Skip to main content
sharethis

สมบัติ ทองย้อย เข้ารับทราบข้อหาม.112 เพิ่มอีก 1 คดีเหตุโพสต์ 3 ข้อความในเฟซบุ๊ก 1 ใน 3 ข้อความคือ "#กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ "  ส่วนหนุ่มคอสเพลย์เป็นจัสติน ได้หมายม.112 สองคดี ไม่แจ้งจัดชุมนุม 1 คดี

สมบัติ ทองย้อย(ซ้าย) และ ชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือจัสติน(ขวา)

15 ธ.ค.2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าในวันนี้สมบัติ ทองย้อยเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่สน.ทุ่งมหาเมฆ เนื่องจากเขาถูกศรายุทธ สังวาลย์ทอง กล่าวหาว่าข้อความที่สมบัติโพสต์ในเฟซบุ๊กจำนวน 3 ข้อความเป็นความผิดตามมาตรา 112 โดยมีเนื้อหาดังนี้

  1. ข้อความวันที่ 30 ต.ค. 63 โพสต์ว่า  “#กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ” ซึ่งข้อความดังกล่าวนั้น ในหลวงทรงตรัสกับผู้ที่ไปรอรับเสด็จ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 63 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า นายศรายุทธจึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าวจึงเป็นการจงใจล้อเลียนพระมหากษัตริย์

  2. ข้อความวันที่ 2 พ.ย. 63 โพสต์ว่า “เขาให้ลดงบประมาณที่เอาไปใช้จ่ายไม่ใช่ลดตัวลงมาใกล้ชิดประชาชน เข้าใจอะไรผิดไหม เรื่องการลดตัวลงมาแนบสนิท ชิดใกล้ประชาชนแบบที่เห็น แสดงให้เห็นว่า รู้ตัวสินะว่าคนเขาไม่เอา เลยต้องลงมาทําขนาดนี้ ถ้าจริงใจต้องทํามานานแล้วไม่ใช่เพิ่งมาทํา เพื่อเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมา แต่น่าจะช้าไปแล้วจริง ๆ ละครหลังข่าวชัดๆ” ซึ่งนายศรายุทธเห็นว่าผู้โพสต์ตั้งใจสื่อถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะว่าในการเสด็จพระราชดําเนินนั้นประชาชนสามารถเข้าไปใกล้ชิดและขอฉายพระรูปกับพระองค์ท่านได้

  3. ข้อความวันที่ 2 พ.ย. 63 โพสต์ว่า “มีแจกลายเซ็นด้วย เซเลปชัดๆ” นายศรายุทธเห็นว่าเป็นข้อความจงใจหมายถึงพระมหากษัตริย์ เนื่องจากเวลาที่พระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินนั้น ประชาชนจะนำพระบรมฉายาลักษณ์ไปให้พระองค์ทรงลงลายพระหัตถ์

ศูนย์ทนายฯ ระบุว่าศรายุทธ ให้เหตุผลที่แจ้งความดำเนินคดีกับสมบัติเพราะเห็นว่าทั้ง 3 ข้อความบิดเบือนข้อเท็จจริงและเป็นการใส่ร้ายใส่ความต่อพระมหากษัตริย์ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ทำให้เกิดความไม่สบายใจ และศรายุทธเป้นประชาชนผู้เทิดทูนและเคารพรักสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงไม่สามารถทนต่อการกระทำของสมบัติได้ และเป็นหน้าที่ของประชาชนผู้จงรักภักดีและเทิดทูนต่อสถาบัน

นอกจากนี้ บันทึกแจ้งข้อกล่าวหายังได้ระบุอีกว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 1 มาตรา 2 และมาตรา 6

ดังนั้น พสกนิกรและปวงชนชาวไทยจึงมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องไม่กระทําการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 50 (1) และ (6)

พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาสมบัติ 2 ข้อหาคือ หมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 สมบัติให้การปฏิเสธทุกข้อหาโดยจะให้การเพิ่มเติมภายใน 30 วันและไม่ลงลายมือชื่อในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา

หลังแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนปล่อยตัวสมบัติกลับโดยไม่ได้ควบคุมตัว และนัดให้เขาเข้ารายงานตัวกับอัยการในวันที่ 22 ม.ค.2564

ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า ศรายุทธผู้ที่แจ้งความดำเนินคดีกับสมบัติเป็นบุคคลเดียวกับผู้แจ้งความดำเนินคดี เอกชัย หงส์กังวาน, “ฟรานซิส” บุญเกื้อหนุน เป้าทอง และ “ตัน” สุรนาถ แป้นประเสริฐ ในคดีขบวนเสด็จด้วย

จัสตินได้ 3หมาย เป็นม.112 สองคดี

วันเดียวกันนี้ ทวิตเตอร์ของศูนย์ทนายฯ โพสต์หมายเรียกที่ ชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือ #จัสติน นักกิจกรรมจากสมุทรปราการ ได้รับในวันนี้จำนวน 3 หมาย โดยเป็นหมายเรียกข้อหาม.112 จำนวน 2 คดีและหมายเรียกข้อไม่แจ้งจัดการชุมนุม ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2558 จำนวน 1 คดี

ชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือ #จัสติน นักกิจกรรมจากสมุทรปราการ เผยได้รับหมายเรียก 3 คดีรวด

โดยเป็นหมายคดี #ม112 ถึง 2 คดี ได้แก่ คดีที่สน.ลุมพินี และสน.ท่าพระ ส่วนอีกคดีที่สน.สำราญราษฎร์เป็นข้อหา #ไม่แจ้งการชุมนุม และเรื่องการใช้เครื่องเสียง pic.twitter.com/Hll0yYtW7Q

— TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (@TLHR2014) December 15, 2020

หมายเรียกข้อหาม.112 คดีแรกเป็นหมายที่ออกโดย สน.ลุมพินี ให้ชูเกียรติเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 ธ.ค.2563 ส่วนคดีที่สองเป็นหมายที่ออกโดยสน.ท่าพระ เรียกให้ชูเกียรติเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 23 ธ.ค.2563

ส่วนหมายเรียกข้อหาไม่แจ้งจัดชุมนุม เป็นของสน.สำราญราษฎร์ เรียกชูเกียรติเข้าพบพนักงานสอบสวนวันที่ 16 ธ.ค.2563

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net