Skip to main content
sharethis

ชาวเน็ตมองรัฐบาลจีนว่ามือถือสากปากถือศีลในเรื่องข้อกล่าวหา "สนับสนุนการก่อการร้าย" ที่พวกเขาอ้างใช้จับกุมนักศึกษามหาวิทยาลัยฮ่องกงเพียงเพราะพวกเขาไว้ทุกข์ให้กับคนที่เคยปะทะกับตำรวจแล้วฆ่าตัวตาย ในขณะที่ทางการจีนเองกลับเคยพบปะหารือกับกลุ่มติดอาวุธตอลีบันที่เพิ่งจะยึดอำนาจจากรัฐบาลอัฟกานิสถานเมื่อไม่นานนี้

27 ส.ค. 2564 ชาวเน็ตสร้างมีมนำเสนอรูป 2 รูป รูปบนคือกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮ่องกง (HKU) ที่ยืนเรียงแถวสวมหน้ากากอนามัยอย่างสงบ กับอีกรูปหนึ่งคือภาพของรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน หวังอี้ ถ่ายรูปยืนคู่กับตัวแทนของกลุ่มตอลีบัน มีมนี้มีการเผยแพร่ไปทั่วโซเชียลมีเดียนับตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นการพยายามแสดงเห็นถึงความย้อนแย้งและมือถือสากปากถือศีลของรัฐบาลจีนที่มองกลุ่มนักศึกษา HKU เป็น "ผู้ก่อการร้าย" แต่กลับถ่ายรูปกับกลุ่มติดอาวุธตอลีบัน

มีมนี้เผยแพร่ไปทั่วในช่วงเดียวกับที่มีการจับกุมตัวนักศึกษา HKU 4 ราย โดยอ้างข้อหาว่าพวกเขา "ส่งเสริมการก่อการร้าย" จากการที่กลุ่มนักศึกษาเหล่านี้ออกถ้อยแถลงแสดงความเสียใจต่อชายคนหนึ่งที่แทงตัวเองเสียชีวิตหลังจากที่เขาโจมตีตำรวจด้วยมีดในวันที่ 1 ก.ค. 2564 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 24 ปีการส่งมอบเกาะฮ่องกงให้กับจีน ในถ้อยแถลงนั้นระบุว่าองค์การนักศึกษาแสดงความ "เสียใจอย่างสุดซึ้ง" แต่การเสียชีวิตของเหลียงคินไฟและแสดงความชื่นชมที่เขา "เสียสละ" เพื่อฮ่องกง

หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ทำร้ายตำรวจในครั้งนั้น หน่วยงานตำรวจฮ่องกงก็แปะป้ายเหตุการณ์ 1 ก.ค. ว่าเป็น "การก่อการร้ายแบบปฏิบัติการคนเดียว" และอ้างว่าการแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของผู้ก่อเหตุเป็น "การเชิดชู" การก่อการร้ายและจะถูกจัดให้เห็น "การยุยงปลุกปั่นการก่อการร้าย"

หลังจากที่ตำรวจอ้างในเรื่องนี้กลุ่มนักศึกษาก็ถอนแถลงการณ์และแสดงการขอโทษต่อสาธารณะรวมถึงลาออกจากตำแหน่งในองค์การนักศึกษาของตัวเอง หลังจากที่ อาร์เทอร์ ลี ประธานสภาของมหาวิทยาลัยบอกว่าจะต้อนรับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงให้มาสืบสวนคดีในมหาวิทยาลัยของเขา ซึ่งคำขอโทษจากกลุ่มนักศึกษาก็ไม่สามารถหยุดการสืบสวนคดีของตำรวจได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายความมั่นคงของฮ่องกงเข้าไปตรวจค้นสำนักงานของสหพันธ์นักศึกษา และหนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็มีการจับกุมนักศึกษา 4 ราย

นักศึกษาที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ทั้งหมดมีอายุระหว่าง 18-20 ปี พวกเขาถูกนำตัวขึ้นศาลในวันถัดจากที่ถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหา "ส่งเสริมการก่อการร้าย" อีกทั้งยังเผชิญกับอีกข้อหาหนึ่งคือยุยงให้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ มีการเลื่อนการพิจารณาคดีครั้งถัดไปเป็นวันที่ 14 ก.ย. โดยที่ทุกคนที่ถูกจับกุมยังอยู่ในที่ต้องขังและมีการปฏิเสธไม่ยอมให้นักศึกษา 3 รายได้รับการประกันตัว มีอยู่ 1 รายที่อยู่ในช่วงการพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

