Skip to main content
sharethis
วัฒนา เมืองสุข ปฏิเสธข้อหาผิด ม.116 ปลุกปั่นประชาชน กรณีโพสต์เฟซบุ๊กตามหาหมุดคณะราษฎรที่หายไป ศาลนัดตรวจหลักฐาน 18 ธ.ค. 60 
แฟ้มภาพ เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Banrasdr Photo'
 

เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวไทย รายงานว่า ศาลออกนั่งบัลลังก์สอบคำให้การจำเลยคดีหมายเลขดำ อ.3158/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง วัฒนา เมืองสุข อายุ 60 ปี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และแกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 จากกรณีโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องหมุดคณะราษฎร

ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา วัฒนา จำเลยมาศาลตั้งแต่เวลา ประมาณ 08.30 น.ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมทีมทนายความ 

ทั้งนี้ ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังจนเข้าใจและสอบถาม ปรากฏว่า วัฒนาให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ภายหลังสอบคำให้การแล้วเสร็จ วัฒนาและทีมทนายความเดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

รายงานข่าวระบุว่า คดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ระบุความผิดสรุปว่า  เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2560 เวลา 18.01 น. จำเลยได้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Watana Muangsook โพสต์ข้อความในหัวข้อ “หมุดที่หายเป็นสมบัติของชาติ” ทำนองว่า หมุดคณะราษฎรเป็นโบราณวัตถุ เป็นสมบัติชาติ การที่หมุดคณะราษฎรสูญหายไป ผู้ที่เก็บหรือเบียดบังเอาไปเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน รัฐบาลสมควรถูกประณามเพราะหมุดอยู่ในบริเวณเขตพระราชฐาน แต่ไม่มีปัญญารักษาไว้ได้ และยังโพสต์ข้อความบิดเบือนให้บุคคลเข้าใจผิดว่าบุคคลทำการถอนหมุดจะต้องเป็นบุคคลที่มีความต้องการลบประวัติศาสตร์ เป็นการกระทำของพวกต่อต้านประชาธิปไตย รัฐบาลจึงต้องรับผิดชอบหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ หากทำไม่ได้เท่ากับรัฐบาลรู้เห็นกับฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตย      

การกระทำของจำเลยทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด มีทัศนคติไม่ดีต่อรัฐบาล เกลียดชังรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เป็นการปลุกกระแสกลุ่มคนที่มีความคิดเกลียดชังรัฐบาลเผด็จการ และต้องการต่อต้านการทำงานของรัฐบาลเพื่อเป็นการชี้นำชักชวนให้กลุ่มคนดังกล่าวและประชาชนทั่วไปออกมาเคลื่อนไหว หรือชุมนุมทางการเมืองต่อต้านการทำงานของรัฐบาลเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net