คุก 3 ปี 'แทน เทือกสุบรรณ' คดีบุกรุกที่เขาแพง ไม่รอลงอาญา ประกันตัว 5 แสน

21 ก.ย. 2559 ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีบุกรุกที่เขาแพงเกาะสมุย หมายเลขคดีดำ อ.3534/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พงษ์ชัย ฟ้าทวีพร อายุ 51 ปี ผจก.ห้างหุ้นส่วนเรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น, สามารถ หรือ โกเข็ก เรืองศรี อายุ 59 ปี หุ้นส่วน หจก.เรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น และนายหน้าขายที่ดิน, แทน เทือกสุบรรณ อายุ 35 ปี บุตรชายของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล อายุ 61 ปี อดีตเลขานุการส่วนตัวของ สุเทพ อายุ เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดร่วมฐาน ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางป่า หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานเข้าไปยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง หรือเผาป่าในที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครองหรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ,108 ทวิและ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2518 มาตรา 22 

โดยอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 23 ก.ย.56 บรรยายพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 27 ก.ย.43–5 ต.ค.44 เวลากลางวัน จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครอง ทำลาย แผ่วถางป่าเขาแพงอ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวา โดยจำเลยที่ 3-4 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลายแผ่วถางป่าเขาแพงอ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 14 ไร่ ด้วยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ชั้นพิจารณาจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ 
 
ศาลพิเคราะห์ พยานหลักฐานสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้ว พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบรับฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาว่า พงษ์ชัย และ สามารถ หรือโกเข็ก จำเลยที่ 1-2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฯ มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ,72 ตรี วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 5ปี 
 
ส่วน แทน และบรรเจิด จำเลยที่ 3-4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 (1) , 108 ทวิ วรรค1 และ พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ มาตรา 54 วรรคหนึ่ง , 72 ตรี วรรคหนึ่ง โดยการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฏหมายหลายบทให้ลงโทษความผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด ให้จำคุกคนละ 3ปี 
 
ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์เห็นว่า ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ และเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของชาติ ควรที่ประชาชนจะต้องร่วมกันหวงแหน บำรุงรักษาให้อุดมสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ไม่ให้เป็นของส่วนตัวแก่ผู้ใด การกระทำของจำเลยทั้งสี่ มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมของดิน น้ำ อากาศ และป่าไม้ทั้งโดยตรงและทางอ้อม อันเป็นต้นเหตุของความแห้งแล้ง และภัยพิบัติจากน้ำป่าไหลหลาก สภาพความผิดจึงเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ 
 
นอกจากนี้ยังให้จำเลยทั้งสี่ คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยทั้งสี่ออกจากที่ดินและป่าไม้บริเวรที่เกิดเหตุ ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก 
 
ภายหลัง ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ อาทิ สมุดเงินฝากธนาคาร หนังสือ น.ส.3 ก. เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ต่อสู้คดี 
 
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ต่อมาเวลา 16.15 น. ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสี่ โดยตีราคาประกัน พงษ์ชัย และ สามารถ หรือโกเข็ก จำเลยที่ 1-2 คนละ 800,000 บาท และ แทน และบรรเจิด จำเลยที่ 3-4 คนละ 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้งสี่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท