ประชาไท -- ฝ่ายแรงงานยังคงไม่วางใจรัฐบาลกรณีการรวมเงินกองทุนประกันสังคมเข้ากับกองทุน 30 บาท เชื่อ รัฐขาดทุนจากโครงการ 30 บาท จึงคิดจะใช้เงินกองทุนประกันสังคมช่วยอุดหนุน

วันนี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมาธิการแรงงานและสวัสดิการสังคม วุฒิสภาร่วมกับคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้จัดสัมมนาระดมความคิดเห็นเรื่อง "แก้ไขกฎหมายประกันสังคม เราจะก้าวไปทางไหน" เพื่อหาข้อตกลงในการนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป

ในการประชุมมีผู้เข้าร่วมจากสำนักงานประกันสังคม และฝ่ายลูกจ้างซึ่งเป็นแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ

นางศศิวรรณ อนันตกูล รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคมชี้แจงต่อผู้ร่วมประชุมว่า กรณีที่มีข่าว่ารัฐบาลจะรวมกองทุนประกันสังคมเข้ากับกองทุน 30 บาทนั้น เป็นเรื่องการเข้าใจผิดเนื่องจาก น.ส.ศันศนีย์ นาคพงษ์ แถลงข่าวคลาดเคลื่อน

นางศศิวรรณ ระบุว่า รัฐบาลมีแนวทางที่จะรวมการบริหารจัดการเข้ามาไว้ด้วยกันเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนเท่านั้น แต่ไม่ได้รวมเงินกองทุนต่าง ๆ มาไว้ด้วยกัน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน รัฐบาลมีการประกันสังคม 4 ส่วน คือ กองทุนประกันสังคม กองทุนผู้ประสบภัยจากรถยนต์ กองทุนสวัสดิการข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ และกองทุนหลักประกันสุขภาพ (30 บาท)

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับการชี้แจง แต่ฝ่ายแรงงานยังคงแสดงความเห็นในทางไม่เชื่อใจ และไม่เห็นด้วย อาทิเช่น นางวิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ซึ่งกล่าวในที่ประชุมว่า ไม่ควรทำให้องค์กรที่ดูแลด้านประกันสังคมมีขนาดใหญ่เกินไป

นายเซีย จำปาทอง จากสหภาพแรงงานสิ่งทอ กล่าวว่าตนเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลมีโครงการ 30 บาท แต่รัฐบาลก็ควรจะรับผิดชอบโดยนำงบประมาณจากภาษีมาใช้ ไม่ใช่นำเงินจากองทุนประกันสังคมมาเฉลี่ยเพราะเงินส่วนนี้เป็นส่วนของแรงงานซึ่งต้องจ่ายเบี้ยประกันตน

ทั้งนี้ นายเซียกล่าวว่า รัฐบาลจ้องจะรวมเงินกองทุนประกันสังคมเข้ากับกองทุน 30 บาท แต่เมื่อแรงงานออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยก็กลับแก้ตัวว่าเป็นการแถลงข่าวผิด

ด้านดร. น.พ. ไพศาล วรสถิตย์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการและสวัสดิการสังคม วุฒิสภา กล่าวว่า การบริหารกองทุนประกันสังคมจนได้กำไรถึง 2 แสนล้านบาทนั้น เป็นการแสดงถึงความไม่มีประสิทธิภาพในการปบริหารจัดการกองทุน เพราะแสดงให้เห็นว่ายังมีผู้ประกันตนที่เข้าไม่ถึงการใช้บริการอีกมาก และหากมีแนวคิดที่จะนำเงินกองทุนประกันสังคมไปรวมเข้ากับกองทุน 30 บาท ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม