ประชาไท - 7 เม.ย.48 แกนนำชาวบ้านแม่เมาะ จ.ลำปาง 18 คนได้มอบอำนาจให้นายสุรชัย ตรงงาม ผู้ประสานงานโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม(EnLAW) เป็นตัวแทนยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐกับศาลปกครองกลางกรุงเทพฯ ในช่วงเช้าวันนี้ โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นจำเลยที่ 1 ในประเด็นที่ครม.มีมิให้อนุรักษ์พื้นที่สุสานหอยขมน้ำจืดไว้เพียง 18 ไร่จากทั้งหมด 43 ไร่

จำเลยที่ 2 คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะที่เป็นผู้รับคำสั่งจากครม.และอนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำเลยที่ 3 คือ กรมอุตสาห กรรมพื้นฐานและพลังงาน ในฐานะผู้มีอำนาจควบคุมดูแลให้ผู้ได้รับประทานบัตรปฏิบัติตามกฎหมายและ กฟผ. เป็นจำเลยที่ 4 ในฐานะผู้ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่

นายสุรชัยกล่าวว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้ต้องการให้มีการเพิกถอนมติครม.ที่กำหนดให้อนุรักษ์สุสานหอยไว้เพียง 18 ไร่จากทั้งหมด 43 ไร่ พร้อมทั้งให้เพิกถอนประทานบัตรเหมืองแร่ในพื้นที่ที่พบฟอสซิลหอยทั้งหมด และให้ กฟผ.แจ้งให้กรมศิลปากรมาตรวจสอบ รวมถึงทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้นเพิ่มเติม

นางมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ แกนนำชาวบ้านแม่เมาะ กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนลงพื้นที่ได้ช่วยหาทางออกโดยแนะนำให้ชาวบ้านยื่นเรื่องฟ้องการทำลายสุสานหอยที่เป็นสมบัติโลก จึงได้หารือกันในหมู่ชาวบ้านรวมถึงองค์การบริหารส่วนตำบลแล้วมีมติให้มอบอำนาจแก่ทนายความฟ้องศาลปกครองดังกล่าว โดยหวังว่าอย่างน้อยที่สุดจะชะลอการทำลายซากหอยดึกดำบรรพ์ได้

ทั้งนี้ ซากฟอสซิลหอยขมดังกล่าวมีอายุกว่า 13 ล้านปี ขุดพบทางทิศใต้ในเขตประทานบัตรเหมืองถ่านหินของ กฟผ.จำนวน 43 ไร่ โดย กฟผ.ดำเนินการขุดไปแล้ว25 ไร่โดยอ้างมติครม.เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2548 ที่อนุมัติให้อนุรักษ์ไว้แค่ 18 ไร่เท่านั้น อีกทั้ง กฟผ.ยังระบุว่าหากต้องอนุรักษ์พื้นที่ไว้ทั้งหมดจะทำให้ต้องสูญเสียถ่านหินลิกไนต์ที่จะนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าไปเป็นมูลค่ากว่า 132,500 ล้านบาท