กลุ่มสนับสนุนรับบาลอัสซาดในซีเรีย บุกจู่โจมคณะทูตสหรัฐฯ ขว้างปาไข่และมาเขือเทศใส่ ขณะที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กำลังพบปะกับนักการเมืองผู้เรียกร้องให้เลิกปราบผู้ชุมนุม ขณะเดียวกันมีการต่อสู้ดุเดือดระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายติดอาวุธที่เชื่อว่าเป็นทหารย้ายข้างในเมืองอัล-รัสทาน สำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ว่ากลุ่มสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาดโจมตีคณะทูตของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ด้วยการขว้างปาไข่และมะเขือเทศ ขณะที่คณะทูตสหรัฐฯ เดินทางเยี่ยมเยียนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในกรุงดามากัส มาร์ก โทเนอร์ รักษาการโฆษกการต่างประเทศของสหรัฐฯ รายงานว่า เอกอัครราชทูตโรเบิร์ท ฟอร์ด ผู้ที่กล่าวโจมตีการปราบปรามผู้ชุมนุมของรัฐบาลอัสซาดเสมอมากลับถึงสถานทูตสหรัฐฯ อย่างปลอดภัยหลังถูกจู่โจมดังกล่าว คณะทูตสหรัฐฯ ได้เข้าพบปะกับฮัสซาน อับดุล-อาซิม นักการเมืองสายกลางผู้เรียกร้องให้เลิกปราบปรามผู้ชุมนุมและเปิดให้มีการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่าย อับดุล-อาซิม กล่าวว่า ฟอร์ดอยู่ในสำนักงานของเขาในกรุงดามากัสขณะที่กลุ่มสนับสนุนอัสซาดพยายามบุกรุกเข้าไป พังประตูที่ล็อกเอาไว้บางส่วน เจ้าหน้าที่พยายามสกัดกั้นการบุกรุกของกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายรัฐบาลราว 100 ราย ขณะที่ฟอร์ดถูกกักตัวอยู่ในสำนักงานกว่า 3 ชั่วโมง \ผู้ประท้วงใช้ความรุนแรง พวกเขาพยายามโจมตีเจ้าหน้าที่สถานทูตขณะที่พวกเขาอยู่โดยสารอยู่ในรถของสถานทูต ทำให้ยานพาหนะได้รับความเสียหาย\" โทเนอร์กล่าว โทเนอร์กล่าวอีกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของซีเรียเข้ามาช่วยเหลือให้คณะทูตกลับไปยังสถานทูตได้ในที่สุด โดยอับดุล-อาซิม บอกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาถึง 1 ชั่วโมงหลังการจู่โจมเริ่มขึ้น สหรัฐฯ ประณามการจู่โจมของฝ่ายหนุนรัฐบาลไร้ความชอบธรรม ในวันเดียวกัน ฮิลลารี่ คลินตัน รมต.ต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็ออกมาประณามการโจมตีเอกอัครราชทูตฟอร์ดโดยกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลซีเรีย โดยฮิลลารี่กล่าวว่าเอกอัครราชทูตฟอร์ดและคณะกำลังปฏิบัติตามหน้าที่ของนักการทูต การพยายามข่มขู่คุกคามคณะทูตด้วยความรุนแรงจึงไร้ความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง ขณะที่เจย์ คาร์นี่ย์ โฆษกของทำเนียบขาวกล่าวว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการข่มขู่นักการทูตที่มองเห็นการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลอัสซาด เจย์บอกอีกว่าสหรัฐฯ จะไม่เรียกตัวทูตฟอร์ดกลับและเรียกร้องให้วุฒิสภาแสดงการสนับสนุนฟอร์ดเพื่อให้ฟอร์ดทำหน้าที่ต่อไป ทหารรัฐบาลปะทะกับทหารย้ายข้างในอัล-รัสทาน ในวันที่ 29 ก.ย. ฝ่ายนักกิจกรรมออกมาประณามเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลว่าพวกเขาสังหารประชาชนไปอย่างน้อย 27 ราย ซึ่งมีเด็กอยู่ด้วย ในช่วงการบุกโจมตีเพื่อยึดเมืองอัล-รัสทานคืนจากกลุ่มทหารย้ายข้างที่พยายามปกป้องคนในพื้นที่ มีนักข่าวพลเมืองในพื้นที่เมืองฮอมรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะอีก 17 รายในเมืองฮอม กลุ่มสิทธินานาชาติ Avaaz ระบุในประกาศของพวกเขาว่ามีการต่อสู้ระหว่างกลุ่มทหารรัฐบาลซีเรียกับกลุ่มทหารที่ย้ายข้างมาอยู่ฝ่ายต้านรัฐบาล ซึ่งกลุ่มนี้รวมตัวกันในชื่อว่า \"คาเล็ด แบททัลเลียน\" ขณะที่ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 30 ก.ย. มีผู้ชุมนุมหลายพันคนแสดงการสนับสนุนกลุ่มทหารย้ายข้างใน อัล-รัสทาน มีผู้ประท้วงรายหนึ่งถือป้ายเขียนว่า \"รัสทานจะล้มล้างรัฐบาล\" ทางด้านฝ่ายรัฐบาลซีเรียกล่าวผ่านสำนักข่าว SANA ของรัฐบาลว่าการปะทะในอัล-รัสทาน เป็นการต่อสู้กับ \"กลุ่มติดอาวุธ\" ไม่ใช่สู้กับทหารที่ย้ายข้าง และบอกว่าคนกลุ่มนี้ได้ข่มขู่ประชาชน ปิดถนน ตั้งแผงกั้น และเก็บระเบิดไว้ในเมือง มีทหารย้ายข้างรายหนึ่งที่ปฏิบัติการในจังหวัดอิดลิบให้ข้อมูลกับสำนักข่างต่างประเทศว่ากลุ่มทหารย้ายข้างกำลังใช้ยุทธวิธีการรบแบบกองโจร นักกิจกรรมบอกว่ามีทหารย้ายข้างในอัล-รัสทานอย่างน้อย 100 คน และมีกลุ่มติดอาวุธ 600 คน ซึ่งกลุ่มทหารย้ายข้างจะคอยคุ้มกันกลุ่มติดอาวุธ นักกิจกรรมในซีเรียอ้างอีกว่ามีสมาชิกกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า \"กองกำลังปลดปล่อยซีเรีย\" อยู่ 10