Skip to main content
sharethis

เลขา อย.เตรียมเสนอ รมว.สธ.ลงนาม เห็นชอบนิรโทษกรรมการครอบครองกัญชา 3 ฉบับ คาดประกาศราชกิจจาฯ สัปดาห์หน้า พร้อมยืนยันคนทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตปลูกกัญชาเสรี 

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2562 ว่านพ.ธเรศ กรัยษัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษนัดแรกที่มีการเพิ่มสัดส่วนคณะกรรมการใหม่ 8 คน ว่า ในการประชุมครั้งนี้คณะกรรมการยาเสพติดให้โทษ ฯ ได้พิจารณา ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการครอบครองกัญชา ไม่ต้องรับโทษ หรือ นิรโทษ 3 ฉบับ และนำผลการรับฟังความคิดเห็นเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2562 ที่ประชุมมีมิตเห็นชอบ และเตรียมเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ลงนาม จากนั้นประกาศในราชกิจจานุเษก คาดว่ามีผลบังคับใช้ภายในสัปดาห์หน้า โดยประชาชนที่ครองครอบกัญชาสามารถมาลงทะเบียน เพื่อรับสิทธินิรโทษไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย ได้ที่ภาคกลางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และต่างจังหวัดที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ โดยประกาศทั้งนี้ 3 ฉบับ ครอบคลุมผู้ครอบครองใน 3 กลุ่ม 1.แพทย์ นักวิจัย วิสาหกิจชุมชน 2.ผู้ป่วย และ 3.กลุ่มอื่นๆ 

ส่วนเนื้อหาสำคัญของการปรับแก้ไขเพิ่มเติมในประกาศฉบับนี้ ในส่วนของของผู้ป่วยจากเดิมกำหนดแค่เรื่องยาที่ปรุงบรรจุเสร็จ อาจเป็นในรูปของน้ำมันสารสกัด แต่ปัจจุบันเพิ่มไปถึง ใบ ดอก ของกัญชา แต่ต้องเป็นการสำแดงว่าใช้เฉพาะบุคคลเท่านั้น ขณะเดียวกันที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องตำรับยาแผนไทยที่มีส่วนผสมของกัญชา 16 ตำรับด้วย โดยต่อไปผู้ปรุงยาแผนไทย สามารถปรุงได้ใน 16 ตำรับนี้ แต่ผู้ปรุงยา ต้องเป็นผู้ได้รับการอนุญาตจากกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ซึ่งปัจจุบันมีหมอพื้นบ้านที่ผ่านการรับรอง 3,000 คน แต่ ทั้งหมดต้องมาผ่านการอบรมหลักสูตรจากรมการแพทย์อีกครั้ง หากต้องการใช้กัญชารักษาโรคเช่นเดียวกับแพทย์แผนปัจจุบันที่ต้องรับการอบรมด้วย 

ป.ป.ส. เปิด 7 กลุ่มผู้มีสิทธิ์ขออนุญาตผลิต นำเข้าและส่งออก 'กัญชา'

นพ.ธเรศ กล่าวอีกว่าที่ประชุมยังเห็นชอบเรื่องร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข การขออนุญาต และการอนุญาต ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองกัญชาด้วย โดยครอบคลุมว่าในการผลิต จำหน่าย หรือปลูกกัญชา 5 ปีแรก ต้องทำร่วมกับหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน หากเป็นนิติบุคคล ต้องเป็นคนไทย 2 ใน 3 ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ร่างกฎกระทรวง การผลิต และประกาศตำรับยาแผนไทย รวมถึง วิชาชีพในการผลิตและปรุงยา จะนำไปหารือในการประชุมประชาพิจารณ์วันที่ 26 ก.พ. 2562 นี้

ส่วนกรณีที่ฝ่ายการเมืองนำเรื่องกัญชามาเสียงเลือกตั้งที่จะมีขึ้นและระบุสามารถปลูกได้อย่างเสรี นพ.ธเรศ กล่าวว่ายืนยันว่าการปลูกกัญชาตามกฎหมาย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 7 พ.ศ.2562 นี้ ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเพาะปลูกกัญชาได้อย่างเสรี เพื่อควบคุมการใช้กัญชา ให้เหมาะสม และไม่ก่ออันตราย โดยการปลูกต้องทำร่วมกับหน่วยงานรัฐ และมีการจัดรายงานการปลูก การผลิต การส่งออก และต้องแจกแจงวัตถุประสงค์การปลูก เพราะต้องมีการรายงานต่อคณะกรรมการ ควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ 

ด้าน นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกล่าวว่าตำรับยาแพทย์แผนไทยที่จะมีการเอากัญชามาใช้ประโยชน์ปัจจุบันสังเคราะห์ได้ 96 ตัว แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่ม ก. มี 16 ตัว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมสามารถใช้ได้เลย ส่วนใหญ่ใช้ในการรักษากลุ่มอาการ ปวด นอนไม่หลับ เป็นต้น 2.กลุ่ม ข.กลุ่มที่วิธีการปรุงยายังไม่ชัด ต้องศึกษาเพิ่มเติม 3.กลุ่ม ค. ต้องศึกษาวิจัย และ 4.กลุ่ม ง. กลุ่มที่ยังติดขัดในข้อกฎหมายอื่นๆ เช่น ไซเตส เพราะมีการห้ามใช้สมุนไพรบางตัว 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net