"การปฏิรูปการเมืองที่เกิดขึ้นต้องไม่ใช่การปฏิรูปโดยชนชั้นนำ เพราะเมื่อใดที่เรานำนักธุรกิจหรือคนที่มีความรู้มาปฏิรูปการเมือง เขาไม่เคยนำความต้องการของภาคประชาชนเข้าไปร่วมด้วย ผมไม่อยากให้การปฏิรูปเป็นแค่คน 7-8 คนที่ใส่แว่น และมานั่งถกเถียงกันในปัญหาที่เกี่ยวกับตนเอง แต่ไม่เกี่ยวกับชาวบ้าน สิ่งสำคัญคือผมต้องการให้เราสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และการปฏิรูปที่แท้จริงต้องไม่ใช่การปฏิรูปเพื่อนักการเมือง และเราต้องไม่หวังพึ่งอำนาจนอกระบบ เพราะอำนาจที่แท้จริงมาจากประชาชน" นายสมชาย กล่าว
เช่นเดียวกับนาย
"เราต้องแก้จารีตประเพณีทั้งหมด เพราะสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้เกิดขึ้นเพราะการนำกฎหมายมาใช้ในรูปแบบที่ผิด และสิ่งสำคัญสุดท้ายทุกกระบวนการจะต้องมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำประชาพิจารณ์ด้วย"
ด้านนาย
"ไม่ควรไล่แค่ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต้องไล่ทั้งระบบและจิตวิญญาณออกไปให้หมด สิ่งที่สำคัญคือการปฏิรูปต้องเป็นประชาธิปไตยที่กินได้และเป็นการเมืองที่เห็นหัวคนจน ทั้งนี้ตนอยากจะเห็นการขยายอำนาจมุ่งสู่การเมืองภาคประชาชน โดยมีการถ่ายโอนอำนาจให้ประชาชนและลดอำนาจของรัฐบาลให้น้อยลง"
หลังจากการเสวนาเสร็จสิ้นทางสมัชชาคนจนได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิรูปการเมืองและจุดยืนของกลุ่มสมัชชาคนจนที่มีต่อการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเห็นว่าตลอดเวลา 5 ปีของรัฐบาลทักษิณได้พยายามโฆษณาตัวเอง สร้างภาพลวงตาคนทั้งประเทศ ด้วยนโยบายประชานิยม ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนคนจน โครงการโคล้านตัว คาราวานแก้จน หรือกระทั่งการจัดการน้ำทั้งระบบ ภายใต้วาทะกรรมน้ำแก้จน ภาพที่ถูกสร้างขึ้นจากลมปากของนายกฯทักษิณคือวิธีการเหล่านี้ที่ทำให้คนจนลดจำนวนลง ซึ่งในทางกลับกันวิธีการนี้ทำให้คนจนเพิ่มจำนวนมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้น ภายใต้ระบอบทักษิณวิธีการแก้ไขปัญหาความยากจนต่างเอื้อประโยชน์มหาศาล สร้างความมั่งคั่งร่ำรวย ให้กับพวกพ้องวงศ์ตระกูลของนายกฯเท่านั้นเอง
ฉะนั้นการปฏิรูปการเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะต้องสามารถแก้ปัญหาปากท้องและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนโดยยึดหลักการปกครองตนเองของประชาชนเพื่อประชาชนให้ประชาชนสามารถพึ่งตนเอง กำหนดชะตากรรมของตนเองได้
โดยออกกฎหมายที่ให้อำนาจชุมนุมท้องถิ่นในการเข้าถึง ใช้ประโยชน์และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ออกกฎหมายคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยในการดำรงชีวิตและกฎหมายอื่นๆ ที่จะเอื้อให้เกิดความเป็นธรรมระดับโครงสร้าง
ซึ่งเจตนารมย์ดังกล่าวมิอาจบรรลุได้ด้วยความปรารถนาดีของบุคคลหรือคณะบุคคลใด นอกจากจะเกิดโอกาสให้พลังของประชาชนเข้าร่วมในการผลักดันภายใต้รัฐบาลที่สถาปนาขึ้นตามครรลองของประชาธิปไตยเท่านั้น
ด้าน นาง
ซึ่งการเลือกตั้ง 2 เม.ย.ที่จะเกิดขึ้นเป็นการเลือกตั้งที่ไม่มีความชอบธรรม เพราะไม่มีฝ่ายค้านร่วมลงสมัครด้วย ขณะนี้ทางสมัชชาคนจนได้ประสานกับเครือข่ายพันธมิตร เช่น นาย
............................................................
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)