Skip to main content
sharethis

ไทยคมเตรียมช่องสำรองให้บลูสกายหากถูกกวนสัญญาณอีก กสทช.ส่งคนมอนิเตอร์สถานีไทยคมเย็นนี้ บลูสกายเล็งมอบนกหวีดทองคำให้ผู้แจ้งเบาะแส ด้านสุภิญญาเตือนเลิกกวนสัญญาณ ชี้ยิ่งสกัดการสื่อสาร แรงต้านยิ่งเพิ่ม

         
ฐากร  ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. แถลงผลการประชุมร่วมระหว่าง กสทช.บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) และสถานีโทรทัศน์บลูสกาย เพื่อหารือกรณีมีผู้ดำเนินการส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมว่า การประชุมร่วมวันนี้ (16 มกราคม 2557) สำนักงาน กสทช. ได้รับทราบข้อเท็จจริงกรณีการส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดังกล่าวจากนายเอกชัย ภัคดุรงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานกิจการองค์กร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) นายวิทเยนทร์ มุตามระ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ บลูสกาย ประกอบกับข้อมูล ผลการตรวจสอบของสำนักงานฯ เอง พบว่า มีการรบกวนเกิดขึ้นในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556 และมีการรบกวนอย่างหนักนานประมาณ 30 นาที ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 จนเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 เมื่อสำนักงาน กสทช. ได้มีการแถลงข่าวส่งรถตรวจสอบและหาทิศทางสัญญาณรบกวน 20 คันออกตรวจคลื่นรบกวนการรบกวนดังกล่าวก็หายไป และพบการรบกวนใหม่เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2557 ในช่วงบ่าย โดยการรบกวนในครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณรบกวนเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แล้วหายไป จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13-14 มกราคม 2557 พบว่ามีการรบกวนเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน เป็นการรบกวนในช่วงที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีใหญ่

สำหรับการส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมเป็นการส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 และดาวเทียมไทยคม 6 ซึ่งให้บริการเช่าช่องสัญญาณเพื่อให้บริการออกอากาศและแพร่ภาพแก่โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมโดยสัญญาณที่ส่งมารบกวนเป็นสัญญาณที่ไม่แรงขนาดประมาณ 8 MHz
         
ฐากร กล่าวว่า สำหรับบทสรุปการประชุมหารือครั้งนี้ คือ 1. มีผู้จงใจในการส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมอย่างแน่นอน  2.แนวโน้มการส่งสัญญาณรบกวนเกิดจากการส่งคลื่นรบกวนจากในประเทศมากกว่า แต่ในต่างประเทศก็ยังมีความเป็นได้อยู่  3.การรบกวนเป็นการรบกวนทั้งช่องสัญญาณ (ทรานสปอนเดอร์) ไม่ได้รบกวนแต่เฉพาะสถานีโทรทัศน์ บลูสกาย โดยประเด็นนี้สำนักงาน กสทช. จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปมอนิเตอร์ยังสถานีไทยคม ลาดหลุมแก้ว ในเย็นวันนี้ (16 มกราคม 2557) เพื่อตรวจสอบว่ามีการรบกวนทั้งช่องสัญญาณจริงหรือไม่

4.ในส่วนของการดำเนินการตรวจสอบและค้นหาผู้ดำเนินการกระทำความผิด ยอมรับว่าเป็นไปได้ยากเนื่องจากมีการส่งสัญญาณรบกวนเป็นระยะเวลาสั้นๆ และมีการย้ายสถานที่ในการส่งสัญญาณตลอดเวลา    แต่ทั้ง กสทช. บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) สถานีโทรทัศน์ บลูสกาย จะร่วมมือและประสานข้อมูลในการตรวจสอบ และจะทำการแจ้งเบาะแสที่พบให้แก่สำนักงาน กสทช. เพื่อดำเนินการตรวจสอบและนำไปสู่การจับกุมต่อไป กรณีผู้ที่ทราบเบาะแสของผู้กระทำผิดทางสถานีโทรทัศน์ บลูสกาย จะมอบนกหวีดทองคำเป็นรางวัลในการให้เบาะแส
         
5. ในส่วนของมาตรการเยียวยา บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) จะจัดช่องสำรองในการออกอากาศให้กับสถานีโทรทัศน์ บลูสกาย กรณีที่ช่องสัญญาณถูกรบกวน และจะมีการแจ้งช่องสำรองดังกล่าวผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ของสถานีบลูสกายเอง 

6. เพื่อเป็นมาตรการป้องปราม สำนักงาน กสทช. จะมีหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงาน ที่มีสถานีภาคพื้นดินเคลื่อนที่ (Mobile Earth Station) หรือเรียกกันทั่วไปว่า รถโอบี อยู่ในความครอบครอง ให้รายงานการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวในช่วงเวลาที่มีการส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม พร้อมกันนี้ สำนักงาน กสทช. ยังให้สำนักงาน กสทช. เขตทั้ง 14 เขต ทั่วประเทศ ส่งรถตรวจสอบและหาทิศทางสัญญาณรบกวน 20 คันออกตรวจคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งให้หยุดดำเนินการ
    
เลขาธิการ กสทช. ย้ำว่า การดำเนินการทั้งหมดของสำนักงาน กสทช. เป็นการคุ้มครองดูแลทุกฝ่าย ทั้งนี้ก็เพื่อดูแลคุณภาพการบริการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ให้มีประสิทธิภาพเพื่อประชาชน และขอแจ้งไปยังผู้ดำเนินการส่งคลื่นรบกวนให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยการกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากสำนักงาน กสทช. ตรวจสอบพบจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
 

สุภิญญา เตือนเลิกกวนสัญญาณ ชี้ยิ่งสกัดการสื่อสาร แรงต้านยิ่งเพิ่ม
ด้าน สุภิญญา กลางณรงค์ หนึ่งในกรรมการ กสทช. โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวเล่าถึงรายละเอียดในการประชุม ตอนหนึ่งว่า ประเด็นสำคัญวันนี้คือทุกฝ่ายยอมรับร่วมกันว่ามีคนตั้งใจรบกวนสัญญาณช่วงคุณสุเทพพูดจริง แต่ยังมีข้อเท็จจริงที่ต่างกันคือช่องเดียวหรือทั้งแถบ ทางบลูสกายให้ข้อมูลว่า เฉพาะช่องบลูสกายที่โดนรบกวนหนักที่สุด แต่ทางไทยคมยืนยันข้อมูลทางเทคนิคว่าเป็นการกวนทั้งทรานสปอนเดอร์นั้น ข้อเท็จจริงนี้มีนัยสำคัญเพราะถ้าเป็นการกวนทั้งทรานสปอนเดอร์คือกวนตรงที่ดาวเทียม การตรวจจับต้นตอจะยากมาก แต่ถ้ากวนแถวภาคพื้นจะหาตัวง่ายกว่า

สุภิญญา ระบุว่า ไทยคมมีเอกสารทางเทคนิคมายืนยันการตรวจพบว่าเป็นการกวนทั้งแถบทรานสปอนเดอร์นั้นซึ่งส่งผลกระทบทำให้สัญญาณกว่า 14 ช่องสะดุดไปด้วย ในขณะที่ทางบลูสกายยืนยันว่าช่องตนเองได้รับผลกระทบมากที่สุด วันนี้มีการโต้แย้งข้อมูลกันทางเทคนิคของทั้งสองฝ่าย จนได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ขอให้ตัวแทน กสทช.และตัวแทนบลูสกายไปร่วมสังเกตการณ์ทุกหน้าจอในห้องควบคุมที่ลาดหลุมแก้วคืนนี้ ทั้งนี้ ไทยคมตกลงเฉพาะให้เจ้าหน้าที่ กสทช. ไปมอนิเตอร์ นอกจากนี้ สุภิญญา ระบุว่า พรุ่งนี้เมื่อได้รับรายงานแล้วจะมาแจ้งผลต่อไป รวมทั้งจะขอรายชื่อทุกช่องในทรานสปอนเดอร์นี้มาแจ้งให้ทุกคนช่วยกันมอนิเตอร์ว่าสะดุดพร้อมกันไหมด้วย

สุภิญญา ระบุว่า ตัวแทนของบลูสกายแจ้งว่า การกวนสัญญาณไม่ได้มีผลทำให้คนมาชุมนุมน้อยลง กลับมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่ร้องเรียนเรื่องนี้เพราะเห็นใจคนดูที่ติดๆ ดับๆ  สัญญาณติดๆ ดับๆ ทำให้คนดูเป็นทุกข์ คือกระทบสิทธิ์ผู้บริโภคทำให้เดือนร้อนรำคาญและส่งผลความเชื่อมั่นต่อผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียมของชาติ ซึ่งประเด็นนี้ ตนเองเห็นด้วยกับ ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช.ว่า ฝ่ายที่กวนสัญญาณ ควรไปต่อสู้กันทางข้อมูลข่าวสารดีกว่ามาลับลอบโจมตี เหมือนโจรสลัดแบบนี้

"เราอยู่ในโลกแห่งข้อมูลข่าวสาร ความพยายามปิดกั้นช่องทางการสื่อสาร เป็นเรื่องของคนฉลาดน้อย ยิ่งปิดกั้นยิ่งเปิดกว้าง มีแต่คนฉลาดที่เข้าใจ การต่อสู้ทางการเมืองต้องมียุทธวิธี ฝ่ายใดเดินเกมผิดฝ่ายนั้นพลาด การสกัดกั้นช่องทางการสื่อสารคือตัวเสริมการต่อต้านให้มีแต่แรงขึ้น แรงขึ้น" สุภิญญาระบุและว่า 

"ฝั่งผู้ชุมนุมเมื่อเดินเกมไปคุกคามสื่อ ทำให้กระแสตีกลับ ต้องปรับยุทธิวิธี เช่นเดียวกัน ฝ่ายที่พยายามจะปิดกั้นช่องทางการสื่อสารก็ต้องทบทวนแล้ว ในยุคข้อมูลข่าวสาร ฝ่ายไหนต้องการปิดกั้นหรือคุกคามการสื่อสาร ฝ่ายนั้นเตรียมตัวเป็นฝ่ายแพ้ได้ก่อนเลย"
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net