นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ปอท. กรณีโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวในทำนองว่า กกต. เตรียมแถลงแจกใบแดงว่าที่ ส.ส. 45 เขต ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ชี้แจงวันนี้ (31 มี.ค.) ผ่านเฟสบุ๊คไม่เคยใช้ทวิตเตอร์ Nitipoom Navaratna และไม่ทราบว่ามี Twitter นี้เสียด้วยซ้ำ เป็นที่สงสัยอยู่ว่ามีคนอื่นแอบใช้ Twitter นี้อยู่หรือมีการ link กับสื่อโซเชียลใดของตนอยู่หรือไม่
นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ที่มาภาพ: เฟสบุ๊คนิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย)
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่าพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าสอบปากคำนายนิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ปอท. กรณีโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ในทำนองว่า กกต. เตรียมแถลงแจกใบแดงว่าที่ ส.ส. 45 เขต ซึ่งต่อมา กกต. แจ้งว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข่าวปลอม จึงไปแจ้งความดำเนินคดี นายนิติภูมิธณัฐ ในความผิดข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ขณะที่ ร้อยตำรวจเอกนิติภูมิธณัฐ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวน จะรวบรวมหลักฐานสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป
สงสัยอยู่ว่ามีคนอื่นแอบใช้ Twitter นี้อยู่หรือมีการ link กับสื่อโซเชียลใดของตนอยู่หรือไม่
วันนี้ (31 มี.ค.) เฟสบุ๊คนิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ได้ชี้แจงการเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ปอท. รวมถึงการตั้งข้อสงสัยว่ามีคนอื่นแอบใช้ Twitter นี้อยู่หรือมีการ link กับสื่อโซเชียลใดหรือไม่ ดังนี้
เพื่อนไลน์แอทไอดี@ntp5 ส่วนหนึ่งถามมาเรื่องที่มีข่าวว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล จับผมเมื่อวาน
ขอเรียนว่า ผมไม่ได้ถูกจับนะครับ
อันดับแรกคือวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2562 ผมโพสต์ในไลน์นี้ และในเฟสบุ๊คแฟนเพจ (แบบที่เป็นข่าวใน นสพ.ไทยรัฐ ที่แนบมาด้วย)
วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2562 ผมทราบว่าตำรวจออกหมายเรียกให้ผมไปพบพนักงานสอบสวนที่ กก.3 บก.ปอท. ภายในวันที่ 5 เมษายน 2562
ผมเห็นว่าวันที่ 5 เมษายน 2562 จะนานเกินไป ผมต้องการไปพนักงานสอบสวนเสียให้เสร็จในวันรุ่งขึ้น คือวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2562
เป็นหมายเรียกนะครับ ไม่ใช่หมายจับตามที่หนังสือพิมพ์บางสำนักออกข่าวในครั้งแรก
นักข่าวหนังสือพิมพ์สำนักนั้นอาจจะไม่มีขนาดของความรู้เพียงพอจึงแยกแยะไม่ออกระหว่างหมายเรียกและหมายจับ
แต่ตอนหลังอาจจะมีคนไปสอนและแนะนำให้ความรู้ จึงเปลี่ยนข่าวจากหมายจับมาเป็นหมายเรียก
สาเหตุของการถูกออกหมายเรียก มาจากการที่ผมโพสต์ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2562 เรื่องใบเหลือง ใบแดง (โปรดอ่านข่าวจาก นสพ.ไทยรัฐ ที่แนบมาด้วย ที่ลงข่าวได้ถูกต้องมากที่สุด)
ข้อหาที่ กกต.แจ้งความผมก็คือ...“นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา”
ขอเรียนครับ ว่าผมใช้ชื่อ ร.ต.อ.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ตั้งแต่ 15 กันยายน 2559 และผมโพสต์เรื่องใบเหลือง ใบแดง ของ กกต.ลงในเฟสบุ๊คแฟนเพจ ที่ผมใช้ชื่อนี้
แต่ในเวลาเกือบไล่เรี่ยกัน มีการไปโพสต์ในทวิตเตอร์ชื่อนามสกุลเดิมคือ Nitipoom Navaratna ซึ่งผมเองไม่เคยใช้ทวิตเตอร์นี้และไม่ทราบว่ามี Twitter เสียด้วยซ้ำ เป็นที่สงสัยอยู่ว่ามีคนอื่นแอบใช้ Twitter นี้อยู่หรือมีการ link กับสื่อโซเชียลใดของผมอยู่หรือไม่
ในโลกโซเชียลมีคนใช้ชื่อและภาพของผมจำนวนหลายสิบบัญชีและประเภท แต่ที่เป็นของผมจริงๆ มีไม่ถึง 10% ของที่ปรากฏในโลกออนไลน์
เมื่อนักข่าวมาถามในวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม ผมบอกว่าโพสต์ในเฟสบุ๊คแฟนเพจ ไม่มีในทวิตเตอร์ แต่บางสื่อเอาไปลงว่าบอกว่าผมปฏิเสธว่าไม่ได้โพสต์ ซึ่งไม่เป็นความจริง
ข้อมูลข่าวในสำนักข่าวต่างๆ มาตรฐานต่างกันตามความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ จรรยาบรรณ และตามคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ของแต่ละสื่อ
ผู้อ่านหรือผู้ดูต้องพิจารณาเลือกรับข่าวด้วยครับ
เดี๋ยวจะเขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ รับใช้เพื่อนไลน์แอทไอดี @ntp5 นะครับ แต่จะไม่เขียนรายละเอียดเรื่องราวในสำนวนที่ผมให้ปากคำแก่พนักงานสอบสวน
ตั้งแต่ พ.ศ.2549 ผมโดนมามากกว่านี้เยอะครับ
พ.ศ.2549 ผมสมัคร ส.ว.ได้คะแนนมากเป็นอันดับ 1 ของกรุงเทพฯ และเป็นที่ 1 ของประเทศไทยก็โดนปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย.49
ตอนหลังมาเป็น ส.ส. ก็มีคนก่อเรื่องวุ่นวายจนต้องมีการยุบสภาเมื่อ 9 ธ.ค. 56 และให้มีการเลือกตั้งใหม่ 2 ก.พ.57
2 ก.พ.57 ผมลงสมัคร ส.ส.ในเขตประเวศและเขตสะพานสูง ผมได้คะแนนมาเป็นที่ 1
แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเมื่อ 21 มี.ค.57 ว่าการเลือกตั้งครั้งนั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงยกเลิกการเลือกตั้งทั่วประเทศ
ตั้งแต่การปฏิวัติ 22 พ.ค.57 เป็นต้นมา ผมและอีกหลายท่านโดนเรื่องโดนคดีความกันเยอะแยะ
หลายท่านที่สนิทกับจึงต้องเปลี่ยนข้างเพื่อความอยู่รอด
ผมเป็นคนหนึ่งที่โดนมากกว่าใคร แต่ที่ยังอยู่ได้เพราะอาศัยลูกอึด
เพื่อนร่วมอุดมการณ์หลายท่านที่ทนไม่ไหวก็ปลีกหลีกหนีจากการต่อสู้ทางการเมืองไปอยู่ต่างประเทศหรือไปประกอบอาชีพอื่น
การดำเนินงานทางการเมืองมีหลายอย่าง บางคนเลือกใช้วิธีการรุนแรง ประท้วง
แต่ผมนิยมวิธีการให้ความรู้และการทำงานตามวิธีทางรัฐสภา และมุ่งมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขซึ่งผมเชื่อมั่นว่าระบบนี้เหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุดครับ.