ออกหมายเรียก 19 แกนนำนปช. ชุมนุมเกิน 5 คน หลังเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ

19 แกนนำนปช.โดนออกหมายเรียกแล้ว ข้อหาชุมนุมเกิน 5 คน จากกรณีที่ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ปราบโกงประชามติ ขีดเส้นมาพบใน30 มิ.ย.นี้ ด้านจตุพร ขอประวิตรหยุดไล่ฟ้องคนตัวเล็ก ขะที่ศูนย์บ้านโป่งโดยเรียก 10 ราย ศูนย์นครพนม แกนนำจ่อถูกออกมายจับฝืนคำสั่ง คสช. 

22 มิ.ย.2559 จากกรณีที่วานนี้ (19 มิ.ย.59) เป็นวันที่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ประกาศตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนกลางที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าวนั้นถูกเจ้าหน้าที่อ้างคำสั่ง หัวหน้า คสช. เพื่อปิดศูนย์ดังกล่าว (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) ส่วนในหลายจังหวัดมีทั้งที่เปิดได้และเปิดไม่ได้ นั้น

ล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.59) มติชนออนไลน์ รายงานว่า กรณีการแจ้งความดำเนินคดีที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม โดยคณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินคดีกับแกนนำ นปช. ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2557 ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป จากกรณีที่ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว ประกอบด้วย จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช., ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช., ธิดา ถาวรเศรษฐ,  ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ, เหวง โตจิราการ, นิสิต สินธุไพร, ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ, ยงยุทธ ติยะไพรัช, ก่อแก้ว พิกุลทอง, วีระกานต์ มุสิกพงศ์, สงคราม กิจไพโรจน์, สมหวัง อัศราศี, ศวริศ ชูกล่อม, ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์, เกริกมนตรี รุจโสตถิรพัฒน์, อารี ไกรนรา, สมชาย ใจมุ่ง, พรศักดิ์ ศรีละมุด และศักดิ์รพี พรหมชาติ

โดยทั้งหมดจะต้องมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ที่กองบังคับการกองปราบปราม หากไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกไปอีก 1 ครั้ง และถ้าไม่มาพบอีกพนักงานสอบสอบจะออกหมายจับดำเนินคดีต่อไป

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ร่วมกิจกรรมเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ถูกออกหมายเรียกในข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองในที่เกิดเหตุเกิน 5 คนขึ้นไป เช่นกัน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ศูนย์ปราบโกงฯ นครพนม แกนนำถูกจ่อออกมายเรียก ฝืนคำสั่ง คสช. 

ขณะที่ จ.นครพนม เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวชาวบ้าน 8 รายที่ไปรับจ้างคนละ 200 บาทแลกกับการถ่ายรูปคู่กับป้าย “ประชามติต้องไม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพม่า” ก่อนที่จะมีมือดีนำไปโพสต์ลงในสื่อเฟซบุ๊กในเพจชื่อศูนย์ปราบโกงประชามติ จ.นครพนม หลังจากนั้น ดำรงศักดิ์ พุทธา อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านน้อยใต้ และแกนนำ นปช.ได้หลบหนีไป ซึ่งชาวบ้านต่างระบุว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนำป้ายมาติดที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมาที่ สภ.เมืองนครพนม เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ร่วมกันแถลงผลตรวจยึดของกลางหลายรายการ ประกอบด้วยเสื้อยืดคอกลมสีดำ จำนวน 150 ตัว มีทุกไซส์ สกรีนข้อความว่า “ประชามติ ไม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพม่า” และสกรีนข้อความ “ไปลงประชามติ” พร้อมป้ายผ้าไวนิลกว้าง 2.5 เมตร ยาว 4 เมตร ที่นำไปติดบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ชั่วคราว โดยของกลางเหล่านี้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้บริเวณหลังรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีบรอนซ์ ทะเบียน 4 กว 1068 กทม.ของดำรงศักดิ์ที่จอดภายในบ้านเลขที่ 109/47 ถนนราชทัณฑ์ ซอย 5 อ.เมืองนครพนม

พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทางลับทราบว่าดำรงศักดิ์ได้เดินทางไปรับเงิน 30,000 บาทจากแกนนำ นปช.ในส่วนกลาง ส่วนเสื้อยืดและป้ายผ้าถูกส่งมาทางไปรษณีย์ และได้ว่าจ้างชาวบ้านคนละ 200 บาท ให้ถ่ายรูปคู่กับป้ายดังกล่าว หลังจากนั้นดำรงค์ศักดิ์ได้เดินทางหลบหนีไปพบแกนนำที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้แล้ว
       
พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ระบุอีกว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายเรียกจากศาลทหาร และอาจขอหมายจับในคราวเดียวกันเลย เนื่องจากเป็นคดีที่น่าสนใจและเกี่ยวของกับความมั่นคงของชาติ ตามคำสั่ง คสช.3/2558 ผู้ใดมั่วสุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนชาวบ้าน 8 คนที่รับจ้างถ่ายรูปคู่กับป้ายนั้นได้ปล่อยตัวไปเป็นการชั่วคราวและกันตัวไว้เป็นพยาน
       
ด้าน พ.อ.ณรงค์ กลั่นวารี รอง ผบ.มทบ.210 กล่าวกับชาวบ้านที่ถูกควบคุมตัวว่า ตนมั่นใจว่าปีหน้าจะมีการเลือกตั้งแน่นอน และในอีก 20 ปีข้างหน้าประเทศจะต้องสงบสุข ตนเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำได้ หลังลงประชามติผ่านหรือไม่ผ่านก็มีการเลือกตั้งอยู่ดี ถ้าชาวบ้านเลือก ส.ส.ที่ดีก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเลือกผู้สมัคร ส.ส.ไหว้พวกท่านไม่ถึง 3 นาทีก็จบ พวกท่านถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมากันกี่ครั้งแล้ว ประชามติผ่านไม่ผ่านถามว่าตนได้อะไร ถ้าไม่ผ่านตนได้อะไร จะมาขึ้นป้ายปราบโกงประชามติได้อย่างไร ถึงไม่ผ่านก็ไปร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ถ้าครั้งหน้าจะไม่มีประชามติ ชาวบ้านอาจเสียโอกาสมากกว่า 

แกนนำขอประวิตรหยุดไล่ฟ้องคนตัวเล็ก

ล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.59) มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า จตุพร และคณะ ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่หยุดคุกคามประชาชนที่ทำการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ และข่มขู่หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะฟ้องศาลทหาร โดยนายจตุพร กล่าวว่า ขอสื่อสารไปยังพล.อ.ประวิตร ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง ขึ้นชื่อเป็นซุปเปอร์รัฏฐาธิปัตย์ และคิดจะเป็นนายกฯในอนาคต กว่าจะถึงวันนี้ได้พล.อ.ประวิตร ต้องมีจิตใจนักเลง รักษาคำพูดและทราบว่าอะไรคือการรังแกประชาชน ขอให้ท่านยุติการคุมคามประชาชน และไม่จำเป็นต้องถามว่าประชาชนได้เสื้อ ได้ป้ายศูนย์ปราบโกงฯจากที่ใด เพราะของทั้งหมดพวกตนทำให้ ซึ่งงบทุกอย่างที่ทำเทียบไม่ได้กับที่ กรธ. กกต. ได้ใช้ และรวมงบที่ใช้ลงทุนทั้งหมดไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจีที 200

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท