กลุ่ม "นิสิต มมส.ปกป้องประชาธิปไตย" ชูป้ายไม่เอาอำนาจนอกระบบ พร้อมออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 อัดมีผู้สร้างเงื่อนไขให้เกิด "นายกฯ คนกลาง" โดยยืนยันจะต้านนายกรัฐมนตรีมาตรา 7-นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง และต่อต้านอำนาจนอกระบบทุกรูปแบบ

กลุ่ม "นิสิต มมส.ปกป้องประชาธิปไตย" ชูป้ายไม่เอาอำนาจนอกระบบ ระหว่างการจัดกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2557 (ที่มาของภาพ: จตุรงค์ ดำดี)

14 พ.ค. 2557 – เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (13 พ.ค.) ที่ลานกิจกรรม ตลาดน้อย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม "กลุ่มนิสิต มมส.ปกป้องประชาธิปไตย" ได้มีกิจกรรม "รวมพลคนรักประชาธิปไตย" ตอน "ตุลาการธิปไตยภายใต้สังคมไทยกับประชาธิปไตยที่จะไปไม่รอด" เพื่อคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีให้รักษาการนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง และต่อต้านนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

กิจกรรมดังกล่าวมีการอ่านแถลงการณ์จากกลุ่ม และให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้แก่อาจารย์ และนักศึกษาแสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมือง การอ่านบทกวี นอกจากนี้มีการร่วมกันเขียนแสดงความเห็นทางการเมืองบนผืนผ้า และชูป้ายไม่เอาอำนาจนอกระบบ

นอกจากนี้  "กลุ่มนิสิต มมส.ปกป้องประชาธิปไตย" ยังออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ใจความว่า ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำวินิจฉัยให้รักษานายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งนั้น "ในกรณีดังกล่าว ได้มีบุคคลหลายฝ่ายพยายามสร้างเงื่อนไขทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง โดยอาศัยมาตรา 7 ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นล้วนแต่ไม่ชอบด้วยวิถีทางแห่งประชาธิปไตยเพราะนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทั้งยังไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายในหลายๆ เรื่อง อาทิเช่น ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 มาตรา 171 วรรคสองที่ได้กำหนดไว้ว่า “นายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา 172”

"ฉะนั้นแล้วบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้นั้นจะต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนเท่านั้น ประกอบกับสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสามารถใช้บทบัญญัติในมาตราดังกล่าวได้"

"แม้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะพ้นจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองที่จะทำให้ไม่สามารถบริหารประเทศได้แต่อย่างใด เพราะได้มีพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พุทธศักราช 2534 มาตรา 10 วรรค 4 ได้กำหนดวางหลักไว้ชัดเจนว่า “ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีต้องอยู่ดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะได้เข้ารับจะเข้ารับหน้าที่ เพราะนายกรัฐมนตรีได้พ้นสภาพลงด้วยเหตุต่างๆ รวมถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง  ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี”"

"เมื่อพิจารณาจากบทบัญญัติดังกล่าวแล้ว ย่อมจะเห็นได้ชัดว่าคณะรัฐมนตรีในปัจจุบันที่ได้ทำการแต่งตั้ง นายนิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น ยังมีอำนาจในการบริหารประเทศโดยชอบด้วยกฎหมายต่อไป จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะสามารถใช้มาตรา 7 แห่งบทบัญญัติรัฐธรรมนูญได้"