยทุกคนต่างกังวลว่า จะได้รับความเดือดร้อน หากโครงการอาหารโลกหยุดแจกจ่ายอาหาร เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช และถัวเหลือง
เอจูเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ผู้ประสบภัยขาดแคลนน้ำดื่มอย่างมาก เนื่องจากฝนไม่ตกเป็นเวลา 10 กว่าวันแล้ว ซึ่งปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากฤดูฝนกำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่สัปดาห์
พอล ริสรีย์ โฆษกของโครงการอาหารโลกกล่าวยืนยันว่า โครงการ ฯ ได้ลดปริมาณอาหารที่แจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยจริง แต่ยังไม่ได้ยุติความช่วยเหลือภายในเดือนนี้ตามที่เป็นข่าว ซึ่งขณะนี้โครงการอาหารโลกยังคงแจกจ่ายอาหารให้ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านคนอื่นๆ ในเมืองลาบุตตากล่าวว่าว่า ผู้บริจาคจากพื้นที่อื่นๆ ไม่เข้าไปเยี่ยมผู้ประสบภัยตามค่ายพักพิงชั่วคราวที่อยู่ตามชานเมืองแล้ว เนื่องการเข้มงวดของทางการพม่า นอกจากนี้มีรายงานว่า ผู้ประสบภัยในเมืองโบกาเลเองก็ได้รับอาหารจากโครงการอาหารโลกลดลงด้วยกัน
ชาวบ้านในหมู่บ้านฉ่วยพยีเอ ซึ่งอยู่ในเมืองโบกาเลถูกทางการพม่าบังคับใช้แรงงาน เช่น ก่อสร้างปรับปรุงโครงการต่างๆ ทุกวัน โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บเงินชาวบ้านที่ไม่สามารถทำงานได้คนละ 2, 000 จั๊ต
เมืองโบกาเลและเมืองลาบุตตาเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุไซโคลนนาร์กิสที่เข้าพัดถล่มพม่าเมื่อวันที่ 2 - 3 พฤษภาคมที่ผ่านมามากที่สุด โดยมีการเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการว่ามีผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวน 140,000 คน
(
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)