Skip to main content
sharethis

สาทิตย์เรียกประชุมศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) ประเมินสถานการณ์พร้อมมาตรการเยียวยาสถานการณ์น้ำท่วมภาคใ้ต้ เผยถนนใช้การไม่ได้แล้ว 5 แห่ง ด้านนายกฯ เตรียมปล่อยคาราวานความช่วยเหลือ 7.00 น. วันนี้ คาดหากไม่มีฝนเพิ่ม อีก 5-7 วันสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ

ศูนย์สื่อทำ้เนียบรัฐบาล รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (29 มี.ค.) ณ ศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายวิทเยนทร์ มุตตามุระ รองผู้อำนวยการ ศชอ. ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมรับทราบความคืบหน้าของสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือประชาชนใน จังหวัดต่าง ๆ ทางภาคใต้ ที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วม

โดยสถานการณ์ขณะนี้ สภาพอากาศ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงยังคงปกคลุมบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกและคาดว่าจะ เคลื่อนตัว ลงสู่ทะเลอันดามันในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค. 54) แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ต่อ ไปอีก 1-2 วัน จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ นี้ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วง 2-3 วันนี้ไว้ด้วย อนึ่งในช่วง 1-2 วันนี้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาพื้นที่เฝ้าระวัง ชุมพร ระนอง ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง และจังหวัดสตูล ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก

ปริมาณน้ำฝน มีบริเวณที่มีฝนสะสมมากใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมีน้ำป่าไหลหลากจากที่ลาดเชิงเขาเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายพื้นที่ ซึ่งได้แก่ นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสุราษฎร์ธานี

สถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 2554 ถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง 7 จังหวัด 64 อำเภอ 371 ตำบล 2,763 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 310,406 ครัวเรือน 979,665 คน ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฏร์ธานี ตรัง ชุมพร สงขลา และกระบี่ มีผู้เสียชีวิต 7 ราย (จ.นครศรีธรรมราช 6 ราย จ.พัทลุง 1 ราย) ขณะที่โรงพยาบาลท่าศาลาระดับน้ำลดแล้ว สามารถให้บริการผู้ป่วยโดยตั้งเต็นท์บริการหน้าโรงพยาบาลท่าศาลา

สถานการณ์อ่างเก็บน้ำ ขณะนี้มีน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง ได้แก่ ห้วยน้ำใส คลองกระทูน คลองดินแดง เสม็ดจวน (จ.นครศรีธรรมราช) ป่าพะยอม ป่าบอน (จ.พัทลุง) และคลองท่างิ้ว (จ.ตรัง)

ด้านการจราจร ศชอ. รายงานว่า ผ่านไม่ได้ 5 เส้นทาง ประกอบด้วย 1. ทางหลวงหมายเลข 4186 โรงเหล็ก-กรุงชิง ท้องที่ อ.นบพิตำ สะพานขาดที่ กม.5 ไม่มีสายทางทดแทน 2. ทางหลวงหมายเลข 4189 ท่าพุทธ-เขาหลวง ท้องที่ อ.นบพิตำ กม.1-4 เป็นแห่งๆ ทางขาดที่ กม.5 3. ทางหลวงหมายเลข 4270 ห้วยยอด-พัทลุง ท้องที่ อ.ห้วยยอด ดินสไลด์ปิดทับคันทาง ที่ กม. 29-30 ให้ใช้ทางหลวงชนบทแทน 4. ทางหลวงหมายเลข 4006 ราชกรูด-หลังสวน ท้องที่ อ.หลังสวน น้ำท่วมสูง 100 ซม. ที่ กม. 54-55 ไม่มีสายทางทดแทน 5. ทางหลวงหมายเลขที่ กะเปอร์-คลองกำพวย ท้องที่ อ.กะเปอร์ น้ำกัดเซาะทางที่ กม.670 ให้ใช้ถนนหมู่บ้านนางหินแทน

โดยสรุปการประชม ศชอ. มีมาตรการดังนี้คือ หนึ่ง ได้ เตือนให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณที่ราบเชิงเขาพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มเฝ้าระวังและฟังข่าวสารจากทางราชการ เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณน้ำสะสมอยู่ในที่สูงอยู่เป็นจำนวนมากและยังมีฝนตก หนักต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน

สอง ขณะนี้มีการแจ้งให้อพยพประชาชนเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง คือ ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี และบ้านคลองเหนือ ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช สาม พื้นที่เตือนให้เฝ้าระวังดินโคล่นถล่มเพิ่มเติม ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอกะปง อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอวิภาวดี อำเภอกาญจนดิพ อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สี่ สนามบินจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังปิดให้บริการ สนามบินสมุยแจ้งปิดให้บริการถึงเที่ยงวันนี้ รอประกาศเพิ่มเติม ห้า เตือนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะต่างๆ โดยเฉพาะในฝั่งอันดามัน ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วง 1-2 วันนี้ และเตือนชาวประมงให้ระมัดระวังและคอยฟังข่าวสาร

หก ศชอ. ยังแจ้งว่า บ่ายวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกฯ และประธาน คชอ. จะเสนอขออนุมัติงบประมาณเบื้องต้น 20 ล้านบาท เพื่อซื้อถุงยังชีพ และของจำเป็น จัดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในวันพรุ่งนี้ เจ็ด ประสานงานให้สำนักงาน ปภ. เขต 18 จังหวัดภูเก็ต และเขต 4 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งเรือท้องแบนไปช่วยจังหวัดสุราษฎร์ธานี และประสานขอให้สำนักงาน ปภ. ที่จังหวัดปทุมธานีและจังหวัดชัยนาทส่งเรือท้องแบนลงไปช่วยพื้นที่ประสบภัย ภาคใต้ในวันพรุ่งนี้

แปด พรุ่งนี้เวลา 07.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานส่งคาราวานความช่วยเหลือออกจากทำเนียบรัฐบาล เก้า ศชอ. คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะมีต่อไปอีก 5-7 วันจึงเข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่มีการก่อตัวของฝนกลุ่มใหม่

ที่มา: ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net