ประชาไท25 ก.ค. 48 "กระบวนการภาคประชาชนทุกๆ ที่นั้น สื่อเป็นตัวบ่งชี้ว่าจะอยู่หรือจะตาย ประจวบเหมาะกับพื้นที่นามธรรมนี้ได้ถูกฝ่ายทุนยึดในการกำหนดทิศทางและเป้าหมาย ทำให้สื่อปัจจุบันตอบสนองทุนมากกว่าข่าวหรือความจริง ส่งผลให้พื้นที่ภาคประชาชนมีน้อยลง" พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ ประธานมูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ กล่าวในเวทีแลกเปลี่ยน "ขบวนการเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมภาคประชาชน "ตาย" หรือ "ยัง? ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วานนี้
ขณะที่ พระกิตติศักดิ์ชี้ให้เห็นความสำคัญของสื่อ โดยมองว่าคนที่จะถูกทำให้เป็นข่าวสำคัญต้องทำการบ้านโดยอาศัยสถานการณ์ให้สื่อหยิบไปใช้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะอีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องการพื้นที่เชิงนามธรรมนี้ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งต้องตัดสินใจว่าจะให้หรือไม่ให้ และสุดท้ายสื่อคือผู้ตัดสิน ดังนั้นขบวนการเคลื่อนไหวภาคประชาชนจะเป็นหรือตายก็ขึ้นอยู่กับสื่อเป็นสำคัญ
"ปัจจุบันเราอยู่ในสถานการณ์สงครามแย่งชิงพื้นที่ทั้งรูปธรรมและนามธรรม โดยสื่อเป็นเจ้าของพื้นที่นามธรรมที่สำคัญ ซึ่งมีส่วนคุมชะตาชีวิตของคนจำนวนมาก เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการปรากฏในพื้นที่ที่เป็นนามธรรมนี้ จึงก่อให้เกิดการชิงพื้นที่เพื่อแสดงจุดยืนและความมีอยู่ของฝ่ายต่างๆ" พระกิตติศักดิ์ อธิบาย
อย่างไรก็ตาม พระกิตติศักดิ์ ยกตัวอย่างเพิ่มเติมว่า กรณีฆ่าพระสุพจน์ สุวโจ ที่อำเภอฝางทำให้ต้องเผชิญกับอิทธิพลมืด อิทธิพลรัฐ และสื่อ ซึ่งถ้าหากทั้ง 3 ส่วนสามารถผนึกกำลังกันได้ก็จะทำให้ภาคประชาชนไม่มีพื้นที่
"ตอนนี้ขบวนการภาคประชาชนยังไม่ตาย แต่จะอยู่ได้นานเท่าไร การมีอยู่คืออะไร ชาวบ้านที่มีแต่การตั้งรับในการรุกคืบของรัฐและทุนที่มีส่วนสัมพันธ์กับสื่อนั้น ทำให้ประชาชนกำลังเสียพื้นที่ในเชิงรูปธรรมและนามธรรม และภาวะเศรษฐกิจที่ลิดรอนอยู่อย่างนี้ ไม่สามารถรักษามโนสำนึกของสื่อได้ เพราะเนื้อที่กำลังถูกบุกรุกโดยทุนอย่างหนัก" ประธานเครือข่ายเสขิยธรรม กล่าว
อย่างไรก็ดี พระกิตติศักดิ์มองว่า สื่อกระแสรองก็นับเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญ เพราะถ้าถึงจุดหนึ่งสื่อกระแสหลักไม่สามารถตอบสนองสิ่งที่จะขายได้ ต่อไปสื่อเล็กๆ ที่ยังสามารถรักษาจุดยืนไว้ได้ก็จะเป็นที่พึ่งของคนที่ขาดพื้นที่ ซึ่งประเด็นไม่ใช่อยู่ที่ขนาดแต่อยู่ที่จุดยืนในความถูกต้องเป็นธรรมต่างหาก
"สื่อ"ถูกครองกระทบพื้นที่สาธารณะ
