Skip to main content
sharethis

การเมือง


"หมอประเวศ" เสนอตั้ง กก.โยกย้ายแห่งชาติ แก้การเมืองล้วงลูก


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ- ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงกรณีที่แพทย์ชนบทออกมาล่ารายชื่อถอดถอนนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า แพทย์ชนบทมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ทำงานอุทิศตัวเพื่อประชาชน ต้องการเห็นความถูกต้อง หากไม่ถูกต้องจะออกมาต่อสู้ กระทรวงสาธารณสุขเป็นกระทรวงปราบเซียน ใครไม่ถูกต้องมาอยู่ เดี๋ยวก็เกิดเรื่อง เพราะคนที่เป็นหมอมีความกล้ากว่าข้าราชการอื่นๆ เพราะมีความอิสระสูง เนื่องจากความเป็นวิชาชีพ แม้ถูกไล่ออกก็ไปประกอบอาชีพดูแลคนไข้ได้ จึงกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า


 


ส่วนกรณีที่นักวิชาการไม่เห็นด้วยกับการโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงนั้น ศ.นพ.ประเวศ เห็นว่า เป็นสิทธิอันชอบธรรม หากรัฐบาลคิดว่าทำถูกต้องก็อธิบายไป ทั้งนี้ เห็นว่าขณะนี้รัฐมนตรีมีอำนาจมาก จะย้ายใครวันไหนก็ได้ และยังมีการขู่ให้ข้าราชการกลัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดี ฝ่ายการเมืองควรดูเรื่องนโยบายอย่างเดียว ไม่ควรล้วงลูกผู้ปฏิบัติงาน ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายน่าจะมีคณะกรรมการสรรหาแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยคนกลางจากหลายสาขาเป็นผู้พิจารณา และส่งต่อให้สภาพิจารณา แต่ระบบอย่างปัจจุบันถือเป็นระบบทำลายคน


 


 


"วีระ" เล็งฟ้อง 5 กกต.ไม่เอาผิด พปช.เป็นนอมินี


เว็บไซต์คมชัดลึก - กรณีสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องพรรคประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย ซึ่ง กกต.ได้สั่งให้คณะอนุกรรมการซึ่งมีนายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ เป็นประธานสอบสวนไปสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่า กกต.จะลงมติในวันที่ 18 มีนาคม แต่ กกต.เสียงแตกและแนวโน้มจะตัดสินว่าไม่มีกฎหมายเอาผิดได้นั้น



 


เมื่อวันที่ 15 มีนาคม นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) ในฐานะผู้ยื่นเรื่องร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สอบสวนข้อเท็จจริงกรณีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย ให้ความเห็นกรณีที่ กกต.บางคนยอมรับว่าไม่สามารถอ้างข้อกฎหมายเพื่อเอาผิดพรรคพลังประชาชนได้ เพราะคำว่า "นอมินี" ไม่มีบัญญัติไว้ในกฎหมาย



 


ทั้งนี้ นายวีระเห็นว่าหากคณะกรรมการพิจารณาแต่เฉพาะคำว่า "นอมินี" แล้วบอกว่าไม่มีความผิดนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะ กกต.มีหน้าที่รักษากฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งระบุถึงพรรคการเมือง ที่ต้องคำสั่งยุบพรรคการเมืองไปแล้ว



 


นายวีระกล่าวว่า การจับเฉพาะคำว่านอมินี แล้วบอกไม่มีการบัญญัติและไม่ให้พูดถึงอีกนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะแสดงให้เห็นว่า กกต.ลืมเจตนารมณ์ซึ่งเป็นสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ ต่อไปหากมีพรรคการเมืองทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยไปซื้อเสียงหรือไปให้คนอื่นเป็นตัวแทน แล้วถูกลงโทษ บอกว่าจะต้องถูกยุติบทบาทไป เขาก็คงไม่กลัว เพราะเขาตั้งพรรคการเมืองใหม่ทันทีเลย



การพิจารณาเช่นนี้ของ กกต.ถามว่าอย่างนี้เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเป็นหมันหรือไม่ เพราะคนที่กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง เขาก็ทำความผิดกันหมดเพราะเห็นตัวอย่างแบบนี้ ซึ่งอยากให้เราไปให้ความสำคัญมากกว่านี้



 


"นี่คือความเสียหายที่เกิดขึ้น และอยากให้เรากลับไปให้ความสำคัญ อย่าเอาเฉพาะภาษา แต่ต้องดูเจตนารมณ์ เพราะประเด็นคือการฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของกฎหมาย ว่าเขาให้พรรคนี้ นโยบายแบบนี้ ผู้บริหารทั้ง 111 คนที่โดนตัดสิทธิ ศาลเขาสั่งให้หยุดก่อน 5 ปี คุณจะทำอะไรไม่ได้ ถ้าพ้นจากนั้นจะทำอะไรก็ว่ากันอีกที เป็นเรื่องของคุณ แต่นี่ภายใน 5 ปี คุณไม่สน ยังมีการใช้กลุ่มเก่า คุณยังมีการเคลื่อนไหว ยังมีการทำการเหมือนเดิม แล้วถ้าปล่อยอย่างนี้ให้ทำได้ ต่อไปคนอื่นก็เป็นบรรทัดฐาน คนอื่นก็ทำอีก แล้วจะมาบอกว่าที่ผ่านมาไม่เห็นมีใครว่าพรรคนี้เลย ผมถามว่าถ้าเป็นแบบนี้ ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายอยู่ตรงไหน" นายวีระ กล่าว



 


เมื่อถามว่า กกต.บางคนระบุว่าจะตรวจสอบเฉพาะประเด็นที่นายวีระร้องเรียนเรื่องเป็นนอมินีเท่านั้น โดยไม่พิจารณาประเด็นอื่นเพิ่มเติมนั้น นายวีระกล่าวว่า ล่าสุดทราบข่าวว่านางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง บอกว่าได้ขยายเวลาสอบเรื่องนี้ออกไปอีก 15 วัน และมีตนเป็นหนึ่งในนั้น นอกเหนือจากการเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกเรียกสอบ ซึ่งยังไม่ทราบประเด็นที่คณะอนุกรรมการให้ไปชี้แจง แต่ไม่เห็นว่าน่าจะเป็นประเด็นที่ตั้งขึ้นใหม่หรือไม่ ทั้งนี้ เห็นว่าลำพังแค่การแสดงออกว่าเป็นคนสนับสนุนตั้งพรรคก็น่าจะเพียงพอแล้ว



 


"หาก กกต.พยายามทำขัดต่อกฎหมาย ทั้งๆ ที่หลักฐานชัด ผมก็พร้อมจะดำเนินการเอาผิดฟ้องกกต.ทั้ง 5 คนต่อ ป.ป.ช. และคณะอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย แต่ทั้งนี้จะขอรอดูมติ กกต.ก่อนว่าจะสรุปอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเห็นว่า กกต.มักอ้างว่าไม่มีผู้ร้อง จึงไม่สามารถขยายประเด็นการสอบสวนประเด็นอื่นๆ ได้ ซึ่งส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า กกต.อาจมีเจตนาไม่บริสุทธิ์หรือไม่" นายวีระ กล่าว



 


นายวีระยังกล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ เรียกตนมาชี้แจงเพิ่มเติมในวันที่ 18 มีนาคมนี้ว่ายินดีจะไปชี้แจง แต่คิดว่าคงมีเงื่อนไขเพิ่ม คือที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการชุดนี้ไม่เปิดโอกาสให้บันทึกภาพหรือเอกสารคำให้การระหว่างที่เข้าชี้แจง แต่เงื่อนไขใหม่เห็นว่าจะขออนุญาตคณะอนุกรรมการเพื่อบันทึกภาพและเสียงในระหว่างชี้แจง หากคณะอนุกรรมการไม่อนุญาตตนคงขอไม่ให้ข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมอีก



 


 


สัมมนาแก้ระเบียบประชุมวุฒิฯ


เว็บไซต์คมชัดลึก -ส่วนภารกิจของ ส.ว.และวุฒิสภาว่าต้องรอให้มีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมนายประสพสุข บุญเดช ส.ว.สรรหา เป็นประธานวุฒิสภาก่อน คาดว่าประมาณสัปดาห์หน้า จากนั้นจะมีการสัมมนา ส.ว.ทั้งหมด ที่พัทยา ระหว่างวันที่ 22-23 มีนาคมนี้ ซึ่งจัดโดยสถาบันพระปกเกล้า เพื่อจะได้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบข้อบังคับการประชุม และกำหนดจำนวนคณะกรรมาธิการสามัญใหม่



 


