รัฐบาลจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ประกาศแผนงบประมาณปีล่าสุดโดยเน้นเรื่อง "ความเป็นอยู่ที่ดี" ซึ่งฉีกแนวทางเดิมๆ ในการมองเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนในหลายประเทศที่มักจะเน้นใช้จีดีพีมาเป็นมาตรวัดเท่านั้น ทั้งที่มีการถกเถียงกันมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นไม่ได้สะท้อนปัญหาอื่นๆ อย่างความเหลื่อมล้ำหรือปัญหาด้านคุณภาพชีวิตต่างๆ
ภาพกรุงเวลลิงตัน เมืองหลวงนิวซีแลนด์ (ที่มา:pixabay)
13 มิ.ย. 2562 "เรื่องเศรษฐกิจกำลังบูมนั้นถือเป็นมาตรวัดอย่างเดียวสำหรับคุณภาพชีวิตในประเทศหนึ่งๆ หรือไม่" คือคำถามจากกองบรรณาธิการของสื่อคริสเตียนไซเอนซ์มอนิเตอร์ (CSmonitor) ในบทบรรณาธิการเกี่ยวกับแผนนโยบายของประเทศนิวซีแลนด์ที่เน้นเรื่องสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนเป็นหลัก
CSmonitor ระบุว่าคำถามดังกล่าวนี้มีการนำมาถกเถียงอภิปรายกันอย่างจริงจังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีนักวิจารณ์ค้นพบว่ามาตรวัดด้านการเงินอย่างผลผลิตมวลรวมประชาชาติหรือ "จีดีพี" (GDP) นั้นไม่เหมาะสมกับการนำมาใช้วัดสภาพความเป็นอยู่ที่ดีของคนในประเทศนั้นๆ ทำให้มีการพยายามนำเอามาตรวัดอื่นๆ มาใช้ไม่ว่าจะเป็นรายงานความสุขโลกประจำปีและเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติอย่างไรก็ตามในช่วงปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมารัฐบาลนิวซีแลนด์ที่นำโดยนายกรัฐมนตรีหญิง จาซินดา
อาร์เดิร์น ได้ออกแบบงบประมาณซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่เรียกว่า "แผนงบประมาณสภาพความเป็นอยู่ที่ดี" (wellbeing budget) โดยกำหนดให้การเสนองบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ของรัฐบาลในส่วนนี้จะต้องอยู่ในเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง 5 เป้าหมาย ได้แก่ การสนับสนุนด้านสุขภาพจิต (รวมถึงการที่มีคนฆ่าตัวตายน้อยลง) การลดปัญหาความยากจนในเด็ก การช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยเช่นชาวเมารีหรือชาวเกาะแปซิฟิก การพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน หรือการปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างสำเร็จลุล่วง
"พวกเราเคยบอกว่าพวกเราจะเป็นรัฐบาลที่ทำในสิ่งที่ต่างออกไป และสำหรับงบประมาณชุดนี้ พวกเราก็ได้ทำในสิ่งที่ต่างออกไปแล้ว...ในวันนี้พวกเราได้วางรากฐานให้กับสิ่งที่ไม่เพียงแค่เป็นงบประมาณด้านสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี แต่รวมไปถึงแนวทางการตัดสินใจของรัฐบาลที่ต่างออกไปด้วย" อาร์เดิร์น กล่าว
แกรนต์ โรเบิร์ตสัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของนิวซีแลนด์ที่นำเสนอนโยบายนี้ผ่านทางวิดีโอร่วมกับอาร์เดิร์นกล่าวว่าพวกเขาต้องการทำให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจของประเทศพวกเขาจะเติบโตในรูปแบบที่ยั่งยืน เขายังบอกอีกว่าการที่กำหนดแนวทางการใช้งบประมาณเพื่อเน้นเรื่องการสนับสนุนครอบครัวคนทำงานและคนที่มีรายได้น้อยกับการเน้นความเป็นอยู่ที่ดีของคนที่เคยมีอำนาจทางการเมืองน้อยมาก่อนจะเป็นกุญแจสำคัญในการใช้วัดความสำเร็จของประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงไม่กี่ปีถัดจากนี้แทนการใช้แค่ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม "ความสำเร็จคือการที่ทำให้นิวซีแลนด์กลายเป็นทั้งสถานที่ๆ ดีที่จะหาเลี้ยงชีพ และเป็นสถานที่ๆ ยอดเยี่ยมในการใช้ชีวิต" โรเบิร์ตสันกล่าว
