Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 27 ก.ค. 49     นายธัน บุญญะตุลานนท์ เลขานุการศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เรื่องการขอปล่อยตัวชั่วคราวของอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกอบด้วย พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต. จำเลยที่ 2 นายปริญญา นาคฉัตรีย์ อดีต กกต.จำเลยที่ 3 และนายวีระชัย แนวบุญเนียร อดีต กกต. จำเลยที่ 4 ให้ทีมกฎหมายของ กกต.และทนายความของอดีต กกต.ทั้งสามฟัง


 


นายธัน กล่าวว่า องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้ใช้เวลาพิจารณาสำนวนและคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยได้พิเคราะห์สำนวนและคำร้องแล้วเห็นว่า ข้อหาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 2 ถึง 4 มีความผิดนั้น มีความร้ายแรงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ก่อให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง การปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลยที่ 2-4 จะก่อเหตุอันตรายขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดีในศาล จึงให้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว


 


ทั้งนี้ ช่วงบ่าย วันที่ 26 ก.ค. นายยงเกียรติ อดีตเศรษฐ์กุล ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและคดีกกต.และทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากก่อนนี้หน้าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุกผู้ต้องขังคนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี และศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัว


 


นายยงเกียรติ อดีตเศรษฐ์กุล กล่าวว่า หลังจากนี้จะขอใช้สิทธิยื่นขอปล่อยตัว 3 กกต.ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าศาลจะให้ความเห็นชอบ แต่ขอไปหารือกับฝ่ายกฎหมายของ กกต.ก่อนว่าจะต่อสู้อย่างไร และนำเหตุผลอะไรไปอ้างต่อศาลในการขอปล่อยตัว ตอนนี้จึงยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก


  


จากนั้นนายยงเกียรติพร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อหารือกับ 3 อดีต กกต.และฝ่ายกฎหมาย ที่เรือนจำ โดยจะแจ้งเหตุผลให้สื่อมวลชนทราบต่อไป


  


ส่วน นายชูศักดิ์ เสนาบุญฤทธิ์ ทนายความกกต. ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะให้ ทั้ง 3 คน ลงนามเป็นหนังสือสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ประกอบคำร้องขอประกันตัว เพื่อให้ศาลมีความมั่นใจ เนื่องจากศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัวเพราะออกไปแล้วเกรงว่าจะก่อความวุ่นวาย


 


ด้าน นายวีระชัย แนวบุญเนียร อดีต กกต.ที่ถูกควบคุมตัวที่เรือนพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดใจว่าหลังเข้ารับการฟอกไตที่ตึกธนาคารกสิกรไทย โรงพยาบาลจุฬาฯ ว่า ไม่รู้สึกกดดันที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก ทำใจยอมรับได้เต็มร้อย เมื่อศาลเห็นว่า 3 กกต.ควรลาออกก็ต้องน้อมรับ ทั้งนี้ กกต.ทั้ง 3 คน ได้ลงนามในใบลาออกอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะหากไม่ลาออกก็หมดสภาพการเป็น กกต.อยู่ดี


 


ส่วนเหตุผลที่เพิ่งลาออกทั้งที่ถูกหลายฝ่ายกดดันมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากศาลยังไม่มีคำพิพากษา ซึ่งมีทั้งฝ่ายสนับสนุนให้ทำหน้าที่ต่อ และฝ่ายต่อต้านการทำหน้าที่ จึงมองว่ามีสิทธิ์ที่จะทำหน้าที่ต่อทำให้ไม่ลาออก


 


สำหรับอาการป่วย นายวีระชัย กล่าวว่า เป็นโรคไตวายเรื้อรัง ต้องฟอกไตเป็นประจำ ทุกวันพุธ และวันเสาร์ มานานนับปีแล้ว และที่มาพบแพทย์ครั้งนี้ก็มาตามนัด ไม่มีอะไรผิดปกติ


 


สำหรับความคืบหน้าในการสรรหา กกต.ชุดใหม่   นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขานุการ ศาลฎีกา คาดว่า ภายในวันที่ 15 ส.ค. ศาลฎีกาจะสามารถสรรหาบุคคลที่สมควรเป็นกกต. จำนวน 10 คน เสนอไปยังรักษาการวุฒิสภาได้  และหวังว่าจะดำเนินการให้ได้กกต.ชุดใหม่ ก่อน 24 สิงหาคม  โดยในส่วนของกระบวนของศาลฎีกาในการสรรหาผู้เหมาะสมเสนอตัวเป็น กกต.  ในวันที่ 27 ก.ค.จะมีการประชุมคณะทำงาน และเสนอเรื่องไปยังประธานศาลฎีกา เพื่อให้ออกประกาศ 3 เรื่องพร้อมกัน คือ ให้มีการเสนอรายชื่อผู้สมัครเป็น กกต. ตั้งคณะทำงานตรวจสอบผู้เสนอชื่อ และกำหนดวันประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อลงมติเลือกผู้สมควรถูกเสนอชื่อเป็น กกต.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net