มีมีมบางส่วนที่เทียบรูปภาพของนักศึกษาที่คำนับขอโทษร่วมกันในการแถลงข่าว เทียบกับการที่ทางการจีนถ่ายรูปร่วมกับตัวแทนจากตอลีบัน ผู้แชร์มีมนี้รายหนึ่งระบุข้อความว่า "กลุ่มนักศึกษา HKU แสดงการไว้อาลัยต่อคนที่เสียชีวิตผู้เคยก่อเหตุทำร้ายตำรวจถูกกล่าวหาว่าเป็นส่งเสริมการก่อการร้าย แล้วทีหวังอี้(รัฐมนตรีต่างประเทศจีน) ให้ความร่วมมือกับตอลีบันกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นที่รู้จักกันดีล่ะ"

นอกจากนี้ชาวเน็ตบางส่วนยังตั้งข้อสังเกตว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนและชั้นนำอื่นๆ ในจีนมักจะพูดถึงตอลีบบันในแง่บวก เช่นในวันที่ 15 ส.ค. หลี่เช่าเซียน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยจีน-อาหรับแห่งมหาวิทยาลัยหนิงเซี่ย ให้สัมภาษณ์ต่อช่องโทรทัศน์รัฐบาลจีนว่า "ตอลีบันสร้างความประทับใจใหม่ให้ผู้คน หลังจากที่พวกเขาปิดล้อมเมืองไปไม่นาน พวกเขาก็เผยแพร่ข้อมูลเพื่อปลอบขวัญผู้คน... ผู้คนต่างก็ไปทำงานกันเป็นปกติ พวกเขาไม่แทรกแซง"

ขณะที่ภาพข่าวต่างประเทศหลายแห่งในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงชาวอัฟกานิสถานจำนวนมากพยายามหนีออกนอกประเทศจนเกิดเป็นความโกลาหลในสนามบินกรุงคาบูลและมีวิดีโอโศกนาฏกรรมที่แสดงให้เห็นผู้ที่เกาะเครื่องบินเพื่อหนีออกจากประเทศบางส่วนตกจากเครื่องบิน

ในวันที่ 16 ส.ค. หัวชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนก็พูดถึงสถานการณ์ในอัฟกานิสถานไว้ว่า "เป็นเจตจำนงและการเลือกของประชาชนชาวอัฟกานิสถาน" อีกทั้งในวันเดียวกันสื่อรัฐบาลจีนยังนำเสนอกลุ่มติดอาวุธตอลีบันให้กับชาวเน็ตจีนในโซเชียลมีเดียเว่ยปั๋วว่ากลุ่มติดอาวุธนี้เป็น "นักเรียน" ที่มาจากค่ายผู้ลี้ภัย แต่การพยายามบิดเบือนภาพลักษณ์ก็หลอกชาวเน็ตจีนไม่ได้ ชาวเน็ตจีนพากันวิพากษ์วืจารณ์เรื่องที่สื่อจีนปกปิดไม่พูดถึงเบื้องหลังความเป็นกลุ่มก่อการร้ายของตอลีบัน

นอกจากนี้สื่อโกลบอลไทม์ที่ได้งบประมาณจากรัฐบาลจีนยังระบุว่าตอลีบันเป็นกลุ่มที่กลายเป็นสายกลางมากขึ้นแทนที่จะเป็นกลุ่มสุดโต่งทางศาสนาแบบในอดีต

เรื่องเหล่านี้ทำให้เกิดเสียวิพากษ์วิจารณ์ทางอินเทอร์เน็ตตามมาต่างๆ นานาเช่น "พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจ้างตอลีบันมาเป็นที่ปรึกษาหรือ" บางก็ระบุว่า "คุณป้า (หมายถึงหัวชุนหยิง) บอกว่า 'เคารพในเจตจำนงและการเลือกของประชาชนอัฟกานิสถาน' แต่ทำไมพวกเขาไม่เคารพในเจตจำนงและการเลือกของประชาชนฮ่องกง"

หนึ่งในผู้ที่วิจารณ์ในเรื่องนี้คือ นาธาน ลอว์ นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยฮ่องกงซึ่งปัจจุบันกลายเป็นผู้พลัดถิ่น ลอว์บอกว่าเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมือถือสากปากถือศีลและความสองมาตรฐานของจีนในเรื่องการก่อการร้าย


เรียบเรียงจาก
Who is glorifying terrorism: Hong Kong students or the Chinese government?, Global Voices, 26-08-2021

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net