ส่วนกรณีที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร เสนอให้มีคณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริต ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ในการทำงานของสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้มีพลังในการตรวจสอบมากขึ้นนั้น นายประสาร กล่าวว่า ยังไม่มีการหารือกันว่าจะเริ่มต้นตรวจสอบรัฐบาลในจุดไหนก่อน วุฒิสภาชุดนี้ไม่ได้อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล แต่จะทำงานอย่างเป็นอิสระมากกว่าวุฒิสภาชุดที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่ ส.ว.เลือกตั้งบางส่วนมีความสัมพันธ์กับฝ่ายการเมืองนั้น ก็ต้องมีการทำความเข้าใจกันว่าความสง่างามของ ส.ว. คือความเป็นอิสระ



 


 


เตรียมแจง ปชต.พม่าในเวทียูเอ็น


เว็บไซต์คมชัดลึก -ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 14 มีนาคม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวหลังเดินทางกลับจากการเยือนสหภาพพม่า ว่าได้เข้าเยี่ยม พล.อ.อาวุโสตัน ฉ่วย ประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ และ พล.อ.เต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรี พล.อ.หม่องเอ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า



 


ผลการหารือได้พูดคุยถึงแนวทางการสร้างประชาธิปไตยของพม่า ทำให้ได้ข้อมูลมากพอสมควร และจะนำข้อมูลเหล่านี้มาบอกเล่าให้ประเทศที่สนใจ โดยเฉพาะจะนำไปพูดกับกลุ่มประเทศในยุโรป ในโอกาสที่จะเดินทางไปเยือนในอนาคต และจะนำไปพูดในการประชุมสหประชาชาติประมาณเดือนกันยายนด้วย



 


นอกจากนี้ ยังพูดคุยปัญหาตามแนวชายแดน ทั้งเรื่องการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายตามแนวชายแดนที่พม่าต้องการให้ประเทศไทยให้ความช่วยเหลือ และการปราบปรามปัญหายาเสพติด ซึ่งพม่ายืนยันว่า พม่าทำการปราบปรามเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดและแข็งขัน ถ้าใครมียาบ้า 1 เม็ด มีโทษจำคุกถึง 10 ปี ซึ่งถือเป็นโทษที่รุนแรงมาก



 


 


เผยโครงการร่วมมือเศรษฐกิจไทย-พม่า


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายสมัคร กล่าวว่า ได้หารือเรื่องการซื้อขายก๊าซจากแหล่งเอ็ม 9 โดยพม่ายินดีให้หน่วยงานของไทยดำเนินการ และจัดทำข้อตกลงซื้อขายก๊าซเอ็ม 9 ร่วมกัน และหารือเรื่องการนำพลังงานน้ำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าและขายให้ไทยกว่า 1.5 หมื่นเมกะวัตต์ ซึ่งจะมีการหารือทำข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง



 


"รัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่ามีแผนร่วมกันในการเชื่อมโยงถนนจากกรุงเทพมหานครผ่าน จ.กาญจนบุรี เข้าสู่เมืองทวายของสหภาพพม่า เพื่อรองรับการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกของพม่า ซึ่งพม่าต้องการความร่วมมือจากไทย บริเวณดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อมายังท่าเรือแหลมฉบังได้สะดวก ซึ่งจะเป็นผลดีกับนักธุรกิจไทย-พม่า เพื่อเชื่อมโยงระบบขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือน้ำลึกที่แหลมฉบัง ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก เป็นประโยชน์ต่อการค้าขายทางเศรษฐกิจ" นายกรัฐมนตรี กล่าว



 


นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายให้ทีมไทยแลนด์ และพบปะชุมชนชาวไทยในพม่า ที่มีประมาณ 500 คน ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ พนักงานโรงแรม ช่างเสริมสวย และก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย นายกรัฐมนตรีได้สักการะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง



 


 


แจง "หมัก" หว่านงบรากหญ้า1.5 หมื่นล้าน


เว็บไซต์คมชัดลึก - เมื่อเวลา 11.00 น. นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี และนายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีพร้อมกันที่บ้านพักหมู่บ้านโอฬาร ซอยนวมินทร์ 81 จนกระทั่งเวลา 13.15 น. นพ.สุรพงษ์ นายสหัส และนายธีรพล ได้ทยอยเดินทางออกจากบ้านพักของนายสมัคร



 


นพ.สุรพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่าเข้าพบเพื่อรายงานผลการประชุมงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้ประชุมไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งการเข้ารายงานในวันนี้เป็นเพราะเมื่อวันที่ 14 มีนาคม นายสมัครเดินทางไปเยือนสหภาพพม่า ซึ่งงบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า และฐานรากส่วนนี้รัฐบาลจะเริ่มทยอยอัดฉีดลงในระบบผ่านโครงการเอสเอ็มแอลในทุกหมู่บ้าน จากการหารือนายสมัครก็เห็นชอบในแนวทางและการดำเนินงาน นายสมัครจะนำรายละเอียดของโครงการไปชี้แจงในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ที่จะออกอากาศผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ในวันที่ 16 มีนาคม



  


 


สุริยะใสถาม ผบ.ทร. "ทักษิณ" ดี ทำรัฐประหารทำไม


เว็บไซต์คมชัดลึก -นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า พันธมิตรฯ ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ท้วงติงและเสนอแนะต่อการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งพันธมิตรพร้อมรับฟังทุกความเห็น โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมในวันที่ 28 มีนาคม ที่หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ นั้น ในขณะนี้มีกระแสตอบรับเข้าร่วมจำนวนมาก คงเป็นเพราะการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ยึดมั่นแนวทางสันติวิธี และกรอบรัฐรรมนูญ



 


แต่ก็มีบางข้อท้วงติงที่เข้าใจผิดต่อกิจกรรมดังกล่าว ไปคิดว่าเป็นการชุมนุมเหมือนที่ผ่านๆ มา ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่การชุมนุม เป็นการจัดกิจกรรมในลักษณะเวทีอภิปรายทางวิชาการ โดยรูปแบบและเนื้อหาจะมีทั้งงานภาคการเมืองเป็นการอภิปรายของหลายฝ่ายทั้งนักวิชาการ เยาวชนนักศึกษา ตัวแทนองค์กรแนวร่วม และแกนนำพันธมิตรฯ นอกจากนี้งานภาควัฒนธรรมก็จะมีทั้งดนตรีเพื่อชีวิตและการแสดงละครการเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด



 


ส่วนกรณีที่ ผบ.ทร. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ออกมาตำหนิการเคลื่อนไหวว่าเร็วเกินไปต้องให้โอกาสรัฐบาลและอย่าเอาเสียงส่วนน้อนมาตัดสินเสียงส่วนใหญ่นั้น พันธมิตรยินดีรับฟังและเรายังยืนยันว่ายังให้โอกาสในการทำงาน และสนับสนุนรัฐบาลให้จริงจังต่อการแก้ปัญหาประเทศไม่ใช่ทำตัวเป็นนอมินีฟอกผิดให้คนๆ คนเดียว



 


และที่บอกกว่าอย่าเอาเสียงส่วนน้อยมาตัดสินเสียงส่วนใหญ่ ก็ขอถามกลับไปยัง ผบ.ทร.ว่าแล้วไปรัฐประหารรัฐบาล พตท.ทักษิณ ทำไมในเมื่อเขามาจากเสียงส่วนใหญ่ อย่าเอาผลการเลือกตั้งไปชี้ถูกชี้ผิดทุกเรื่อง เพราะในอดีตก็มีบทเรียนให้กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้มีอำนาจ หากไม่สรุปบทเรียนประชาชนก็ต้องออกแรงตักเตือนซึ่งถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ



 


 


คาดม็อบ 3 หมื่นที่หอประชมใหญ่ มธ.


เว็บไซต์คมชัดลึก- น.ส.อัญชลี ไพรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อแผ่นดิน อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สมุทรปราการ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ในวันที่ 28 มีนาคมว่า หากอยากรู้ว่า คนสมุทรปราการ จะรู้สึกอย่างไรกับนายประชา ประสพดี และนายนที สุทินเผือก หรือกรุง ศรีวิไล ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ให้มายืนดูหน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 28 มีนาคม และอยากให้ 2 คน เตรียมผ้าเช็ดหน้ามาด้วย จะได้ซับเหงื่อ ซับน้ำตา หลังจากเห็นพลังมวลชนจากสมุทรปราการ มาร่วมเวทีกับพันธมิตรฯ อย่าแสดงอาการตกใจให้เห็น คาดว่าจะมีพันธมิตรฯทั่วประเทศ มาร่วมประมาณ 3 หมื่นคน และขณะนี้ได้ตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อมาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯแล้ว



 


น.ส.อัญชลี ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. อดีตสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ออกมาคัดค้านการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ โดยระบุว่าคนพันคน จะนำคนไปตัดสินแทนคน 70 ล้านคนได้อย่างไร ว่า อยากถามว่า คนพัน คนหมื่นคน ไม่มีค่าหรืออย่างไร หากพูดเช่นนี้ถือว่าไม่ให้ความสำคัญคนพันคน เหมือนกับคนไทย 70 ล้านคนหรือ โดยเหตุที่พันธมิตรฯ ต้องออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งนั้น เป็นเพราะว่า คมช.ที่ ผบ.ทร.เคยเป็นสมาชิก ไม่ได้ทำอะไรเลย ถ้าทำประเทศไทยคงไม่เป็นแบบนี้ ดังนั้นจึงขอเชิญพันธมิตรฯมารวมกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นคนไทยนักสู้พันธุ์แท้ ไม่ใช่พันธุ์ทาง เห่าหอนไปวัน


 


 


"ปชป." แจง "อภิรักษ์" หยุดทำงานชั่วคราวไม่เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่


เว็บไซต์แนวหน้า - นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยุติทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. ชั่วคราว หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีมติชี้มูลความผิดที่เข้าไปเกี่ยวข้องในคดีจัดซื้อรถ และรถดับเพลิง ไม่ชอบ ว่า พรรคไม่คิดว่าการแสดงความรับผิดชอบของนายอภิรักษ์ จะกลายเป็นประเด็นการเมือง แต่นายอภิรักษ์คิดว่าเมื่อถูกกล่าวหา ถึงแม้จะมีความบริสุทธิ์ แต่ก็ขอหยุดทำงานเพื่อที่จะไม่ให้ถูกครหา ว่าจะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน ตรงนี้เป็นการแสดงสปีริตทางการเมือง ทั้งนี้ตนอยากขอชี้แจง เพราะเกรงว่าจะมีการให้ความเห็นที่สับสน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับข้อกฎหมาย คือ



 


1. นายอภิรักษ์ ยังอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ดังนั้นเมื่อยังไม่ได้พ้นจากตำแหน่ง จึงไม่ใช่ประเด็นที่ให้ปลัด กทม. มารักษาการแทน 2. ส่วนที่มีการวิพาษ์วิจารณ์ว่านายอภิรักษ์ต้องรับผิดไปถึงคดีอาญาในเรื่องของการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตนก็อยากจะให้ดูกฎหมายในเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพราะความผิดตามกระบวนกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีองค์ประกอบพิเศษว่าต้องกระทำโดยทุจริต หรือ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นการหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ถือว่ากระทำโดยบริสุทธิ์ใจไม่ได้ทำโดยเจตนาทุจริต จึงไม่มีความผิด



 


ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรที่สำนักงานกฎหมายและคดีของกทม. ได้ยื่นเรื่องให้กฤษฎีกาตีความด่วนกรณีที่นายอภิรักษ์หยุดทำหน้าที่ชั่วคราวได้หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิดของสำนักกฎหมาย กทม. เพราะกรณีในส่วนนั้น เป็นกรณีที่ถ้าผู้ว่า กทม. พ้นจากตำแหน่ง ก็ให้ปลัด กทม. ดำเนินการแทน แต่กรณีนี้นายอภิรักษ์ยังไม่ได้พ้นจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตามตนยังไม่เห็นรายละเอียดของเนื้อความที่สำนักกฎหมาย กทม. ส่งไปให้ตีความ แต่เข้าใจว่าอาจจะต้องการให้เกิดความชัดเจน


 


 


"นพดล" ระบุ ไปอังกฤษไม่มีหมายเข้าพบ "ทักษิณ"


เว็บไซต์แนวหน้า- นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ตนจะเดินทางไปประเทศสหรัฐฯ ในคืนพรุ่งนี้ ( 16 มีนา) แล้วจะแวะไปที่ประเทศอังกฤษ เพื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และไปพบนักธุรกิจเป็นการเดินสายเพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในยุโรป สหรัฐ ฯ ว่าเราเป็นประชาธิปไตยแล้วยินดีเปิดกว้างต้อนรับนักลงทุน และคงมีนักธุรกิจมาพบปะพูดคุยในการทานอาหารเช้า วันที่ 19 มีนา หลังจากนั้นก็จะเดินทางต่อไปที่ประเทศสหรัฐฯ พบบุคคลสำคัญ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางคอนโดลิซ่า ไรท์ ซึ่งคงมีการพูดคุยกันหลากหลาย พร้อมทั้งตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ดี 175 ปีไทยสหรัฐ รวมทั้งการไปขอบคุณเขาที่เขามีไมตรีกับเราทันทีที่เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ในส่วนของการคืนความช่วยเหลือทางทหาร



 


