ผู้แทนกะเหรี่ยงชุมชนบ้านกลางร้องเรียน 'วราวุธ ศิลปอาชา' รมว.ทส. ปมชาวบ้าน 2 คนถูกดำเนินคดีทำไม้ในป่าชุมชน จี้ยุติดำเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวน เดินหน้าคลี่คลายความขัดแย้งในพื้นที่
31 ต.ค. 2563 ผู้แทนชุมชนกะเหรี่ยงบ้านกลาง ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ยื่นหนังสือถึงนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ โรงเรียนบ้านน้ำพาง ต.น้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน ให้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ในกรณีดำเนินคดีทำไม้ในป่าชุมชน หลังมีการเจรจาในระดับพื้นที่แล้วเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมาแต่ไม่เป็นผล
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2563 ได้มีหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาจากสถานีตำรวจภูธรแม่เมาะ จังหวัดลำปางไปยังชุมชนบ้านกลาง ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยผู้กล่าวหาคือ นายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท (เตรียมการ) ในข้อหา “ร่วมกันทำไม้ในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูป (ไม้จำปีป่า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันแปรรูปไม้ในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต”
นายสมชาติ รักษ์สองพลู ผู้ใหญ่บ้านบ้านกลาง ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นความไม่เป็นธรรมที่สร้างความเจ็บใจให้ชุมชน เป็นการสร้างความขัดแย้งมากขึ้น และแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในพื้นที่ไม่รักษาสัจจะ ยังคงเดินหน้ารังแกประชาชน
“รู้สึกว่าทำไมเรารับปากกันแล้ว แต่ไม่รักษาสัจจะ เราก็คืนไม้ให้เขา เพียงเพื่อให้ไม่มีผู้กระทำผิด มันเหมือนเราโดนหลอก เราเจ็บใจ แค้นใจที่ถูกหลอก นี่คือสิ่งที่ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปไม่ได้ ไม่ประสบความสำเร็จ การดำเนินการแบบนี้จะสร้างความขัดแย้ง ทำให้เห็นว่าเราทำงานร่วมกันไม่ได้แล้ว” ผู้ใหญ่สมชาติกล่าว
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานฯ, ป่าสงวนฯ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังกันเข้ายึดไม้ในป่าชุมชนบ้านกลางที่ชุมชนกำลังนำไปใช้สร้างศาลาอเนกประสงค์ของโบสถ์คริสต์ กล่าวหาว่าชาวบ้านทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ด้านชุมชนชี้แจงว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนที่ดูแลรักษามาแน่บรรพบุรุษตามปรกติธุระ และได้ผ่านกลไกการขออนุญาตจากผู้ใหญ่บ้านแล้ว หลังจากนั้นได้มีการเจรจาและลงบันทึกข้อตกลงกันว่าชุมชนยินยอมคืนไม้ แลกกับการไม่ดำเนินคดีกับชาวบ้าน แต่ไม่เป็นผลเมื่อมีหมายเรียกจาก สภ.แม่เมาะมายังชุมชนเมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา
ด้านนายประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ กล่าวว่าความขัดแย้งในพื้นที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน จึงย้ำว่าต้องประบเปลี่ยนทัศนคติของกรมอุทยานฯ ที่มีต่อชุมชน รวมทั้งย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทออกจากพื้นที่ด้วย
“ตอนนี้คดีเขาคงต้องเดินต่อ เพราะเขาบอกเลยว่าจะใช้กฎหมู่เหนือกฎหมายไม่ได้ แม้จะดูแลป่ามานานแต่ก็ไม่มีสิทธิในการใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นทัศนคติที่แย่มาก แต่เราต้องย้ำว่าอย่าให้อุทยานฯ ไปดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก และเราควรย้ายหัวหน้าอุทยานฯ คนนี้ ที่ผ่านมาสะท้อนแล้วว่าทัศนคติกับชาวบ้านมีปัญหา ตั้งแต่คดีความของแสงเดือน ตินยอด ที่ก็มีที่มาจากการดำเนินการของอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท” นายประยงค์ย้ำ
นายสมชาติข้อเสนอว่า ต้องยุติการดำเนินคดีกับขาวบ้านทันทีก่อนจะขึ้นสู่ชั้นศาล ตลอดจนให้นำมติ ครม. 3 ส.ค. 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงมาบูรณาการใช้ในพื้นที่ด้วย และต้องย้ายหัวหน้าอุทยานฯ คนนี้ออกจากพื้นที่โดยเร่งด่วน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่าเป็น เรื่องของความขัดแย้ง เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ กระทรวงฯ รับเรื่อง ยืนยันทุกอย่างแก็ได้ ยอมรับว่ามีหลายคดี ที่ผ่านมาเราก็สามารถไกล่เกลี่ย หาจุดลงตัวให้ได้ ไม่อยากให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)