Skip to main content
sharethis

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิเสธข่าววางระเบิดเป็นการแก้แค้นกองทัพภาคที่ 4 เตือนสื่อไม่ควรนำเสนอข่าวที่สร้างความสับสนและความเกลียดชัง ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 เผยยังไม่ได้รับรายงานคำรับสารภาพของผู้ต้องสงสัยวางระเบิดเพราะแค้นทหารที่ทำเพื่อนตายในค่ายระหว่างสอบสวน ชี้หากพาดพิงกองทัพภาค 4 ให้ไปถาม กก.สอบสวนข้อเท็จจริง

3 ส.ค. 2562 พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่ถูกจับกุมจากเหตุลอบวางวัตถุต้องสงสัยหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับสารภาพว่าก่อเหตุเพื่อแก้แค้นกองทัพภาคที่ 4 เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการคุมตัวแนวร่วมก่อเหตุไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ไปสอบสวน และเสียชีวิตในค่ายทหาร พร้อมยืนยันว่าขณะนี้จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล และขอเวลาทำงานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมเตือนสื่อบางสำนักไม่ควรนำเสนอข่าวที่สร้างความสับสนและความเกลียดชัง

โฆษกรัฐบาล ขอให้รอผลการสอบสวนทางการดีกว่า

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่าผู้ต้องหาที่จับกุมได้ 2 คน จากเหตุวางระเบิดที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะแค้นที่กองทัพภาคที่ 4 คุมตัวแนวร่วมไปสอบสวนในค่ายทหารจนเสียชีวิตว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งรัฐบาลและรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ปฏิเสธข่าวไปแล้ว โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลหาข้อเท็จจริง จึงขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานก่อน เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีบางเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวกับเหตุระเบิดทั้งหมด พร้อมระบุ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนโดยเฉพาะที่ถูกนำไปเชื่อมโยงกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงอยากให้รอฟังข้อมูลจากทางการจะดีกว่า

แม่ทัพภาคที่ 4 เผยยังไม่ได้รับรายงานคำรับสารภาพของผู้ต้องสงสัยวางระเบิดเพราะแค้นทหารที่ทำเพื่อนตาย

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า 2 ผู้ต้องสงสัยที่ลอบวางวัตถุคล้ายระเบิดด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติและถูกจับกุมได้ที่ จ.ชุมพรได้ให้การรับสารภาพว่าร่วมกับพวก 8 คน ขึ้นมาจากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อก่อเหตุแก้แค้น เนื่องจากไม่พอใจกองทัพภาคที่ 4 ที่เคยคุมแนวร่วมไปสอบสวนจนเสียชีวิตภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ว่าเบื้องต้นตนยังไม่ได้รับรายงานคำรับสารภาพของ 2 ผู้ต้องสงสัย แต่หากมีการพาดพิงถึงกองทัพภาคที่ 4 ในเรื่องดังกล่าวนั้น ก็ขอให้สื่อมวลชนไปสอบถามกับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีกว่า 30 คน

พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เพื่อความโปร่งใสที่มีทั้งแพทย์ คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เพราะตนไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเกรงข้อครหาว่าจะเป็นการให้ข้อมูลที่เข้าข้างเจ้าหน้าที่ของรัฐ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเรื่องการสอบสวนผู้ต้องสงสัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางทหารมีหน้าที่เป็นเพียงคนกลางในการดำเนินการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องสอบสวนเท่านั้น และหลังเกิดเหตุนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เสียชีวิตก็ได้สอบสวนผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด และตนขอย้ำว่ากองทัพจะไม่ทำผิดหลักสิทธิมนุษยชน หากพบว่ากำลังพลคนใดทำผิดจริง ตนจะไม่เลี้ยงไว้แน่นอน

ญาติร้องสื่อห่วง 2 ผู้ต้องสงสัยวางระเบิด สตช.ถูกซ้อมให้รับสารภาพ

ด้าน โพสต์ทูเดย์ รายงานว่าหลังเกิดเหตุมีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้ 2คน ซึ่งมีภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.นราธิวาส และหนึ่งในนั้นเป็นครูสอนเด็กตาดีกา และเพิ่งจบการศึกษาในระดับอนุปริญญาในสถาบันแห่งหนึ่งในตัวเมืองยะลา จึงทำให้ญาติไม่เชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

โดย ญาติ 1 ใน 2 ผู้ต้องสงสัย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ประสานขอความเป็นธรรมผ่านสื่อในพื้นที่ ระบุว่า "ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุในครั้งนี้เนื่องจากเขาเป็นชาวบ้านเป็นครูอุตาสอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดไม่คุ้นเคยเส้นทาง คุ้นเคยจุดที่เกิดเหตุนัก ขนาดคนที่ไปเรียนกรุงเทพหลายๆปียังไม่สามารถที่จะรู้ว่าจักกรุงเทพฯดี จะนั่งรถสายไหน ไปไหน ๆไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับคนบ้านนอกไม่น่าเชื่อว่าเขาจะไปก่อเหตุในครั้งนี้ อีกทั้ง เขาเพิ่งเรียนจบกำลังจะรับปริญญาของโรงเรียนธรรมปีนี้ ปกติที่ผ่านมาเขาก็เป็นครูสอนโรงเรียนตาดีกาในพื้นที่ เขากับเพื่อนได้ไปเที่ยวกรุงเทพฯหลายวันก่อนก็ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้กับเขา"

"เขาไปเที่ยวกับเพื่อนคนที่ถูกจับด้วยเขาสองคนอยู่หมู่บ้านใกล้ๆกันเมื่อคืนตกใจมากตอนที่เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นที่บ้านก็ทราบเรื่องตั้งแต่เมื่อคืนว่าเขาถูกจับในข้อหาก่อเหตุความไม่สงบที่กรุงเทพฯ พยายามติดต่อเขาหลายหน่วยงานแต่ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ตอนนี้เป็นห่วงมาก ทั้งนี้ จะขอเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อหาความเป็นธรรมให้กับเขา ขอยืนยันว่าไม่อยากจะเชื่อว่าเขามีส่วนร่วมในการก่อเหตุในครั้งนี้เลย"

ญาติกล่าวอีกว่า สิ่งที่กลัวมากที่สุดตอนนี้กลัวเขาจะถูกซ้อมเพื่อให้รับสารภาพขอเรียกร้องหน่วยงานทุกหน่วยงานช่วยกันคุ้มครองสิทธิของเขาด้วยเพราะเขายังไม่ใช่ผู้ต้องหาเขาเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยและมั่นใจว่าเขาไม่ได้ทำ

ที่มาเรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย ไทยรัฐออนไลน์ ผู้จัดการออนไลน์ โพสต์ทูเดย์
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net