'ศรีสุวรรณ' เผย กกต.เรียกสอบกรณีร้องเรียน 'ปิยบุตร' กล่าวหาคนอีสานว่าเป็นคนตลก 27 มี.ค. นี้

23 มี.ค. 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กกต. ได้มีหนังสือเชิญไปให้ถ้อยคำ ในวันพุธที่ 27 มี.ค. 2562 นี้เวลา 10.00 น. กรณี Facebook ชื่อ “Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล ระบุข้อความในลักษณะเป็นการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จว่า “รัฐจากส่วนกลางจับมือกับสื่อมวลชนบางกลุ่มผลิตสื่อเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คนอีสานเป็นคนตลก ไม่มีความรู้...” หลังจากไปปราศรัยที่ จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2562 ที่ผ่านมา

นายศรีสุวรรณระบุว่าการกระทำดังกล่าวอันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 มาตรา 73(5) ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร  หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนน ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  ด้วยวิธีการใส่ร้ายด้วยความเท็จ ซึ่งอาจมีโทษตาม ม.159 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี

ซึ่งกรณีดังกล่าว กกต.ได้มีคำสั่งที่ 19/2562 แต่งตั้งเจ้าหนักงานและคณะกรรมการสืบสวน ไต่สวนและดำเนินคดี ตาม ม.42 ของ พรป.คณะกรรมการการเลือกตั้ง 2560 แล้ว จึงได้มีหนังสือเชิญผู้ร้องไปให้ถ้อยคำพร้อมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อประกอบการทำคำวินิจฉัยเสนอ กกต. พิจารณาเพื่อส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาและวินิจฉัยลงโทษต่อไป นายศรีสุวรรณกล่าวในสี่สุด

จ่อร้อง กกต.สอบคุณสมบัติธนาธรกรณีมีหุ้นในสื่อ

ต่อมาในช่วงบ่ายของวันที่ 23 มี.ค. 2562 นายศรีสุวรรณแจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบและในสื่อต่างๆรายงานตรงกันพบว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 62 นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมการบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์หรือมีเดีย ทำหนังสือถึงนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพมหานคร ส่งบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นชุดใหม่ ลงวันที่ 21 มี.ค.62  โดยปรากฎนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา ได้โอนหุ้นที่ถือครองรวมกันรวม 900,000 หุ้น มูลค่า 9 ล้านบาทไปให้ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาทั้งหมดเพียง 3 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.62 นี้นั้น

การที่นายธนาธรและภรรยา มีหุ้นอยู่ในธุรกิจสิ่งพิมพ์หรือสื่อมวลชนดังกล่าว ย่อมถือได้ว่าอาจบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา 42(3) บัญญัติว่า “บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ” ซึ่งศาลฎีกาเคยมีคำสั่งในลักษณะนี้ไว้แล้ว ตามคำสั่งศาลฎีกาที่ 1144/2562 และ 1228/2562 ลงวันที่ 7 มี.ค.62

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำคำร้องพร้อมพยานหลักฐานไปร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัยและเสนอต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งจากผู้สมัคร สส.ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่ และเพิกถอนรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคอนาคตใหม่ต่อไป โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2562 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ชั้น 1 ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่  กทม.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท