บันทึกจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศ: เกิดอะไรขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลา 2551 (ภาคสาม): คำถามจาก "Vorapoap"

หลังจากมีการนำเสนอบันทึกของ Nick Nostitz เหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค. 51 ในเว็บนวมณฑล ล่าสุดเป็นคำถามและคำวิจารณ์จากคุณวรภพ (Vorapoap) จากมุมมองผู้สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถึงรายงานของ Nick Nostitz

อ่านย้อนหลัง

บันทึกจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศ: เกิดอะไรขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลา 2551, ประชาไท, 11 ต.ค. 51http://www.prachatai.com/05web/th/home/14049

ภาคต่อ บันทึกจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศ: เกิดอะไรขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลา 2551, ประชาไท, 16 ต.ค. 51http://www.prachatai.com/05web/th/home/14112

หลังจากมีการนำเสนอบันทึกของ Nick Nostitz เหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค. 51 เผยแพร่ในเว็บไซต์นวมณฑล (New Mandala) [http://rspas.anu.edu.au/rmap/newmandala/2008/10/11/what-happened-on-7102008] และได้มีการแปลลงในเว็บไซต์ประชาไทสองตอนนั้น ล่าสุดเป็นคำถามและคำวิจารณ์จากคุณวรภพ (Vorapoap) จากมุมมองผู้สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถึงรายงานของ Nick Nostitz โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

000

ความคิดเห็นที่ 18

Vorapoap // Oct 13, 2008 at 3:15 am

ขอบคุณที่คุณรายงานข่าวในเรื่องนี้อย่างเที่ยงตรง

มีหนังสติกไหม-มี, มีไม้กอล์ฟไหม-ก็มี , ท่อนไม้ล่ะ-ก็มี แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีรูปแม้แต่รูปเดียวที่พิสูจน์ว่าพันธมิตรฯ มีอาวุธปืนหรือระเบิด อย่างไรก็ตามมีหลักฐานชี้ออกมาเรื่อย ๆ ว่าตำรวจกับพวกที่ต่อต้านพันธมิตรนั้นยังคงโกหก

เรื่องโกหกที่ 1 : พวกเขาบอกว่าชายผู้ที่ขาขาดนั้นขาขาดมาก่อนอยู่แล้ว และเขาใช้น้ำแดงเพื่อหลอกว่าขาขาดจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันเป็นเรื่องที่กุขึ้น จริงๆ แล้วชายคนนี้บาดเจ็บสาหัสในเวลาเดียวกับที่เขาพยายามปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเขา แต่ในข่าวก็ไม่มีการแสดงให้เห็นภาพช่วงก่อนที่ขาเขาจะขาดแค่นั้นเอง

เรื่องโกหกที่ 2 : ชายคนที่นั่งขัดสมาธิมีอะไรบางอย่างคล้ายระเบิดปิงปองอยู่ในมือข้างซ้ายของเขา แต่มือข้างขวาเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่ก็เป็นเรื่องโกหกเช่นกัน ชายผู้นี้เขาเป็นศิลปินข้างถนนที่ทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวของเขาที่เป็นเด็กอายุน้อย 2 คน เขารับจ้างวาดภาพบุคคล (Portrait) รูปละ 100 บาทอยู่ในพื้นที่มีชุมนุม หมอที่ดูแลเขาอยู่ออกมายืนยันแล้วว่าสิ่งที่เขากำลังถืออยู่เป็นพวงกุญแจหนัง ในตอนนี้...มือซ้ายของเขาถูกตัดออกไปแล้ว หลอดลมของเขาได้รับความเสียหายอย่างมาก จนดูเหมือนว่าเขาคงไม่สามารถพูดได้อีกเลยตลอดชีวิต

