Skip to main content
sharethis

#ล้านนาต้านศักดินาทัวร์ ตำรวจเชียงใหม่คุมเข้มศาลากลางไม่ให้ม็อบเข้าพื้นที่ ก่อนถูกปาสี 'ราษฎรชาวเชียงใหม่' ร้อง รมว.ยุติธรรม ส่งตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่ติดเชื้อโรคโควิด -19 ไปรักษายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และ/หรือรพ.อื่นๆที่มีความเชี่ยวชาญ 

29 ส.ค. 2564 ช่วงเย็นวันนี้ (29 ส.ค.64) พรรควิฬาร์ร่วม ประชาคมมอชอ และ We, The People ร่วมกันจัด Car Mob “ล้านนาต้านศักดินาทัวร์” ครั้งที่ 2 ชวนชาวเชียงใหม่และลำพูนไปศาลากลางจังหวัด หวังเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวังเชียงใหม่ซึ่งมารับตำแหน่งใหม่ เรียกร้องเชียงใหม่จัดการตนเอง และยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

 

ขบวน Car Mob ได้ขับรถวนรอบคูเมือง 1 รอบ ก่อนไปถึงหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ในเวลาประมาณ 16.30 น. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการปิดประตูเข้าออกโดยรอบศาลากลาง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนายคุมเข้มอยู่หน้าทางเข้า พร้อมทั้งมีการนำพลาสติกขนาดใหญ่มาคุมป้ายพระบรมฉายาลักษณ์บริเวณหน้าประตูทางเข้าศาลากลาง และรถน้ำ 5 คันจอดอยู่ไว้ในบริเวณเดียวกัน โดยในช่วงแรกแกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศของเข้าไปภายในศาลากลางตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมเปิดทางให้ขบวน Car Mob ผ่านเข้าประตูไปได้ จึงทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกว่า 500 คนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผู้ชุมนุมมีการพยายามพังแผงกั้นเข้าไปยังบริเวณหน้าประตู และปาสีใส่ประตูที่ถูกล็อคกุญแจและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้เกือบเกิดเหตุทะเละวิวาทกัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมให้ Car Mob เข้าไปภายในศาลากลางได้ ซึ่งผู้ชุมนุมทั้งหมดได้เข้าไปชุมนุมกันต่อบริเวณวงเวียนสนามหญ้าหน้าทางเข้าศาลากลาง มีการปราศรัยในประเด็นเชียงใหม่จัดการตนเอง ราคาลำไยตกต่ำ การมีรัฐสวัสดิการที่ดี วิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่

และยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งส่งตัวแทนออกมารับหนังสือ ขอให้มีคำสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ส่งตัว พริษฐ์ ชิวารักษ์ สิริชัย นาถึง ภาณุพงศ์ จาดนอก และ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ซึ่งติดเชื้อโรคโควิด -19 ภายในเรือนจำไปรักษายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์หรือรพ.อื่นๆที่มีความเชี่ยวชาญ

ก่อนที่ผู้ชุมนุมทั้งหมดจะร่วมยืนเคารพเพลงชาติ และจุดพลุด้วยกันก่อนแยกย้ายกัน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ช่วงชุลมุนหน้าประตูศูนย์ราชการ ผู้สังเกตการณ์การชุมนุมแจ้งว่า ตำรวจมีการเปิดเคลื่องเสียงที่รบกวนการได้ยินด้วยเสียงดังมาก จนผู้สังเกตการณ์รู้สึกแสบแก้วหูมาก สันนิฐานว่าอาจเป็นเครื่อง LRAD ด้วย

รายละเอียดจดหมายเปิดผนึก : 

จดหมายเปิดผนึก

เรื่อง ขอให้มีคำสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ส่งตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายสิริชัย นาถึง นายไมค์ จาดนอก และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ซึ่งติดเชื้อโรคโควิด -19 ไปรักษายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และ/หรือรพ.อื่นๆที่มีความเชี่ยวชาญ

เรียน  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

สืบเนื่องจากการที่มีนักกิจกรรมทางการเมืองหลายคน ซึ่งได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย โดยขอให้นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก  ดำเนินการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ถูกจับกุมและคุมขังในเรือนจำมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน และศาลยังไม่อนุมัติให้ผู้ต้องหาดังกล่าวได้รับการประกันตัวออกมาจากเรือนจำ และ ดังที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าขณะนี้ยังพบว่ามีการระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องในเรือนจำหลายแห่ง รวมทั้งเรือนจำที่กลุ่มนักกิจกรรมทางการเมืองเหล่านี้ถูกคุมขังอยู่ด้วย ที่สำคัญคือทางกรมราชทัณฑ์ได้รายงานให้สาธารณชนทราบว่ามีนักกิจกรรมทางการเมืองดังกล่าวหลายคนได้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ด้วยเช่นกัน อันได้แก่  นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายสิริชัย นาถึง นายไมค์ จาดนอก และล่าสุด คือ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา รวมทั้งยังแจ้งว่าทุกคนได้ถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว

อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่ต้องติดเชื้อโควิดจากในเรือนจำครั้งนี้ โดยเฉพาะ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นั้นเป็นผู้ซึ่งมีโรคประจำตัวหอบหือ สุขภาพร่างกายอ่อนแอ กับ นายสิริชัย นาถึง หรือ นิว ได้มีอาการเครียด กินข้าวไม่ได้มาหลายวัน ดังนั้น ผู้ต้องหาทั้งสองและพ่อแม่และญาติๆ จึงเป็นห่วงอย่างมากว่าลำพังการดูแลรักษาอยู่ในที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งแม้ว่าจะออกมายืนยันว่ามีมาตรฐานก็ตามอาจมีข้อจำกัดในด้านต่างๆในการให้การดูแลรักษาได้อย่างปลอดภัยมีคุณภาพ เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลหลายแห่งที่มีความเชี่ยวชาญและความพร้อมมากกว่าทั้งด้านของแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เช่น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ท่านก็คงทราบดีอยู่แล้วว่า ทางทนายและอาจารย์บางท่านได้ช่วยประสานจนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ พร้อมรับบุคคลดังกล่าวที่ป่วยจากโควิดไปรักษา เหมือนกับที่เคยดูแลนักศึกษาที่ถูกคุมขังระหว่างดำเนินคดีจนปลอดภัยมาบ้างแล้ว แต่คราวนี้ทางกรมราชทัณฑ์ยังไม่อนุญาตและยินยอม

