ข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่ในนามราษฎรถูกหยิบยกและหล่อหลอมเป็นกระบวนทัศน์อันแหลมคม จนทำให้แสบแก้วหูของคนในสังคมเก่า แต่นั่นคือความจริง และต้องการความกล้าหาญของคนรุ่นเก่าที่ต้องยอมรับ เปิดใจ และพูดคุยอย่างอารยะ แต่จากที่ผ่านมา คนรุ่นเก่ากลับให้กฎหมายปิดปาก แจ้งความดำเนินคดีลูกหลานตนเอง ซ้ำร้ายยังใช้กำลังเข้าปราบปรามด้วยความรุนแรง เช่น การทุบตี ใช้สารพิษฉีดทำร้ายเยาวชนของชาติอย่างเลือดเย็น นี่หรือคือคำว่า “สามัคคี” คำว่า ปรองดอง และคำว่า คนในชาติเดียวกัน
การทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การใช้กฎหมายปิดปาก และทั้งหมดทั้งมวลของความอยุติธรรมในคดีนี้ จำเลยในฐานะคนเรียนกฎหมาย อาชีพทนายความ และในฐานะหนึ่งในราษฎรที่มีจุดยืนให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ จึงมิอาจร่วมกระบวนการทั้งหมดต่อไปได้ จำเลยที่มีรายชื่อท้ายคำร้องนี้จึงขอถอนทนายความ และปฏิเสธขบวนการนี้
คำแถลงปฏิเสธกระบวนการอยุติธรรมต่อศาลบางส่วน ที่เขียนโดย อานนท์ นำภา เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2564 “ห้องพิจารณาถูกทำให้เป็นเสมือนคุก”: จำเลยคดีชุมนุม 19 ก.ย. แถลงขอถอนทนาย เหตุไม่ได้รับความเป็นธรรมในการต่อสู้คดี
อ่านได้ที่: https://tlhr2014.com/archives/28118
#อ่านให้ฟัง #ม็อบ19กันยา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)