เรื่องโกหก โง่ ๆ ที่ 3 : ก่อนที่ตำรวจจะยอมรับว่าเป็นตำรวจเองที่ถือปืน โฆษกตำรวจไทยออกมาพูดว่ามันเป็นใครสักคนที่แต่งตัวเป็นตำรวจ และในตอนนี้ตำรวจกลับออกมาบอกว่าเขาพยายามจะยิงไปที่รถเชอโรกีโฟร์วิลที่กำลังขับทับตำรวจ นี้ก็เป็นเรื่องโกหกเช่นกัน คุณดูในวิดิโอคลิปที่ Youtube ได้ ว่าเหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลาที่ต่างกัน จริง ๆ แล้วตำรวจนายนั้นกำลังเล็งปืนไปที่ผู้ประท้วงและเลิกทำเมื่อเพื่อนตำรวจของเขาตะโกนเตือนว่า "กล้อง!" (Camera!) น่าขำ...ที่เขายังบอกอีกว่าเขาเป็นตำรวจพลขับและมีความจำเป็นต้องป้องกันอุปกรณ์พิเศษที่ใช้สลายการชุมนุม ดังนั้นเขาจึงได้รับอนุญาตให้ใช้ปืน

เรื่องโกหกเลว ๆ ที่ 4 : โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติบอกว่าผู้หญิงที่เสียชีวิตอาจจะเหน็บวัตถุระเบิดไว้กับตัวเธอ (ระหว่างแขนกับช่วงอก) แต่หมอออกมายืนยันแล้วว่า บาดแผลของเธอฉกรรจ์มาก มันเกิดจากการปะทะกับของที่ร้อนมากๆ ที่ใจกลางช่วงอก (ช่วงอกเธอหายไปเลย) ...สุภาพสตรีที่เสียชีวิตเรียนจบจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ครอบครัวเธอทั้งหมดเข้าร่วมกับพันธมิตรฯ และเธอก็มีแผนจะแต่งงานในปีหน้า

เรื่องจริงที่ 1 : มีตำรวจใช้ปืนลูกซองยิงออกมาจากรัฐสภา หาดูคลิปนี้ได้จาก Youtube มันถูกถ่ายไว้ได้โดยช่างภาพของยูโรนิวส์ (Euronews)

เรื่องจริงที่ 2 : เป็นความจริงที่มีรถกระบะพุ่งชนตำรวจและทำร้ายตำรวจบางนาย แต่คุณต้องเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นองเลือดในช่วงเช้า ผู้ประท้วงไม่มีอะไรเลยจริง ๆ ที่จะใช้ป้องกันตัวเอง และแกนนำก็ควบคุมอะไรไม่ได้ ผู้คนที่โกรธต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะไม่ถูกกระทำอย่างทารุณจากฝ่ายตำรวจอย่างเดียว ผมไม่ได้บอกว่ามันเป็นเรื่องที่ควรทำ...แต่คุณก็ควรพยายามเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดด้วย

เรื่องจริงที่ 3 : ตำรวจไม่ได้ใช้มาตรการที่มีมาตรฐานในการสลายการชุมนุม พวกเขาไม่ได้เจรจาก่อน พวกเขาไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียง พวกเขาไม่ได้เข้ามาพร้อมกับไม้กระบองและโล่ พวกเขามาก็เริ่มยิง/ขว้าง ระเบิดแก๊สน้ำตา และระเบิดมือบางชนิดที่สามารถระบุชนิดของมันได้ นี่เป็นสิ่งที่ได้ยินจากทีมแพทย์หลายคนที่ทำงานในพื้นที่ นอกจากนี้ตำรวจยังโจมตีใส่ทีมแพทย์ด้วย เขาที่ถูกยิงล้มลงไปก่อนจะลุกขึ้นมาพยายามช่วยเหลือคนอื่นต่อไป

เรื่องจริงที่ 4 : ตำรวจบางคนโจมตีใส่ผู้ชุมนุมพันธมิตร ราวกับว่ากำลังเล่นเกมเคาน์เตอร์ สไตร์ค ให้ชนะหรืออะไรแบบนั้นแหละ (สีหน้าเขาดูมีความสุขมาก)

ข้อสังเกตที่ 1 : เหตุการณ์นองเลือดใด ๆ ก็ตามในประวัติศาสตร์ไทย ไม่มีใครเลยที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ (เช่น ถูกนำตัวเข้าคุก) และที่ผมคิดคือตำรวจคงนึกว่าพวกเขาจะสามารถรอดพ้นเหตุการณ์นี้ได้อีกครั้งเช่นในอดีต

นี่เป็นการรายงานที่ดูเป็นกลางดี แต่คุณควรจะรายงานเหตุการณ์หลังจากนั้นด้วย ว่ามีการตรวจพบและปกปิดอะไรอีกหรือเปล่า

กรุณาเข้าเยี่ยมเว็บไซต์ผมสำหรับหลักฐานดังกล่าว

PAD.VfLY.NET

000

ความคิดเห็นที่ 21 Nick Nostitz // Oct 13, 2008 at 2:03 pm

(ได้นำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ - โปรดอ่านความเห็นที่นี่)

ภาคต่อ บันทึกจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศ: เกิดอะไรขึ้นเมื่อวันที่7 ตุลา 2551

000

ความคิดเห็นที่ 29 Vorapoap // Oct 13, 2008 at 11:05 pm

ผมอยากจะขอโทษคุณ นิค ผมพบวิดิโอคลิปที่มีภาพพันธมิตรฯ คนหนึ่งกำลังใช้อาวุธปืน ผมกำลังตรวจสอบมันอยู่ตอนนี้

เกี่ยวกับเครื่องขยายเสียง คนที่อยู่ที่รัฐสภาในช่วงเช้ายืนยันมาแล้วว่าพวกเขาไม่ได้ยินอะไรจากตำรวจ ประชาชนส่วนใหญ่ในเขตรัฐสภาวันที่ 7 ตุลาคมเป็นผู้หญิง พวกเขากำลังหลับและตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงระเบิด มีเยาวชนพันธมิตร (เป็นนักศึกษา) อย่างน้อยหนึ่งคนพยายามเจรจากับตำรวจ แต่ตำรวจก็ไม่หยุดและยังคงจู่โจมอย่างต่อเนื่อง จริงๆ แล้ว พวกเขาไม่ได้คิดเลยว่าตำรวจจะใช้แก๊สน้ำตาตั้งแต่เริ่มต้น คิดว่าจะเจอเพียงแค่การผลักยื้อกันไปมา หรืออย่างเลวที่สุดก็คิดว่าตำรวจจะใช้กระบอง

ในบางช่วง ตำรวจก็ยิง (หรือขว้าง) ชุดหนึ่งไปที่หน้าพันธมิตร และอีกชุดไปที่หลังพันธมิตร ราวกับว่าพวกเขาไม่อยากให้คนหนี นี้เป็นอีกเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

มีคนหนึ่งในกระทู้แสดงความเห็นของผมยืนยันว่าเขาสังเกตเห็นรถคันหนึ่งติดเครื่องขยายเสียงอยู่ แต่มันอยู่ห่างจากพื้นที่ที่มีการปะทะกันมาก และตัวเครื่องขยายเสียงก็ขนาดเล็กเกินไป (มันเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในงานมหาสงกรานต์)

ผมจะกลับมาที่คุณอีกเมื่อมีอะไรคืบหน้ามากกว่านี้

ไม่มีใครหรอกที่จะทำร้ายคุณหรือครอบครัวคุณ นิค คุณไม่ควรจะห่วงเรื่องนั้น ขอแค่เพียงคุณรายงานตามข้อเท็จจริงก็พอ

ขอโทษที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่ดีนัก

โปรดติดตาม บันทึกจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศ: เกิดอะไรขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลา 2551 (ภาคจบ): คำชี้แจงของ Nick Nostiz ในเร็วๆ นี้

อ่านย้อนหลัง

ข่าว

การเมือง