การที่นักกิจกรรมเหล่านี้ยังไม่ได้รับการประกันตัวนั้นเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของศาล ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะไปข้องเกี่ยวอะไรกับศาลได้ แต่ในส่วนที่เกี่ยวกับองค์กรอื่นๆ ในกระบวนการยุติธรรม เช่น ตำรวจและอัยการ กระทรวงยุติธรรมอาจจัดให้มีการปรึกษาหารือเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการดำเนินคดี เช่น ไม่ตั้งข้อหาเกินกว่าข้อเท็จจริง ไม่ฟ้องทั้งที่พยานหลักฐานอ่อน ไม่คัดค้านการประกันตัวโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร รวมทั้งอาจจะมีการหารือเกี่ยวกับการใช้กระบวนการยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านหรือในการคลี่คลายความขัดแย้งในสังคม ซึ่งหลายๆ ประเทศก็ใช้กันและมีบทเรียนว่าสามารถช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งและหลีกเลี่ยงความรุนรุนแรงได้

ดังนั้น เมื่อพิจารณาถึงกรณีที่ทางพ่อแม่และญาติมิตรของผู้ต้องหาดังกล่าวได้ยื่นเรื่องขอความกรุณาให้ทางเรือนจำดำเนินการส่งตัวบุตรหลานของเค้าไปรับการดูแลรักษาตัวยังโรงพยาบาลภายนอกตามที่กล่าวไปข้างต้น จึงน่าจะอยู่ในขอบเขตอำนาจที่ท่านรัฐมนตรียุติธรรมจะพิจารณาดำเนินการได้ตามที่มีร้องขอไป

อนึ่ง อยากเรียนท่านว่า การที่บุคคลเหล่านี้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองกันอยู่นี้ พวกเขาใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยสันติ พวกเขาไม่ใช่ศัตรูของชาติ หากเป็นผู้ที่ต้องการเห็นประเทศชาติเจริญก้าวหน้าเพื่อประโยชน์ของประชาชนรวมทั้งตัวพวกเขาเองด้วย เพียงแต่ว่าพวกเขามีความเห็นแตกต่างไปจากรัฐและผู้มีอำนาจในบ้านเมือง การที่นักศึกษาหรือเยาวชนเป็นผู้เห็นต่างจากรัฐที่ยังไม่ต้องคำพิพากษาใดๆ ไม่มีพฤติกรรมว่าจะหลบหนี ไม่ควรต้องถูกคุมขังจองจำ ไม่ควรถูกขังอย่างนักโทษเด็ดขาด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควรถูกเอาไปขังเพื่อให้ติดโรคระบาดร้ายแรง และเมื่อไปทำให้เขาติดโควิดแล้วพบว่าเขาเป็นผู้ป่วยมีโรคประจำตัวตัวอยู่ มีความกังวลในเรื่องประสิทธิภาพการดูแลรักษาจากโรงพยาบาลของเรือนจำ  ก็ควรให้เขามีโอกาสได้รับการรักษาที่ดีพอที่จะให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตของเขา เมื่อมีโรงพยาบาลภายนอกที่พร้อมจะรับรักษาพวกเขา พวกเขาก็ควรได้รับอนุญาตให้ไปรักษาตัวได้

และ การที่ทางราชทัณฑ์จะอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องหาดังกล่าวไปรับการรดูแลรักษาตัวยังโรงพยาบาลอื่นนี้ ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเลือกปฏิบัติหรือขออภิสิทธิ์ใดๆ หากมีประชาชนคนใดตกอยู่ในสถานะเช่นนี้ก็ควรได้รับการดูแลรักษาให้ปลอดภัยเช่นเดียวกัน

ที่สำคัญคือพวกเขาไม่ควรถูกขัง และไม่ควรต้องไปติดโควิดจากในคุกมาตั้งแต่แรกแล้ว

สุดท้ายนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย จะทำหน้าที่ของท่านในการทำให้เกิดความถูกต้อง ความยุติธรรม และความสมานฉันท์อย่างแท้จริงขึ้นในบ้านเมืองเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการเร่งสั่งการไปยังกรมราชทัณฑ์ให้แจ้งไปยังเรือนจำส่งบุคคลกลุ่มดังกล่าวข้างต้นที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 จากการถูกคุมขังในเรือนจำ ไปรับการดูแลรักษาตัวยังโรงพยาบาลภายนอกตามที่กล่าวไปข้างต้น

ด้วยความเชื่อมั่นในหลักความยุติธรรม รวมทั้ง หลักเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ ในระบอบประชาธิปไตย

และ ขอขอบคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้

ราษฎรชาวเชียงใหม่ ได้แก่

กลุ่มฅนเมืองMovement@เชียงใหม่และล้านนา / พรรควิฬาร์ / ประชาคมมอชอ

/ พลเมืองเสมอกัน We,The People / คณาจารย์ มช. / กลุ่มผู้รักในประชาธิปไตย/ ฯลฯ

29 สิงหาคม 2564

 

ภาพบรรยากาศเพิ่มเติม : 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net