Skip to main content
sharethis



 


 


เมื่อวันที่ 29 เมษายน เวลา 11.00 น. พรรคประชาธิปัตย์ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่โรงแรมดิเอมเมอรัล โดยใช้ชื่อว่า "วาระประชาชนทิศทางอนาคตประเทศไทย" โดยแกนนำพรรค สมาชิกพรรค และตัวแทนทูตานุทูตในประเทศไทยหลายประเทศเข้าร่วม


 


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ขอน้อมรับพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดแจ้งว่า พร้อมที่จะให้ความร่วมมือตามแนวทางที่ฝ่ายตุลาการ คือศาลทั้ง 3 หากการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมานั้นไม่ชอบหรือเป็นโมฆะ พรรคฯ ก็พร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อที่จะเสนอตัวเป็นทางเลือกของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง


 


ปัญหาภาวะเศรษฐกิจไทยที่ตอนนี้ส่วนใหญ่วิตกกับภาวะข้าวของแพง เป็นทุกข์กับภาวะหนี้สินที่สั่งสมมาอย่างต่อเนื่อง ฐานะการคลังที่มีข่าวร้ายว่ามีการจ่ายเงินกับผู้รับเหมา พนักงานลูกจ้างล่าช้า สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ยุติ ซึ่งทุกปัญหามีการเชื่อมโยงกับการแก้ปัญหาที่ผิดพลาดเกี่ยวข้องผู้กำหนดนโยบายที่มีผลประโยชน์แอบแฝง


 


นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสเข้าไปกำหนดนโยบายจะยึดประโยชน์ของประชาชนเต็มร้อย และจำเป็นต้องแก้ไขสิ่งที่มีการกำหนดนโยบายในปัจจุบัน โดยจะผลักดันนโยบายที่เป็นวาระประชาชน โดยได้ยกตัวอย่างกรณีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กฟผ.และปตท. และย้ำว่าต่อไปพรรคประชาธิปัตย์จะไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เป็นกิจการสาธารณูปโภค แต่จะส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดการแข่งขันให้เกิดประโยชน์กับประชาชน


         


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในการทำเอฟทีเอกับต่างประเทศทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างมาก และว่าการดำเนินนโยบายพรรคประชาธิปัตย์จะไม่แก้หนี้สินโดยการเพิ่มหนี้สินจะต้องสร้างเศรษฐกิจคุณภาพเน้นการผลิตที่แท้จริง


 


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังย้ำว่าจะปรับปรุงนโยบายประชานิยมให้สนองตอบต่อประชาชนอย่างแท้จริงไม่ใช่สนองนโยบายของผู้นำ ไม่ว่าจะเป็น 30 บาทรักษาทุกโรค โดยจะสนับสนุนโครงการประกันสังคมให้ครอบคลุมไปถึงคนในครอบครัวเพื่อลดภาระของกองทุน 30 บาท ทำให้เกิดคุณภาพในการรักษามากขึ้น


 


ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า จะมีการปรับปรุงเงินกองทุนหมู่บ้านเพื่อให้เกิดการลงทุนเพื่ออาชีพอย่างแท้จริง จะมีการส่งเสริมกองทุนเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อรากหญ้าอย่างแท้จริง


         


ในตอนท้ายเขายังย้ำว่า หากเข้าไปเป็นผู้บริหารประเทศจะไม่มีนายกฯ คนเหนือ นายกฯ คนใต้ หรือนายกฯ กรุงเทพฯ แต่จะเป็นนายกฯ ของประเทศไทย จะเปิดกว้างให้มีการแสดงความเห็นที่แตกต่าง การอุ้มฆ่าตัดตอนจะต้องหมดไปกับรัฐบาลนี้ รวมทั้งย้ำว่ากลไกของรัฐหรือสื่อจะต้องเป็นของประชาชนไม่ใช่ของรัฐบาล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net