Skip to main content
sharethis

องค์การความร่วมมืออิสลามเรียกร้องให้แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (MILF) และกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร (MNLF) ในฟิลิปปินส์ ร่วมมือกันเพื่อสันติภาพที่ครอบคลุมในมินดาเนา

 
เว็บไซต์ www.luwaran.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เกาะติดกระบวนการสันติภาพมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ รายงานเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า 57 ประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลามหรือ โอไอซี (OIC) เรียกร้องให้ผู้นำของแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (Moro Islamic Liberation Front - MILF)  และกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร(Moro National Liberation Front- MNLF) ให้เสริมสร้างความร่วมมือและความสามัคคีผ่านเวทีร่วมมือการทำงานร่วมบังซาโมโร (Bangsamoro Coordination Forum –BCF)เพื่อสันติภาพที่ครอบคลุมในมินดาเนา
 
องค์การความร่วมมืออิสลามซึ่งเป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากองค์การสหประชาชาติ ได้เสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวในที่ประชุมสุดยอดอิสลาม (Islamic Summit Conference) ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงอิสตัลบูล สาธารณรัฐตุรกี  ระหว่างวันที่ 14-15 เมษายน 2559 โดยมีผู้นำรัฐบาลจากประเทศสมาชิกเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือในประเด็นต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อชาวมุสลิมทั่วโลกพร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา
 
ในแถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่ในตอนท้ายของการประชุม มีใจความว่า “ที่ประชุมเรียกร้องให้ผู้นำของทั้งแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (Moro Islamic Liberation Front - MILF) และกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร (Moro National Liberation Front- MNLF) เสริมสร้างความเข้มแข็งในการประสานงานและความร่วมมือผ่านเวทีร่วมมือการทำงานร่วมบังซาโมโร หรือ BCF อีกทั้งขอให้ทำงานร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อความใกล้ชิดยิ่งขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือและความสามัคคีกับภาคส่วนเหล่านั้นเพื่อรักษาการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อรับประกันว่าสันติภาพที่ครอบคลุมจะเกิดขึ้นในทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ได้”
 
โดยในแถลงการณ์ระบุว่า “ที่ประชุมเรียกร้องให้เลขาธิการเดินหน้าความพยายามเพื่อหาความตกลงร่วมระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่ลงนามในข้อตกลงบังซาโมโรฉบับครอบคลุม(Comprehensive Agreement of Bangsamoro – CAB) และข้อตกลงระหว่างรัฐบาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์กับแนวร่วมกลุ่มปลดปล่อยแห่งชาติโมโร เมื่อปี 1996 เพื่อพัฒนากลไกรับรองความคืบหน้าของข้อตกลงเหล่านี้ และการปฏิบัติตามข้อตกลงบังซาโมโรฉบับครอบคลุมอย่างจริงจัง ด้วยเป้าหมายที่จะบูรณาการความคืบหน้าที่เกิดขึ้นในข้อตกลงสันติภาพเหล่านี้ไปสู่กฎหมายฉบับใหม่”
 
องค์การเพื่อความร่วมมืออิสลามได้จัดให้มีการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์และกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร ซึ่งนำไปสู่ข้อตกลงสันติภาพปี 1976 และข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์ ปี 1996
 
กลุ่มแนวร่วมอิสลามปลดปล่อยแห่งชาติโมโรได้เข้าร่วมในการเจรจาต่อรองสันติภาพกับรัฐบาลในปี 1997  ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2014 ทั้งสองกลุ่มลงนามในข้อตกลงบังซาโมโรฯ ด้วยหวังจะนำสันติภาพที่ยั่งยืนมาสู่ภาคใต้ของฟิลิปปินส์
ข้อตกลงบังซาโมโรฯ ให้อำนาจในการออกกฎหมายพื้นฐานบังซาโมโรโดยรัฐสภาฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเปิดทางไปสู่การสถาปนากลุ่มทางการเมืองจัดการตนเองบังซาโมโร
 
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ร่างกฎหมายไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาฟิลิปปินส์ ทำให้กลุ่มแนวร่วมฯ และประชาชนชาวบังซาโมโรผิดหวังอย่างมาก ซึ่งในแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่า องค์การความร่วมมืออิสลามมีความผิดหวังต่อการที่ร่างกฎหมายบังซาโมโรไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ เช่นกัน
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net