"ความจริงแล้วภาคประชาชนหรือสื่อกันแน่ที่ตาย ทุกวันนี้ทำไมแกนนำเคลื่อนไหวภาคประชาชนยังตายมากขึ้น ก็ต้องถามสื่อกับภาคประชาชนว่าใครกันแน่ที่นิ่งเงียบ เพราะตอนนี้สื่อถูกนักการ เมืองและธุรกิจชิงพื้นที่ไปหมดแล้ว" นางจินตนา แก้วขาว ประธานกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด กล่าว
นางจินตนา กล่าวต่อไปว่า ชาวบ้านมักไม่ได้รับความสนใจจากสื่อ จึงต้องหาวิธีคัดค้านใหม่ๆ เพื่อสร้างข่าวด้วยตนเอง เช่นเดียวกับสินค้าที่ต้องทำให้มีชื่อคนถึงจะซื้อ ซึ่งชาวบ้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ต่อสู้คัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินมาตั้งแต่ปี 2540 แต่ก็ยังไม่มีใครขานรับ แม้ว่าโรงไฟฟ้าจะกระทบธรรมชาติสิ่งแวดล้อมมากมายก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น ประธานกลุ่มอนุรักษ์ฯ บ้านกรูด ได้แสดงความเห็นว่า "ยังไม่ต้องเป็นห่วงภาคประชาชนเพราะยังมีอยู่แน่นอน แต่ก็อาจลดทอนความเข้มแข็งลงไป เนื่องจากทั้งเศรษฐกิจและรัฐเข้ามาแทรกแซง ต่อไปกระบวนการภาคประชาชนก็อาจดับลงเพราะมีสื่อที่ถูกแทรกแซงนี่แหละ"
"ทุนและรัฐทำให้สื่อไม่กล้านำเสนอประเด็นของชาวบ้าน เท่ากับเป็นตัวเร่งให้ชาวบ้านต้องแสดงแอ็คชั่นและอาจถูกมองว่าสร้างความน่ารังเกียจให้สังคม ถึงตอนนี้จึงต้องมีการปรับกระบวนจากที่เคยถูกซ่อนไว้ ก็ต้องทำให้ได้รับความสนใจจากรัฐขึ้นมา" นางจินตนา นำเสนอ
ขณะเดียวกัน นางจินตนา ยังตั้งคำถามต่อว่า ทุกวันนี้แกนนำที่ถูกฆ่ากลับไม่มีอะไรคืบหน้า เราก็ติดตามและทวงถามคดีอยู่ตลอดเวลา แต่สงสัยว่าถ้าเราไม่มีคนเยอะพอก็จะไม่มีพื้นที่สื่อ และถ้าคนยิ่งน้อยเราก็จะหลุดจากวงจรสื่อไปเลย ประชาชนเองก็ใช่ว่าจะมีเวลา สิ่งเหล่านี้ทำให้ภาคประชาชนหายไปจากสังคม
"ขณะนี้สื่อถูกแทรกแซงในส่วนประชาชน เราไม่มีอาชีพตอบแทนจากการเคลื่อนไหว ยิ่งกว่านั้นทุกวันนี้ชาวบ้านเองยังถูกครอบงำโดยรัฐ เช่นการนำตำแหน่งทางการเมืองเล็กๆ จำนวนมากมาให้ชาวบ้าน ทำให้พวกเขาถูกบอกว่าเก่งและต้องปฏิบัติตามนโยบาย ชาวบ้านเหล่านี้เท่ากับอยู่ในมือของรัฐ จนทำให้ไม่มีโอกาสคิดพัฒนาเรื่องอื่นได้เลย"ประธานกลุ่มอนุรักษ์ฯ บ้านกรูด แสดงทัศนะ
อย่างไรก็ตาม นางจินตนา แสดงความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการภาคประชาชนที่รัฐเข้ามาแทรกแซงว่า จากที่ชาวบ้านเคยมีเวลาทำกินก็มัวแต่ไปประชุม เช่น คณะกรรมการหมู่บ้านตามโครงการต่างๆ กองทุนหมู่บ้าน เอสเอ็มเอล ฯลฯ เหมือนกับว่ารัฐพยายามแยกสลายชุมชน ซึ่งแท้จริงแล้วรัฐควรให้ชาวบ้านตัดสินใจและพัฒนาตนเองมากกว่า
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)