Skip to main content
sharethis

กกต. ตัดสิทธิอีก 11 ผู้สมัคร ส.ส. จาก 4 สาเหตุ 1. เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองในขณะเดียวกันเกินกว่าหนึ่งพรรค 2. เป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ครบ 90 วัน 3. เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ และ 4. เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ขณะที่ ‘เรืองไกร’ ยื่น กกต.สอบ 4 ว่าที่ ส.ส. ‘อนุทิน-ณัฏฐพล-เอกนัฏ-ทวีศักดิ์’ ปมถือหุ้นสื่อฯ

2 พ.ค.2562 ข่าวสำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง รายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พิจารณากรณีผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งได้มีหนังสือขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาวินิจฉัยว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แล้วมีมติเห็นว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งกรณีดังต่อไปนี้เป็นผู้ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และมิให้นำคะแนนที่ผู้สมัครนั้นได้รับไปใช้ในการคำนวณตามมาตรา 128 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561

(1) กรณีเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองในขณะเดียวกันเกินกว่าหนึ่งพรรคการเมือง ซึ่งเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 ประกอบมาตรา 26 เป็นเหตุให้ต้องสิ้นสุดสมาชิกภาพทุกพรรคการเมืองที่ซ้าซ้อนตามมาตรา 27 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ส่งผลให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 41 (3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 เนื่องจากไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียง พรรคการเมืองเดียว ประกอบด้วย
(1.1) นายสุทัศน์ สัตย์แสง พรรคพลังปวงชนไทย หมายเลข 25 เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดสุรินทร์
(1.2) นายอธิป แท่นรัตนกุล พรรคพลังไทยรักไทย หมายเลข 2๔ เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดนนทบุรี
(1.3) นายวัฒนา เทพน้าทิพย์ พรรคพลังไทยรักไทย หมายเลข 25 เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนนทบุรี
(1.4) นางสาวพรสุปรีฐ์ บุปผานนทพัฒน์ พรรคพลังไทยรักไทย หมายเลข 29 เขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดนนทบุรี
(1.5) นายสมพงษ์ รัตนัง พรรคพลังไทยรักไทย หมายเลข 19 เขตเลือกตั้งที่ 8 จังหวัดขอนแก่น
(1.6) นายธนัท วัฒนะสิริโชค พรรคประชาธรรมไทย หมายเลข 32 เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครราชสีมา
(1.7) นายวัชระ วัชระกวีศิลป์ พรรคพลังชาติไทย หมายเลข 28 เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดร้อยเอ็ด
(1.8) นายเคน วิเศษสุนทร พรรครวมใจไทย หมายเลข 23 เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดหนองคาย

(2) กรณีเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ครบ 90 วัน และไม่ได้เป็นผู้ร่วมกันจดจัดตั้งพรรคการเมือง ส่งผลให้เป็นบุคคลผู้มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนในการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 41 (3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 เนื่องจากไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน นับถึงวันเลือกตั้ง ได้แก่ นายบุญชู แก้วกระจ่าง พรรคพลังชาติไทย หมายเลข 23 เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดราชบุรี

(3) กรณีเคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ในวงราชการส่งผลให้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 42 (10) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ได้แก่ นายณัฑฐภณ ฉิมอินทร์ พรรคเสรีรวมไทย หมายเลข 7 เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสมุทรสาคร

(4) กรณีเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 42 (17) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 เนื่องจากเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ได้แก่ นายสำเร็จ วงศ์ศักดา พรรคชาติพัฒนา หมายเลข 3 เขตเลือกตั้งที่ 13 จังหวัดนครราชสีมา

‘เรืองไกร’ ยื่น กกต.สอบ ‘อนุทิน-ณัฏฐพล-เอกนัฏ’ ปมถือหุ้นสื่อฯ

มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร 4 ราย ว่าเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามในการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็น ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ 98 (3) หรือไม่ เนื่องจากถือหุ้นในธุรกิจสื่อ เรืองไกรกล่าวว่า จากมาตรฐานการตรวจสอบของ กกต.กรณีธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ตนเห็นว่ายังผู้สมัครอีกหลายรายที่ถือหุ้น และอาจเข้าลักษณะต้องห้ามในการลงสมัคร กกต.จึงไม่ควรเลือกปฏิบัติ ซึ่งจากที่ตนตรวจสอบกับกรมธุรกิจการค้า ล่าสุด ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 รายมีชื่อถือหุ้นในบริษัทที่ระบุวัตถุประสงค์การดำเนินกิจการไว้ในข้อ 19  ว่า ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือจำหน่ายและออกหนังสือพิมพ์ ประกอบด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคภูมิใจไทย ถือหุ้นในบริษัทซิโนไทย ดีเวล็อปเม้นท์จำกัด จำนวน 37,500 หุ้น

เรืองไกรกล่าวอีกว่า ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และกรรมการบริหารพรรค ถือหุ้นในบริษัทศรีธาราแลนด์จำกัด จำนวน 750,000 หุ้น และถือหุ้นบริษัทพิมลทรัพย์จำกัด จำนวน 80,000 หุ้น รวมทั้งถือหุ้นในบริษัทแฟซิฟิกเอ็กซ์คลูซีฟ ซิตี้ คลับ จำกัด อีก 35,000 หุ้น ซึ่งในบริษัทดังกล่าวนี้ ยังพบมีชื่อเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 27 กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นอยู่ 35,000 หุ้น รวมถึง ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยและเป็นเลขาธิการพรรค ถือหุ้น 10,000 หุ้น จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบและถ้าหากบุคคลดังกล่าวขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร จะถือว่ามีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่ รวมถึงต้องยุบพรรคการเมืองตามมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ข้อร้องเรียนดังกล่าวมีผลกระทบต่อคะแนนเสียงแต่ละพรรคการเมือง ดังนั้นขอให้ กกต.ระงับการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อไว้ก่อน จนกว่าจะตรวจสอบให้ครบถ้วนเสียก่อน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net