Skip to main content
sharethis

ขณะที่ตัวเลขล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์จันทร์นี้ (27 ม.ค.) ระบุมีผู้ป่วยไวรัสโคโรนา 2019 อย่างน้อย 2,886 ราย มีผู้ในไทยและฮ่องกงแหล่งละ 8 ราย อีกด้านหนึ่งชาวเน็ตจีนก็พากันยกซีรีส์ภาพยนตร์ "เชอร์โนบิล" ที่นำเสนอเรื่องราวภัยพิบัติในอดีตสหภาพโซเวียต เพื่อนำมาวิพากษ์วิจารณ์การปิดกั้นเสรีภาพทางข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลจีนที่ส่งผลให้ภัยพิบัติรวมถึงกรณีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (nCoV) เลวร้ายลงกว่าเดิม

แฟ้มภาพโคโรนาไวรัสเมื่อปี 2003 (ที่มา: Wikipedia)

ชาวเน็ตจีนพากันยกซีรีส์ "เชอร์โนบิล" ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับอุบัติภัยร้ายแรงจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เมื่อปี 2529 ในเมืองเชอร์โนบิล อดีตสหภาพโซเวียต ปัจจุบันอยู่ในยูเครน มาเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบกับกรณีการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (nCoV) จากอู่ฮั่น โดยระบุถึงการขาดความสามารถในการควบคุมสถานการณ์และการที่รัฐบาลปกปิดข้อมูลไม่ให้สาธารณชนได้รับทราบ

โจวเซี่ยนหวัง นายกเทศมนตรีของอู่ฮั่นกล่าวยอมรับในบทสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ว่า การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสไม่ทันกาล โดยที่โจวเซี่ยนหวังบอกว่าเป็นเพราะเขาต้องรอให้ได้รับอนุญาตจากทางการก่อนถึงจะเปิดเผยข้อมูลได้

จากข้อมูลในตอนนี้มีผู้คนได้รับเชื้อเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 81 ราย มีกรณีเกิดผู้ได้รับเชื้อเกิดขึ้นในฮ่องกง, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ อย่างประปราย ประมาณ 5-10 ราย ขณะที่ในจีนแผ่นดินใหญ่มีจำนวนผู้ได้รับเชื้อชุกกว่าโดยเฉพาะในมณฑลหูเป่ย ที่ตั้งของเมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นที่ตรวจพบผู้ได้รับเชื้อแล้วประมาณ 1,400 ราย และมีผู้เสียชีวิต 76 ราย

นอกจากนี้ยังมีอยู่อย่างน้อย 5 กรณีที่เกิดขึ้นในซินเจียง มณฑลที่มีค่ายกักกันปรับทัศนคติผู้คนทำจำนวนมาก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญแสดงความกังวลว่า การที่ผู้คนถูกจับให้อาศัยอยู่ในสภานที่ปิดแออัดอย่างค่ายกักกันเสี่ยงต่อการเป็นโรคและการระบาด นอกจากนี้เจมส์ มิลลิวาร์ด ศาตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์จีนที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ซึ่งศึกษาเรื่องประเด็นอุยกูร์กล่าวเรียกร้องให้ทางการส่งตัวผู้ถูกคุมขังในค่ายกักกันกลับบ้าน เพราะสภาพที่คุมขังซึ่งแออัด มีสุขอนามัยแย่ ทำให้คนต้องเผชิญอากาศหนาว และมีความเครียดซึ่งส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ล้วนแล้วแต่จะส่งผลเสียต่อเรื่องโรคภัยไข้เจ็บได้

ชาวเน็ตบางรายในจีนยังเล่นตลกเสียดสีเมื่อทราบว่าประเทศไทยและญี่ปุ่นรายงานเรื่องการติดเชื้อโคโรนาไวรัสก่อนหน้าประเทศจีนโดยบอกว่าบางทีไวรัสก็ "เป็นพวกรักชาติ" เพราะเหมือนจะ "ติดต่อแต่กับชาวต่างชาติ" (ในความเป็นจริงแล้วกรณีแรกๆ ที่ไทยรายงานเป็นชาวจีนที่เดินทางมาไทย) นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ในช่วงเดือนที่แล้วมีคนถูกจับกุมเพราะโพสต์เกี่ยวกับเรื่องไวรัสบนโซเชียลมีเดีย

นั่นทำให้ชาวเน็ตพากันแสดงความรู้สึกต่อเรื่องผ่านพื้นที่วิจารณ์ซีรีส์ "เชอร์โนบิล" บนเว็บ Douban รวมถึงมีผู้ที่แสดงความคิดเห็นในกระดานข่าวอภิปรายว่า "ข้าพเจ้าหวังว่าประชาชนชาวจีนจะเรียนรู้อะไรบางอย่างจากซีรีส์นี้ สิ่งที่จะปกป้องพวกเราได้ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ ไม่ใช่เรือบรรทุกเครื่องบิน ไม่ใช่สิ่งที่จะพาไปลงจอดดวงจันทร์ได้ สิ่งที่จะคุ้มครองพวกเราคือเสรีภาพในการไหวเวียนของข้อมูลข่าวสาร เสรีภาพสื่อ และความเป็นอิสระของตุลาการ"

ทั้งนี้ประชาชนบางส่วนใน Weibo ซึ่งเป็นเว็บโซเชียลมีเดียของจีนที่มีการเซนเซอร์หนักมากก็มีคนเริ่มพูดถึงเรื่องนี้เช่นกันโดยอ้างอิงคำจากในเรื่อง "เชอร์โนบิล" มาใช้ เช่น "ในทุกๆ คำลวงที่เราเอ่ยออกไป จะสร้างหนี้ให้กับความจริง ไม่ช้าก็เร็ว เราก็ต้องชดใช้หนี้" บ้างก็ระบุถึงกรณีโคโรนาไวรัสตรงไปตรงมาอย่าง "การแพร่กระจายของโคโรนาไวรัสดูใกล้เคียงมากกับการคลี่คลายของเหตุการณ์เชอร์โนบิล แต่ด้วยการที่ทางการอู่ฮั่นมีความพยายามมากกว่า (เทียบกับสหภาพโซเวียต) ในการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร ...จะมีเจ้าหน้าที่บางรายที่จะต้องจ่ายหนักมากให้กับการยับยั้งนำเสนอความจริงมาเป็นเวลานาน เรามาคอยดูกันเถอะ"

ในเว็บไซต์ควอตซ์ยังมีบทความตั้งข้อสังเกตว่าการแสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผยในพื้นที่ออนไลน์จีนมีน้อยครั้งมากที่จะเกิดขึ้น แต่การกล่าวโจมตีในครั้งนี้มีแต่การเน้นโจมตีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยแทนที่จะเป็นรัฐบาลกลาง นอกจากนี้รัฐบาลยังวางแผนจัดการความไม่พอใจเอาไว้ล่วงหน้าด้วยการตั้งฟีเจอร์แฉออนไลน์เพื่อให้ประชาชนแจ้งรัฐบาลว่ามีเจ้าหน้าที่คนไหนที่ละเลยหรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค

เรียบเรียงจาก

Chinese people are using “Chernobyl” to channel their anger about the coronavirus outbreak, Quartz, 27-01-2020

Conditions Put Xinjiang Internment Camps at Risk as Region Confirms First

Coronavirus Cases, Radio Free Asia, 23-01-2020

แผนที่ตัวเลขสถิติผู้ได้รับเชื้อและผู้เสียชีวิต (ตรวจสอบล่าสุดเมื่อ 22.30 น. ของวันที่ 27 ม.ค. 2563) (ชมแผนที่)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net