บท บก. ของ CSmonitor ระบุว่าถึงแม้การเติบโตของ GDP จะเกี่ยวพันกับการเติบโตของความมั่งคั่งและความเป็นอยู่ที่ดีได้ในบางส่วน แต่ GDP ก็ไม่ได้สะท้อนให้เห็นว่ายังคงมีปัญหาเรื่องรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกันเช่นในประเทศสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ จึงทำให้น่าสงสัยว่า GDP สะท้อนแค่ความเป็นอยู่ที่ดีของคนที่มีอภิสิทธิ์เพียงบางกลุ่มแต่ไม่ได้เห็นภาพรวมเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน
สำหรับรัฐบาลปัจจุบันของนิวซีแลนด์ งบประมาณด้านความเป็นอยู่ที่ดีไม่ได้ละเลยเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่อาร์เดิร์นก็กล่าวไว้ว่า "แค่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเดียวไม่ได้นำประเทศไปสู่ความยิ่งใหญ่" อาร์เดิร์นยอมรับว่าถึงแม้เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์จะเข้มแข็ง แต่ก็ยังคงเผชิญกับปัญหาสังคมหลายด้านไม่ว่าจะเป็นปัญหาการฆ่าตัวตาย ปัญหาคนไร้บ้าน ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความยากจนในเด็ก
แผนงบประมาณของอาร์เดิร์นถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ฝ่ายซ้ายมองว่ามันไปไม่สุดเพราะยังไม่มีการขึ้นภาษีกำไรส่วนทุนที่จะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ ขณะที่ฝ่ายขวากลางวิจารณ์ว่าแผนงบประมาณนี้เป็นแค่ "การโฆษณารณรงค์ทางการตลาด" ที่เบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในอนาคต
ทั้งนี้ ในเรื่องนิยามที่ว่าอะไรคือความสุขหรือความเป็นอยู่ที่ดีนั้นยังคงเป็นเรื่องเถียงกันไม่จบ แม้กระทั่งสิ่งที่โทมัส เจฟเฟอร์สัน บุคคลในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เคยพูดถึงวลีดังที่ว่า "การได้ไล่ตามหาความสุข" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกาในฐานะสิทธิโดยกำเนิด ก็มีคนตีความในเชิงวิพากษ์ว่าวลีของเจฟเฟอร์สันเป็นแค่คำที่ปั้นให้ดูสวยหรูเอาไว้พูดถึงการไล่ตามความมั่งคั่งเท่านั้น แต่การตีความนี้จะถูกต้องจริงหรือ หรือเจฟเฟอร์สันเองก็คำนึงถึงเรื่องการคิดเผื่อคนอื่น และความพึงพอใจในระดับลึกซึ้งของมนุษย์ แบบที่รัฐบาลควรจะเล็งเห็นในเรื่องนี้ด้วย
บท บก. CSMonitor สรุปว่า ไม่ว่าทางเลือกของนิวซีแลนด์จะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องและได้ผลในแง่ความเป็นอยู่ที่ดีหรือไม่ก็ตาม แต่การทดลองเลือกไปในทางนี้ถือเป็นบทเรียนสำหรับที่อื่นๆ ได้ ถึงแม้ว่าประเทศนิวซีแลนด์จะเป็นประเทศเล็กๆ อยู่บนเกาะที่ห่างไกล และมีประชากรอยู่น้อยกว่า 5 ล้านคน แต่ก็เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยเบ่งบานโดยพยายามผสมกลมกลืนทั้งประชากรที่มาจากยุโรปและประชากรชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับประเทศอื่นๆ อีกจำนวนมาก นั่นทำให้การทดลองที่ยิ่งใหญ่ของประเทศเล็กๆ เกี่ยวกับงบประมาณด้านความเป็นอยู่ที่ดีนี้ สมควรได้รับการจับตามองจากที่อื่นๆ ของโลก
เรียบเรียงจาก
Centering a nation’s budget on 'well-being’, The Christian Science Monitor, Jun. 10, 2019
Applause for New Zealand 'Wellbeing Budget' That Dedicates Billions to Mental Health Care and Ending Child Poverty, Common Dreams, May 30, 2019