Skip to main content
sharethis

รายงานสถานการณ์ของเครือข่ายคัดค้านบ่อฝังกลบขยะจังหวัดสระบุรี เมื่อ“ฝายกั้นน้ำ” เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเสียไหลลงสู้ห้วยหนองน้ำเขียว กลายเป็นความหวังล่าสุดของชาวบ้านรอบบ่อขยะ ที่พวกเขายังคงต้องเฝ้าติดตาม “เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว น้ำในห้วยหนองน้ำเขียว ใสจนมองเห็นปลา แต่ทุกวันนี้กลับขุ่น จนมองไม่เห็นอะไรเลย” นี่คือคำรำพึงถึงอดีตที่เคยงดงามของตำบลห้วยแห้ง โดย รัชชา ทันวรักษ์กิจ แกนนำเครือข่ายคัดค้านบ่อฝังกลบขยะจังหวัดสระบุรี รัชชา เล่าย้อนว่า จุดเปลี่ยนของสภาพธรรมชาติในตำบลห้วยแห้ง เกิดจากเมื่อปี พ.ศ.2540 ได้มีการสร้างบ่อฝังกลบขยะโดย บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์กรีน จำกัด บนที่ดินประมาณ 300 ไร่ ต่อมาในปี พ.ศ.2544 ชาวบ้านก็เริ่มได้รับผลกระทบจากบ่อฝังกลบขยะดังกล่าว ทั้งน้ำเสียและกลิ่นเหม็น จนส่งผลให้ข้าวในนาที่ชาวบ้านปลูกได้ผลผลิตที่ไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร และนอกจากนี้ชาวบ้านจำนวนมาก ต้องกลายเป็นผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคมะเร็งตับ อีกด้วย ดังนั้นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากบ่อฝังกลบขยะดังกล่าว อันประกอบไปด้วย ประชาชนในตำบลห้วยแห้ง อำเภอแก่งคอย และตำบลหนองปลาไหล ตำบลกุดนกเปล้า อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็น “กลุ่มเครือข่ายคัดค้านบ่อฝังกลบขยะ จังหวัดสระบุรี” ขึ้นในปีพ.ศ.2544 เพื่อร่วมกันคัดค้านและแสวงหาแนวทางแก้ไขสภาพปัญหาอันเกิดขึ้นจากบ่อฝังกลบขยะดังกล่าว สำหรับแนวทางในการเคลื่อนไหวของเครือข่ายฯ ในปัจจุบัน ประกอบไปด้วย 2 แนวทาง ได้แก่ แนวทางแรก คือ การดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 2,000 ล้านบาท ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสารพิษที่เกิดจากบ่อกำจัดขยะ โดยล่าสุดเครือข่ายฯ ได้ขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี และสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี เข้ามาตรวจสอบคุณภาพน้ำ เพื่อประกอบการฟ้องร้อง ซึ่งในวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่าน ทีมเจ้าหน้าที่จากทั้งสองหน่วยงานได้เข้ามาเก็บตัวอย่างน้ำในที่นาชาวบ้านเพื่อนำไปตรวจสอบคุณภาพและบอกกับชาวห้วยแห้งว่า ให้รอผลตรวจคุณภาพน้ำประมาณ 2 เดือน แนวทางที่สอง คือ การแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปัญหามลภาวะในเกิดขึ้น โดยที่ผ่านมาได้เรียกร้องไปยังหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 7 สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี รวมถึงการยื่นฎีกาไปยังสำนักราชเลขาธิการ เมื่อปี พ.ศ.2550 เป็นต้น และจากการตรวจสอบคุณภาพน้ำในนาข้าวหลายครั้ง เช่น การตรวจคุณภาพน้ำครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาโดยกรมควบคุมมลพิษ พบว่าน้ำบนผิวดินมีสารตะกั่ว สารหนู แมงกานีส เกินค่ามาตรฐาน และน้ำใต้ดิน มีแมงกานีส นิกเกิล ตะกั่ว ซีลีเนียม เกินค่ามาตรฐานเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ในวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา รัชชาได้รับแจ้งจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่า ได้แจ้งให้ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์กรีน จำกัด จัดทำฝายกั้นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเสียไหลลงสู่ห้วยหนองน้ำเขียวแล้ว เนื่องจากที่ตั้งของบ่อฝังกลบขยะอยู่ใกล้กับห้วยหนองน้ำเขียว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลัก ที่เกษตรกรในพื้นที่ ต้องใช้ในวิถีเกษตรกรรม และที่ผ่านมาพบว่า บ่อฝังกลบขยะได้ปล่อยน้ำเสียลงสู่ห้วยหนองน้ำเขียว โดยไม่มีการปรับสภาพน้ำก่อนแต่ประการใด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าล่าสุดกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้แจ้งให้ทางบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์กรีน จำกัด จัดทำฝายกั้นน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเสียไหลลงสู้ห้วยหนองน้ำเขียวแล้ว แต่ทางเครือข่ายฯ ก็ยังคงต้องเฝ้าติดตามผลการดำเนินงานต่อไป เพราะที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน แต่ชาวบ้านก็ยังประสบกับปัญหาของบ่อฝังกลบขยะอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย ที่มา:เว็บไซต์ www.ppvoice.org

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net