นายนพดล กล่าวว่า นอกจากนี้จะไปเชิญประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาเยือนประเทศไทย และจะไปพบที่ปรึกษาทางด้านความมั่นคง เพื่อพูดคุยกันในประเด็นต่างๆ และจะไปพบนักธุรกิจกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง พบองค์กรที่เรียกว่า ซีเอสไอเอส เป็นองค์การทางด้านยุทธศาสตร์ รวมทั้งการไปกล่าวสุนทรพจน์อีกหลายที่



 


"ภาพรวมทั้งหมดก็คือ ไปสร้างความเชื่อมั่นให้สหรัฐฯ ว่าขณะนี้เรามีรัฐบาลที่มีความเป็นประชาธิปไตย เรายินดีที่สานสัมพันธ์ และ สหรัฐฯ เป็นมิตรประเทศที่สำคัญ ตลอดจนเราจะร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการทำงานร่วมกับทวิภาคี พหุภาคี หวังว่าจะเป็นประโยชน์ ปูทางให้นักธุรกิจเข้ามาในประเทศไทย ประมาณเดือนเมษายน ซึ่งเราจะเปิดทำเนียบต้อนรับ มีผู้นำทางธุรกิจใหญ่ๆ ที่สำคัญ เช่น เชฟรอน ฟอร์ด " นายนพดล กล่าว



 


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกำหนดการที่จะไปพบพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในประเด็นเรื่องนอมินี หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า คงไม่ได้มีการพูดคุย และไม่มีกำหนดจะเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เพราะท่านอาจจะอยู่ที่แมนซิตี้ฯ ดูสโมสรของท่าน ซึ่งตนจะไปสองวัน และไม่ได้มีตารางที่จะพบ พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่ได้มีการพูดคุยกัน



 


เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยเคลียร์ใจกับนายกิตติ วะสีนนท์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอนในเรื่องการโยกย้ายหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า การโยกย้ายที่เกิดขึ้นประมาณหนึ่งสองอาทิตย์มานี้ คิดว่าไม่น่าจะมีอยู่ที่ลอนดอนด้วยเพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องเคลียร์ใจ เพราะตนโดยส่วนตัวก็ไม่ได้มีปัญหาทางใจอะไรกับท่านทูตกิตติ และคงไม่มีอะไร ตนยังไม่ได้ทำโผ แต่ไม่น่าจะมีที่ลอนดอน ให้สบายใจก็แล้วกัน เมื่อถามมาก็ตอบไป


 


 


ตุลาการ รธน.ใหม่คลอด 25 มี.ค.


เว็บไซต์คมชัดลึก - คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้แก่ นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานกรรมการสรรหา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พร้อมกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 คน คือ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครอง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้ารับการสรรหาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 22 คน



 


โดยที่ประชุมไม่ได้พิจารณาตัดสิทธิ์ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการเสนอชื่อและผู้ทรงคุณวุฒิที่มาสมัครด้วยตนเองรายใดเลย และแบ่งผู้ทรงคุณวุฒิออกเป็นสายนิติศาสตร์ จำนวน 9 คน คือ นายมานิต วิทยาเต็ม นายจรัญ ภักดีธนากุล นายศักดิ์ เตชาชาญ นายวสันต์ พานิช พล.ต.อ.ดรุณ โสตถิพันธุ์ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ พ.อ.พัฒนพงษ์ เกิดอุดม นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ และนายสมชัย จึงประเสริฐ



 


ส่วนผู้ทรงคุณวุฒิสายรัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ หรือสังคมศาสตร์อื่น จำนวน 13 คน คือ นายสามารถ ศรียานงค์ นายวิทย์ ลิมานนท์วราไชย พล.ท.เดชพันธ์ ดวงรัตน์ นายจิรศักดิ์ เกษณียบุตร นายเฉลิมพล เอกอุรุ นายจเด็จ อินสว่าง นายสุพจน์ ไข่มุกด์ นายเมฆินทร์ เมธาวิกูล นายอานนท์ พรหมนารท นายวิจิตร วิชัยสาร นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ พล.อ.เกษมชาติ นเรศเสนีย์ และนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น



 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหาตั้งข้อสังเกตคุณสมบัติบางคน โดยเฉพาะลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2550 และการเทียบตำแหน่งอธิบดีหรือตำแหน่งผู้บริหารเทียบเท่า ซึ่งไม่สามารถชี้ชัดได้ จึงเห็นควรให้ประชาชนส่งข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับผู้สมัครมาประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาจะตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครให้เสร็จภายในวันที่ 24 มีนาคม และลงมติวันที่ 25 มีนาคมนี้ เพื่อเลือกผู้ทรงคุณวุฒิให้เหลือสาขาละ 4 คน



 


นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่ถนัดงานด้านตุลาการมากกว่างานด้านบริหาร จึงไม่คำนึงว่าจะเป็นศาลใด นอกจากนี้ งานด้านตุลาการไม่ต้องยุ่งกับคน เพราะพิจารณาตามพยานหลักฐานและกฎหมาย



 


ด้านนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า หากนายสมชัย ได้รับเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่กระทบต่อ กกต. เพราะการทำงานใช้มติเสียงข้างมาก และจะมีกระบวนสรรหาแทนตำแหน่งที่ว่างต่อไป


 


 


คตส.ตั้งคณะทำงานร่วม อสส.กรณีทุจริตกล้ายาง


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดยังไม่ส่งฟ้องคดีทุจริตการจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น มูลค่า 1,440 ล้านบาท ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้เหตุผลว่าสำนวนของ คตส.ไม่สมบูรณ์ ว่ายังไม่เห็นรายละเอียดความเห็นของอัยการสูงสุด แต่จะนำเรื่องดังกล่าวหารือในที่ประชุมใหญ่ในวันจันทร์ที่ 17 มีนาคมนี้ และจะแต่งตั้งบุคคล 5 คน เป็นคณะกรรมการร่วมระหว่าง คตส.กับอัยการสูงสุด โดยคณะทำงานชุดดังกล่าวจะมีระยะเวลาทำงาน 14 วัน เพื่อพิจารณาหาข้อยุติที่เป็นความเห็นร่วมกันในสำนวน ทั้งนี้ เชื่อว่า จะไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกันระหว่าง คตส.กับอัยการสูงสุด



 


"ไม่ว่าข้อยุติของคณะทำงานร่วมจะออกมาอย่างไร คตส.ก็มีอำนาจยื่นฟ้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เอง เหมือนกรณีหวยบนดิน โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 11 ของวิธีการพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เชื่อว่ากรณีนี้จะไม่ส่งผลไปเหมือนกรณียื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องคดีหวยบนดิน ที่ คตส.กล่าวหาบุคคลที่ร่วมกระทำการจำนวนมาก" โฆษก คตส. กล่าว



 


ส่วนกรณีจำนวนของผู้ถูกกล่าวหาในคดีต่าง ๆ ทั้งกรณีหวยบนดินและกล้ายาง จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการส่งฟ้องระหว่าง คตส.กับอัยการสูงสุดหรือไม่นั้น นายสัก กล่าวว่า เรื่องจำนวนผู้ถูกกล่าวหาไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะ คตส.จะให้น้ำหนักกับพยานหลักฐานมากกว่า และกรณีนี้ไม่น่าส่งผลไปถึงคดีรถ-เรือดับเพลิง ที่ คตส.แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว เพราะมีผู้ถูกกล่าวหาเพียง 11 คนเท่านั้น


  


 


เศรษฐกิจ


ก.พาณิชย์สั่งห้ามส่งเนื้อหมูขายนอกประเทศ มีผลจันทร์นี้


เว็บไซต์เดลินิวส์ - เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่าในวันจันทร์ที่ 17 มีนาคมนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะออกประกาศห้ามเคลื่อนย้ายสุกรออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งออกสุกรมีชีวิตไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างเด็ดขาด ส่วนการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด ต้องทำการขออนุญาตจากพาณิชย์จังหวัด โดยเฉพาะ 26 จังหวัดที่ติดชายแดน หากฝ่าฝืนไม่แจ้งล่วงหน้า จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาสุกรที่จะขาดแคลนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และลดผลกระทบต่อผู้บริโภคที่อาจต้องบริโภคสุกรที่มีราคาแพงขึ้น



 


นายยรรยงกล่าวด้วยว่า สัปดาห์หน้ากรมการค้าภายในจะเชิญผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองและสมาคมอาหารสัตว์ รวมถึงภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าหารือร่วมกัน ถึงผลกระทบต่อมาตรการลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจากร้อยละ 4 เหลือร้อยละ 0 หากเห็นว่าไม่ได้รับผลกระทบมากเกินไป เชื่อว่ามาตรการภาษีน่าจะดำเนินการได้แน่นอน


 


 


คุณภาพชีวิต


ยูเอ็นกล่าวหาไทยไม่ปกป้องเด็กจากเซ็กส์ทัวร์


เว็บไซต์คมชัดลึก- นายฮวน มิเกล เปอตี ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ แถลงเมื่อวันที่ 15 มีนาคม กล่าวหารัฐบาลอินเดีย กัมพูชา และไทย ว่าไม่ได้ดำเนินความพยายามมากพอในการปกป้องเด็กจากความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อของเซ็กส์ทัวร์ เพียงเพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อการท่องเที่ยว แถมยังมีแรงกดดันทั้งที่เห็นเด่นชัดและที่แอบแฝงต่อรัฐบาลประเทศเหล่านี้ ในยามที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังเติบโตและสร้างรายได้เข้าประเทศหลายล้านดอลลาร์ ผลประโยชน์ที่ว่านี้ทำให้การจำกัดตลาดค้ามนุษย์ถูกมองว่าเป็นเหมือนการจำกัดรายได้ทั้งของกลุ่มผลประโยชน์และของประเทศ



 


ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็กของยูเอ็นยังได้ประณามการท่องเที่ยวแบบวิปริตดังกล่าวว่าทำให้ชีวิตเด็กจำนวนมากต้องตกอยู่ในความเสี่ยง นอกเหนือจากแสดงความเป็นห่วงว่าโดยทั่วไปแล้ว เอเชียยังเป็นพื้นที่น่าห่วงตราบใดที่ยังคงมีปัญหาการค้ามนุษย์อยู่



 


ที่ผ่านมามีผู้ต้องหาความผิดการล่วงละเมิดทางเพศชาวตะวันตกหลายคน กบดานอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากความย่อหย่อนของเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศเด็ก อย่างเช่น แกรี กลิตเตอร์ อดีตนักร้องเพลงป็อปชาวอังกฤษซึ่งมีชื่อจริงว่า พอล แกดด์ ที่ถูกตัดสินจำคุกที่เวียดนาม 3 ปีเมื่อปี 2548 ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุ 11 และ 12 ปี ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเคยติดคุก 4 เดือนในอังกฤษในข้อหามีหนังสือภาพลามกเด็ก ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่กัมพูชาและเวียดนามในเวลาต่อมา


 


 


ต่างประเทศ


"หู" รับตำแหน่งประธานาธิบดีจีนอีกสมัย


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ- รัฐสภาจีนลงมติเกือบเป็นเอกฉันท์วานนี้ (15 มี.ค.) ให้นายหู จิ่น เทา ประธานาธิบดีคนปัจจุบันบริหารประเทศต่อไปอีก 5 ปีด้วยคะแนน 2,956 เสียง หรือ 99.7% จากทั้งหมด 2,965 เสียง นอกจากนี้ นายหูยังได้รับเสียงสนับสนุนใกล้เคียงกันให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกลางด้านการทหารของจีน ขณะที่นายซี จินผิง นักการเมืองรุ่นใหม่วัย 54 ปี ได้รับการลงคะแนนให้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งคาดว่าเป็นการเตรียมการให้สืบทอดอำนาจประธานาธิบดีต่อจากนายหูในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้านนายอู๋ ปังกั๊วะ ได้รับเลือกกลับเข้ามาทำหน้าที่ประธานรัฐสภาต่อไป ส่วนในวันนี้ (16 มี.ค.) คาดว่านายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรี จะได้รับเลือกให้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 5 ปี เช่นกัน


 



 นอกจากนี้ รัฐสภาจีนยังอนุมัติแผนปรับโครงสร้างรัฐบาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการเสียเวลา และลดการคอร์รัปชัน ซึ่งจะมีการตั้งกระทรวงขนาดใหญ่ขึ้นใหม่ 5 กระทรวง รวมถึงจะยกระดับสำนักงานที่รับผิดชอบด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมให้เป็นกระทรวง เพื่อควบคุมภาคอุตสาหกรรมด้วย



 


นายกฯ มาเลเซียยันไม่ลาออก


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นายอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนายมูกริซ มหาธีร์ บุตรชายของนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ลาออก เพราะกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งมีพรรคสหมาเลย์ (อัมโน) เป็นแกนนำ ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนเพียงแค่ 63% หรือ 140 ที่นั่งจากทั้งหมด 222 ที่นั่ง จากเดิมที่เคยครองที่นั่งในสภาได้ถึง 91% นายบาดาวีย้ำว่า แม้ได้ที่นั่งไม่ถึง 2 ใน 3 แต่ก็มีความชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล เพราะได้ที่นั่งเกินครึ่ง แต่ก็ยอมรับว่า ผลการเลือกตั้งสะท้อนว่าประชาชน โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีนและอินเดีย กำลังไม่พอใจและต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง พร้อมให้คำสัญญาว่าจะสร้างความเสมอภาคให้กับคนทุกเชื้อชาติ


สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net