Skip to main content
sharethis

5 ก.พ. 2564 ประชาชนรวมตัวหน้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอเจรจากับรัฐมนตรีเรื่องการกลับใจแผ่นดินของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย เจอตำรวจควบคุมฝูงชนขวาง-ยึดป้ายผ้า นัดชุมนุมใหม่ 15 ก.พ. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล

ไอลอว์รายงานว่า เวลา 09.00 น. ประชาชนรวมตัวกันที่หน้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อยื่นหนังสือเรื่องการกลับใจแผ่นดินของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ต่อวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยต้องการให้ตัวแทนชาวบางกลอยขึ้นไปร่วมเจรจา ท่ามกลางตำรวจควบคุมฝูงชนวางกำลังกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าไปในกระทรวง

ตำรวจควบคุบฝูงชนตั้งแถวกั้นทางเข้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ตำรวจควบคุบฝูงชนตั้งแถวกั้นทางเข้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ประมาณ 12.00 น. ประชาชนใช้โทรโข่งประกาศว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ออกมาตอบคำถามเรื่องใจแผ่นดิน เราก็ต้องเข้าไปด้านใน ทำให้ตำรวจควบคุมฝูงชนตรึงกำลังไม่ให้ประชาชนผ่านเข้าไปในกระทรวง ตำรวจท้องที่ประกาศข้อกฎหมายเกี่ยวกับข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

ในระหว่างที่ตำรวจท้องที่กำลังประกาศข้อกฎหมาย ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้าไปยึดผ้าปูของชาวบ้านด้านหน้ากระทรวง ทำให้มีการยื้อแย่งกัน ตำรวจควบคุมฝูงชนคว้าตัวผู้ชุมนุมไว้ได้ 1 คน ผู้ชุมนุมจึงขออย่าใช้ความรุนแรงกับประชาชน เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวและตอบกลับว่า ไม่ได้ใช้ความรุนแรง

ตำรวจประกาศข้อกฎหมายให้ประชาชนที่มาชุมนุมรับทราบ

ตำรวจประกาศข้อกฎหมายให้ประชาชนที่มาชุมนุมรับทราบ

ประมาณ 12.10 น. ตัวแทนรัฐมนตรีออกมากล่าวยืนยันต่อประชาชนว่า ชาวบางกลอยได้กินข้าวและมียารักษาโรค ไม่มีการปิดกั้นขัดขวางเสบียงที่ส่งเข้าไปช่วยชาวกะเหรี่ยงที่ใจแผ่นดิน และที่ประชุมจะขอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดก่อน ระหว่างตัวแทนรัฐมนตรีออกมาพูดคุย ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ายึดป้ายผ้าของผู้ชุมนุม ทำให้เกิดการแย่งชิงกัน แต่ตำรวจสามารถริบป้ายผ้าไปได้ทั้งหมด

ประมาณ 12.40 น. ประชาชนยุติการชุมนุมโดยนัดหมายรวมตัวกันอีกครั้งวันที่ 15 ก.พ. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้วราวุธ ศิลปอาชาลาออก

+++++++++++++++++++++++++++

แถลงการณ์ประณาม รัฐมนตรีที่ไม่แก้ไขปัญหา และนัดชุมนุม ที่ทำเนียบรัฐบาล

จากกรณีพี่น้องกะเหรี่ยงบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่ต้องการกลับใจแผ่นดินตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังถูกอพยพโยกย้าย ถูกเผาบ้าน ยุ้งฉาง และตกหล่นจากกระบวนการเยียวยาโดยรัฐมากว่า 25 ปี ซึ่งการกลับไปเป็นความชอบธรรมในการกลับไปที่อยู่ซึ่งเป็นชุมชนดั้งเดิม เพื่อความอยู่รอด เพื่อวิถีวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม ซึ่งมีเครือข่าย

พี่น้องภาคี #Saveบางกลอย ทั่วประเทศร่วมติดตาม ส่งกำลังใจถึงพี่น้องให้ได้รับความเป็นธรรมและได้กลับไปทำกินในที่ดินเดิมของบรรพบุรุษเป็นจำนวนมาก

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในการแก้ปัญหาที่ผ่านมากลับไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการคืนความเป็นธรรมในกับพี่น้องกะเหรี่ยงบางกลอยในครั้งนี้ แต่กลับมีการสื่อสารจากบุคคลและหน่วยงานในกำกับของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงการเตรียมดำเนินคดีกับพี่น้องกะเหรี่ยง ร่วมถึงกระบวนการในการปิดกั้นการส่งข้าว ปลา อาหาร เพื่อการยังชีพของพี่น้องที่กลับไปใจแผ่นดิน ก่อให้เกิดความกังวลถึงความปลอดภัยของพี่น้อง ความเป็นอยู่ และปัญหาความขัดแย้งครั้งใหม่ ดังเช่นกรณีของ บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงที่เคยเกิดขึ้น โดยปัจจุบันยังไม่สามารถหาคนกระทำผิดมาลงโทษจากการกระทำที่โหดเหี้ยมในครั้งนั้นได้ และเราไม่อยากให้ประวัติศาสตร์และภาพจำที่เลวร้ายเกิดขึ้นอีกไม่ว่ากับใคร

วันนี้ รัฐมนตรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา ก็ไม่ได้ทำหน้าที่รัฐมนตรี อำนวยให้เกิดการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งดังกล่าว ทำเสมือนว่าปัญหาของประชาชน ไม่ใช่ปัญหาของตนเอง ปล่อยปะ ละเลย จนอาจจะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งและความสูญเสียของประชาชนอีกครั้ง หากท่านมีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาประชาชนแต่ไม่อาจทำอะไรได้ การเป็นรัฐมนตรีของท่านก็ไม่มีความหมายต่อประชาชนอีกต่อไป

เราขอประกาศว่า เรามีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการเคลื่อนไหวของประชาชน กดดันผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ ให้แก้ไขปัญหาของประชาชน ขอให้ประชาชนผู้เดือดร้อน รักความเป็นธรรมและเห็นด้วยกับเรา มาร่วมชุมนุมกดดันรัฐบาล หน้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ให้เกิดการแก้ไขปัญหา จนนำไปสู่การสนับสนุนให้พี่น้องบางกลอยได้กลับไปทำกินตามวิถีชีวิต

ใจแผ่นดิน ที่ดินบรรพบุรุษ

ด้วยความเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

กลุ่มผู้รักความเป็นธรรมและภาคี#Saveบางกลอย

5 กุมภาพันธ์ 2564

+++++++++++++++++++++++++++

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net