นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ย้ายเข้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ระบุเหตุผลเพื่อปราบลัทธิ 'ชังชาติ' ปลุกปั่นเยาวชน ด้าน 'สุเทพ' ปลื้ม ชี้พรหมลิขิตพาคนคิดตรงกันมาอยู่ร่วมกัน ตั้งทำหน้าที่จัดตั้งสาขาพรรคทั่วประเทศ
23 พ.ย. 2562 ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่านพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรค และหม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค ให้การต้อนรับ โดยมีนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค สวมเสื้อพรรคให้ ซึ่งนพ.วรงค์ จ่ายเงินค่าสมาชิกพรรคตลอดชีพ 3,650 บาท ก่อนที่จะสวมเสื้อพรรครวมพลังประชาชาติไทย อย่างเป็นทางการ
นายสุเทพ ชี้แจงการดำเนินงานของพรรคหลังการเลือกตั้ง ว่า แม้จะดูเหมือนว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่ข้อเท็จจริงพรรคทำงานตลอด เพราะได้รับความไว้วางใจเข้าร่วมรัฐบาล และหัวหน้าพรรคได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ยืนยัน พรรคจะผลักดันนโยบายตามที่เคยหาเสียงไว้ โดยเฉพาะ ร่างพ.ร.บ.บริหารราชการจังหวัด ซึ่งต้องมีบุคลากรที่มีความสามารถ เข้มแข็ง โดยทุกพื้นที่จะต้องมีสาขาพรรค มีผู้นำที่เข้าใจการทำงาน ปัญหาประชาชน ร่วมขับเคลื่อนกับชุมชน
ในส่วนของสำนักงานใหญ่พรรค ต้องการคนที่จะเข้ามาบริหารพรรคเพื่อขับเคลื่อนงาน ซึ่งหลังเลือกตั้งมีการเปลี่ยนแปลง โดยได้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถมาเป็นผู้อำนวยการพรรคฯ คือ นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ขณะเดียวกัน พรรคยังมีความจำเป็นที่ต้องค้นหาบุคคลมาช่วยงานในพรรค ซึ่งทันทีที่ได้ยินข่าวว่า นพ.วรงค์ จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษทาบทามมา ซึ่งในขณะนั้น นพ.วรงค์ ชอบพรรครวมพลังประชาชาติไทยอยู่แล้ว คล้ายกับพรหมลิขิตนำพา พร้อมพูดติดตลกว่า “พรรคประชาธิปัตย์เคลื่อนไหวอย่างไรทราบตลอด เพราะเคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์เคลื่อนไหวอย่างไรแม้หายใจก็ได้ยิน”
สำหรับคุณสมบัติของ นพ.วรงค์ เป็นคนเดียวที่ถูกใจในการทำงานตั้งแต่สมัยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนทำงานจริง ทุ่มเท เปิดโปงโครงการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ให้เห็นพิษภัยของนักการเมืองที่หาผลประโยชน์จากนโยบายซึ่งอาจมีหลายโครงการ โดยเตรียมเสนอให้ นพ.วรงค์ ทำหน้าที่จัดตั้งสาขาพรรคทั่วประเทศ เพราะการทำงานการเมืองในอนาคตอุดมการณ์และความเข้าใจเป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนกระแสข่าว นพ.วรงค์เข้ามาในพรรค ไม่ใช่การเชิญมาเป็นหัวหน้าพรรค โดยยืนยันว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล จะเป็นหัวหน้าพรรคไปจนครบ 4 ปี รวมถึงจะอยู่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไปจนจบสมัย
ด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ดีใจที่ นพ.วรงค์มาร่วมงานกับพรรค เนื่องจากตัวเองไม่ถนัดเรื่องการเมือง มีเพียงนายสุเทพ ที่เชี่ยวชาญ แต่มีข้อจำกัดที่เคยสัญญากับประชาชนว่าจะไม่เล่นการเมือง
ขณะที่ นพ.วรงค์ ระบุว่า รู้สึกอบอุ่นกับการต้อนรับของพรรคมาก หากรู้ว่าอบอุ่นขนาดนี้คงมานานแล้ว พร้อมเล่าการตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่าหลังการเลือกตั้งปัญหาการเมืองเปลี่ยนแปลงไปมากจากการทุจริตเชิงนโยบาย เป็นกฎหมายล้างผิด ตัวเองทนไม่ได้ จึงเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อบอกว่าในประเทศมีปัญหาเรื่องลัทธิชังชาติ ที่พยายามปลุกปั่นเยาวชน สร้างความเกลียดชัง ย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีตลอดมา และไม่มีความขัดแย้ง
พร้อมฝากถึงคนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าเราไม่ควรทะเลาะกัน และอนาคตต้องพึ่งพากัน เพราะประเทศมีปัญหาหลากหลาย แต่สไตล์ของตัวเองไม่เหมาะกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่เหมาะกับการออกไปปราบลัทธิชังชาติกับพรรครวมพลังประชาชาติไทยมากกว่า