Skip to main content
sharethis

เกิดเหตุก่อการร้ายด้วยการกราดยิงมัสยิดในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ 2 แห่ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 49 ราย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 48 ราย โดยมีจำนวนมากที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุเป็นคนขาว 'ฝ่ายขวาหัวรุนแรง' เอาไว้ได้ และพบว่าน่าจะมีแรงจูงใจจากการต่อต้านอิสลามและต่อต้านผู้อพยพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์และออสเตรเลียประณามเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าเป็นการก่อการร้ายจากฝ่ายขวา


จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่มาภาพ: TVNZ

15 มี.ค. 2562 ในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ เกิดเหตุสะเทือนขวัญที่สื่อต่างประเทศระบุว่าเป็นการก่อการร้าย เมื่อมีผู้ใช้อาวุธปืนกราดยิงในมัสยิด 2 แห่ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 49 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 48 ราย โดยจำนวนมากได้รับบาดเจ็บสาหัส 

มีการจับกุมและระบุตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุเอาไว้ได้เป็นคนขาว อายุ 28 ปี ที่เกิดในออสเตรเลีย ชื่อ เบรตัน ทาร์รานต์ เขาได้ทำการแพร่ภาพออกอากาศสดการกราดยิงผู้คนในมัสยิดเป็นเวลา 17 นาที โดยที่ในตอนนี้ทวิตเตอร์ได้ปิดบัญชีผู้ใช้งานในชื่อของทาร์รานต์ไปแล้ว นอกจากนี้ทาร์รานต์ยังเขียนแถลงการณ์เอาไว้ในโลกออนไลน์ความยาวกว่า 74 หน้า ระบุถึงสาเหตุแรงจูงใจที่ทำให้เขาก่อเหตุสังหารหมู่ผู้คนในมัสยิดครั้งนี้ โดยระบุว่าเขามีแรงจูงใจจากการต่อต้านอิสลาม แต่ก็มีมูลเหตุมาจากเรื่องการต่อต้านผู้อพยพ หวาดกลัวการถูกแทนที่ทางเชื้อชาติและรากเหง้าทางวัฒนธรรม

อย่างไรก็ตามสื่อนิวซีแลนด์เฮรัลด์ระบุว่าเขาตัดสินใจจะไม่รายงานเนื้อหารายละเอียดแถลงการณ์ของผู้ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแถลงในเรื่องนี้ยืนยันว่าคนที่ถูกจับกุมในครั้งนี้เป็นคนที่เกิดในออสเตรเลียจริง และเรียกผู้ต้องสงสัยว่าเป็นพวกผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงฝ่ายขวา

นอกจากทาร์รานต์แล้วตำรวจยังจับผู้ต้องสงสัยได้อีก 2 รายที่มีอาวุธ และกำลังสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังทำการปลดชนวนระเบิดที่ติดมากับรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุด้วย

สื่อคอมมอนดรีมระบุว่าจากการสังหารอย่างโหดเหี้ยมที่มีการไตร่ตรองไว้ก่อนล่วงหน้า นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ก็แถลงถึงเหตุการณ์นี้ว่าการโจมตีมัสยิดในไครสต์เชิร์ชถือเป็นการก่อเหตุรุนแรงในระดับที่ผิดวิสัย รวมถึงแสดงความเสียใจต่อเหยื่อในเหตุการณ์โดยเธอบอกว่าเหยื่อหลายคนอาจจะเป็นผู้อพยพหรือผู้ลี้ภัยที่เข้าประเทศนิวซีแลนด์เพื่อหวังจะได้รับความมั่นคงปลอดภัย อาร์เดิร์นกล่าวอีกว่าการก่อเหตุในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นการก่อการร้าย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับมัสยิดอัลนูร์และมัสยิดลินวูด มีญาติของเหยื่อรายหนึ่งชื่อยาสมิน อาลี เล่าว่าลุงของเธอถูกยิงในเหตุการณ์และกำลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เธอและครอบครัวย้านจากโซมาเลียมาที่นิวซีแลนด์เกือบ 20 ปี แล้วเพราะเธอมองว่านิวซีแลนด์จะเป็นที่ๆ ปลอดภัยสำหรับเธอในจะสามารถเดินสวมฮิญาบบนท้องถนนได้ อาลีบอกว่าถึงแม้เธอจะเคยถูกข่มเหงรังแกด้วยสาเหตุทางเชื้อชาติมาก่อน 2-3 ครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์กราดยิงแบบนี้ในนิวซีแลนด์ได้

"ฉันมองเรื่องนี้ว่าเป็นการก่อการร้าย ฉันมองเรื่องนี้โดยเห็นคนที่ไม่มีความเคารพต่อมนุษย์คนใดเลยโดยเฉพาะศาสนาเรา พวกเรามีสันติมาก ทำไมถึงโจมตีพวกเรา นี้เป็นเรื่องขี้ขลาด เป็นเรื่องน่ารังเกียจ" อาลีกล่าว


เรียบเรียงจาก

'One of New Zealand's Darkest Days': At Least 49 Killed in Terror Attack on Christchurch Mosques, Common Dreams, 14-03-2019
https://www.commondreams.org/news/2019/03/14/one-new-zealands-darkest-days-least-49-killed-terror-attack-christchurch-mosques

Three in custody after 49 killed in Christchurch mosque shootings, Stuff, 16-03-2019
https://www.stuff.co.nz/national/111313238/shooting-at-christchurch-mosque

Christchurch mosque shootings: Gunman livestreamed 17 minutes of shooting terror, New Zealand Herald, 15-03-2019
https://www.nzherald.co.nz/nz/news/article.cfm?c_id=1&objectid=12213076

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net