Skip to main content
sharethis

เวลาประมาณ 20.45 น. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถึงสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ว่า ขณะนี้มวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลมาจากภาคกลางจะผ่านกรุงเทพมหานครเพื่อไหลลงสู่ทะเล โดยได้กำชับให้หน่วยงานของทุกกระทรวง กรุงเทพมหานคร และทุกเหล่าทัพ ได้ระวังกันอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะให้มวลน้ำก้อนใหญ่นี้ สร้างความเดือดร้อนให้น้อยที่สุด หรือในพื้นที่ที่จำกัดได้ ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่คือ พลังของน้ำครั้งนี้มีแนวโน้มมากเกินกว่าที่พนังกั้นน้ำประตูน้ำ หรือมาตรการต่างๆ จะป้องกันไว้ได้ และมีโอกาสอย่างสูงยิ่งที่น้ำจะทะลักเข้ามาทั้งในเขตพื้นที่ชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน ขณะนี้พื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่สุด คือ แนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแนวพนังกั้นน้ำต่างๆ พื้นที่ที่อยู่นอกแนวริมน้ำ ก็จะได้รับผลกระทบ โดยการเกิดน้ำท่วม ส่วนระดับน้ำจะสูงเท่าใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถในการบริหารจัดการวิกฤตน้ำทะลักครั้งนี้ ให้ค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับบรรเทาความรุนแรง ตลอดจนขึ้นอยู่กับความสูงของพื้นที่ สำหรับฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ขณะนี้มีน้ำเหนือซึ่งผ่านจังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี ได้ล้นเข้ามาที่บริเวณอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ อยู่ระหว่างป้องกันบริเวณคลองมหาสวัสดิ์ โดยเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อระบายไปสู่อ่าวไทย นอกจากนั้นตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา รัฐบาลและกรุงเทพมหานครจะดูแลแนวคันกั้นน้ำเพื่อให้สามารถทานแรงอันมหาศาลของน้ำให้ได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้ำมีปริมาณมากเกินกว่าศักยภาพของระบบจะรองรับได้ ดังนั้น พื้นที่ในเขตต่างๆ ทางฝั่งธนบุรี รวมทั้งจังหวัดปริมณฑลจะมีน้ำท่วมในพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มในระดับเฉลี่ยประมาณ 0.5 เมตร นอกจากนี้ เพื่อลดความกดดันของพลังน้ำ ได้ปิดประตูระบายน้ำปากคลองเปรมประชากร เพื่อให้พื้นที่ที่อยู่บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะเขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางซื่อ บางเขน ถนนพหลโยธิน ไปจนถึงอนุสรณ์สถานดอนเมือง และถนนวิภาวดีรังสิต ได้รับผลกระทบที่ลดน้อยลง โดยจะเร่งระบายน้ำจากคลองรังสิตลงคลองหกวาสายล่าง เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะเข้าสู่กลางใจเมืองกรุงเทพมหานคร หรือพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นใน และไม่สร้างความเสียหายให้มากเกินไป ซึ่งถ้ามาตรการเหล่านี้เป็นไปตามแผน และไม่มีการเสียหายของแนวป้องกันเพิ่มเติม ก็น่าจะสามารถควบคุมไม่ให้ระดับน้ำสูงเกิน 50 เซนติเมตร บริเวณด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร คือ บริเวณมีนบุรี หนองจอก ลาดพร้าว ซึ่งมีคลองระพีพัฒน์ คลองหกวาสายล่าง คลองแสนแสบ ก็จะมีทั้งมาตรการเร่งระบายน้ำไปทางตะวันออก เพื่อลงสู่ทะเลตามแนวคลองที่ขุดเอาไว้และออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคลองแสนแสบอีกด้วย อย่างไรก็ตามเนื่องจากพื้นที่เหล่านี้อยู่ในเขตหลากน้ำ ดังนั้น ระดับน้ำจะสูงกว่าบริเวณอื่นๆ โดยจะอยู่ในช่วงประมาณ 1 ถึง 1.5 เมตร กรณีที่เลวร้ายที่สุด หากเราไม่สามารถป้องกันแนวป้องกันจุดใดจุดหนึ่งหรือทั้ง 3 จุดดังกล่าวได้ หรือไม่สามารถชะลอพลังอันมหาศาลของน้ำได้ หรือมีปัจจัยอื่น ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น แนวเขื่อนพัง แนวพนังกั้นน้ำพัง ระดับน้ำในทะเลสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ระดับน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครก็จะสูงต่ำแตกต่างกันไป 10 ซม. -1.5ม. อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะควบคุมน้ำให้เข้าน้อยที่สุด จำนวนวันน้อยที่สุด โดยสูบน้ำเพื่อลดการท่วมขังให้เร็วที่สุด ทั้งโดยกรมชลประทาน เรือดันน้ำ และการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ประมาท ขอให้ประชาชนเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีค่าขึ้นที่สูงเพื่อให้อยู่ระดับที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมขัง โดยได้ให้มีการเฝ้าระวังเข้มงวดเพื่อรักษาพระบรมมหาราชวัง โรงพยาบาลศิริราช เขตพระราชฐานต่างๆ ระบบสาธารณสุข เช่น การไฟฟ้า โรงพยาบาล ประปา ให้ได้รับกระทบจากเหตุการณ์นี้ให้น้อยที่สุด และเพื่อรองรับสถานการณ์จากคลองรังสิตด้านเหนือ ได้ให้ ศปภ. ย้ายผู้พักพิงไปยังศูนย์ต่างๆ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย และให้ย้ายเครื่องอุปโภคที่ได้รับบริจาคจากดอนเมืองชั้นล่าง ไปที่อาคารจันทนยิ่งยง บริเวณสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาสัย โดยอาสาสมัครสามารถไปที่สนามกีฬาได้ตั้งแต่พรุ่งนี้ ทั้งนี้ ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าพร้อมให้คำมั่นว่าจะดูแลเต็มความสามารถ และพร้อมทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร จนกว่าวิกฤตจะผ่านพ้นไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net