Skip to main content
sharethis

อัยการจังหวัดกระบี่มีความเห็นสั่งฟ้อง “ดลพร” ชาวพังงาในคดี ม.112 จากเหตุคอมเมนต์ใต้โพสต์ตั้งคำถามความมีประโยชน์ของซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ศาลกระบี่ให้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี 150,000 บาท

4 ก.ค.2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าเมื่อวานนี้(3 ก.ค.) อัยการจังหวัดกระบี่ยื่นฟ้อง “ดลพร” ประชาชนจากจังหวัดพังง่าอายุ 26 ปี ด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีไปแสดงความเห็นใต้โพสต์ที่ตั้งคำถามถึงประโยชน์ของซุ้มเฉลิมพระเกียรติที่โพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก  “รอยัลลิสต์มาร์เกตเพลส-ตลาดหลวง หรือ “ตลาดหลวง”

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า วีระ หนูคง อัยการในคดีบรรยายฟ้องดลพรว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2566 ทรงชัย เนียมหอม ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาในคดีนี้ ได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กในกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เกตเพลส-ตลาดหลวง” มีสมาชิกในกลุ่มกว่า 2,300,000 บัญชี และตามวันเวลาดังกล่าว พบผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพถ่ายซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ที่ติดตั้งไว้บริเวณถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งปรากฏพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 9, พระพันปีหลวง, รัชกาลที่ 10, พระราชินีสุทิดา ซึ่งสมาชิกทั่วไปในกลุ่มสามารถเข้าถึงและมองเห็นได้ พร้อมกับพิมพ์ข้อความประกอบภาพดังกล่าว ในลักษณะตั้งคำถามต่อประโยชน์ของการติดตั้งซุ้มดังกล่าว

จากนั้นพบผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นของจำเลย เข้ามาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ และอัยการบรรยายว่าเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 9, รัชกาลที่ 10 และพระราชินีสุทิดา เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยจำเลยมีเจตนาอาฆาตมาดร้าย และทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนชาวไทย และทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะต่อพระมหากษัตริย์และพระราชินี ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้

อัยการยังระบุว่าจำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2566 ทั้งที่ไม่ใช่การเข้ามอบตัวแต่อย่างใด เป็นการเดินทางไปตามหมายเรียกพยาน และคัดค้านการขอประกันตัวด้วยโดยให้เหตุผลว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงเกรงจะหลบหนีหากได้ปล่อยตัวชั่วคราว

ศูนย์ทนายความฯ ระบุข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าในวันที่ดลพรเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเนื่องจากได้รับหมายเรียกพยานเท่านั้น ไม่ใช่หมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาและไม่ได้ระบุว่าจะแจ้งข้อหาใด แต่เมื่อดลพรไปให้การกับเจ้าหน้าที่นั้นไม่ได้มีทนายความร่วมกระบวนการอยู่ด้วยอีกทั้งยังไม่แจ้งว่าให้ติดต่อทนายความด้วยมีเพียงแม่ที่เดินทางไปเป็นเพื่อนเท่านั้น และเมื่อตำรวจสอบปากคำในฐานะพยานเสร็จแล้วกลับแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 112 กับดลพรและระบุในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้ต้องหามีสิทธิที่จะพบและปรึกษากับทนายความ สุดทายยังถูกฝากขังระหว่างสอบสวนแต่ศาลให้ประกันด้วยวงเงิน 150,000 บาท

ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีนี้ไว้ และมีคำสั่งอนุญาตให้ดลพรประกันตัวได้ โดยให้วางหลักทรัพย์ประกันตัว 150,000 บาท พร้อมกำหนดวันนัดคุ้มครองสิทธิในคดีต่อไปวันที่ 15 ก.ค. 2567

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าทรงชัย เนียมหอม แกนนำกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ผู้กล่าวหาในคดีนี้ ได้ดำเนินการแจ้งความคดีมาตรา 112 จำนวนมากไว้ในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ โดยใช้วิธีการกล่าวหากระจายไปในหลายสถานีตำรวจ เบื้องต้นพบว่ามีผู้ถูกแจ้งข้อหาแล้วไม่น้อยกว่า 10 คดี อาทิที่ สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง, สภ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง, สภ.เมืองพัทลุง, สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง, สภ.คอหงส์ จ.สงขลา รวมทั้ง สภ.เมืองกระบี่ ในคดีนี้ และ สน.บางนา ในกรุงเทพฯ ด้วย โดยส่วนใหญ่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นประชาชนทั่วไป ไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกแจ้งความ ทำให้แต่ละคนมีภาระและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่อสู้คดี และขณะนี้อัยการได้ทยอยสั่งฟ้องคดีสู่ศาล

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net