ศาลปกครองกลางโดยนาย
โดยคำพิพากษาของศาลปกครองกลางได้อ้างอำนาจของ กกต. ที่ได้รับรองโดยรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และ สว. รวม 3 ประการ คือ 1. อำนาจในการออกกฎเกณฑ์ซึ่งมีผลบังคับใช้เป็นการทั่วไป 2. อำนาจในการบริหารทั่วไป และ 3. อำนาจในการสั่งการหรือวินิจฉัย ซึ่งการใช้อำนาจทั้ง 3 เพื่อการควบคุมหรือดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้ง รวมทั้งบุคคลที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติของ กกต. หรือเห็นว่าการจัดการเลือกตั้งของ กกต. ไม่ได้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม อาจใช้สิทธิ์ร้องทางศาลอื่นได้
"เนื่องจากการออกประกาศทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวของ กกต. เป็นการใช้อำนาจตามมาตรา 145 วรรค หนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 144 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ มิใช่เป็นการใช้อำนาจทางบริหารหรือทางปกครองตามนัยยะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 52/2546 ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ ตามมาตรา 208 ของรัฐธรรมนูญ รวมถึงศาลปกครองด้วย ศาลปกครองจึงไม่อาจรับคำร้องคดีนี้ไว้พิจารณาพิพากษาได้ จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องคดีนี้ไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสาระบบความ เมื่อไม่รับคำฟ้องจึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาคำขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา"
ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวมีผลให้ กกต. สามารถดำเนินการเลือกตั้งใหม่ใน 38 เขต ในวันที่ 23 เม.ย. ได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ด้านนายถาวรระบุว่าได้มอบหมายให้ทนายดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดโดยเร็วที่สุด
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)