Skip to main content
sharethis

ทั้งเซอร์ไพรส์ทั้งผิดคาด ประยุทธ์ “ไล่ออก” ธรรมนัสพ่วงบิ๊กอายอึดถึกทน แต่ ส.ว.ยังให้ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญระบบเลือกตั้งวาระ 3 กลับไปใช้บัตรสองใบแบบ 2540

เกี่ยวกันตรงไหน ก็เพราะบัตรสองใบเอื้อพรรคใหญ่ ทั้งเพื่อไทย พลังประชารัฐ ชนะ ส.ส.เขตแล้วยังได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จากบัตรใบที่สอง ไม่ถูกจำกัดเหมือนปี 62 ที่ใช้บัตรใบเดียว MMM ของมีชัย หรือบัตรสองใบ MMP ของเยอรมัน ที่แบ่ง ส.ส.ให้ตามคะแนนพรรค

พูดอีกอย่าง พปชร.คิดใหญ่ กลัวเลือกตั้งครั้งหน้าตัวเองจะซ้ำรอยเพื่อไทย ได้ ส.ส.เขตล้น จนไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เลยหันมาแก้ระบบเลือกตั้ง แบบใจตรงกัน ให้การเลือกตั้งสมัยหน้าเป็นการดวลกันของ 2 พรรคใหญ่

แต่หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งเพื่อไทยและนักวิเคราะห์การเมือง มองว่าประยุทธ์อาจเปลี่ยนใจ ส.ว.อาจเปลี่ยนใจ โดยไม่ใช่แค่กลัวพี่โทนี่-เพื่อไทย “แลนด์สไลด์” แต่กลัว พปชร.ชนะถล่มทลาย ก็จะมีปัญหา “คุมไม่ได้” เหมือนกัน

คุมไม่ได้จนประยุทธ์ต้องไล่ธรรมนัสออก ซึ่งในอีกด้านก็ลดทอนความเข้มแข็งของพลังประชารัฐ

พอรัฐสภายังผ่านวาระ 3 หลายคนจึงผิดคาด แต่อาจเป็นได้ว่าเครือข่ายอำนาจคิดสะระตะแล้ว เป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ข้อแรก ระบบมีชัยขืนใช้อีกครั้ง ชาวบ้านคงลุกฮือไล่ กกต. เพราะเหลืออดกติกาบ้าบอ สูตรคำนวณเศษมนุษย์ ได้ ส.ส.ไม่เต็มคนยังปัดเศษ

ข้อสอง รัฐบาลก็ควบคุมยาก มีพรรคร่วมถึง 19 พรรค ต้องอาศัยธรรมนัสเลี้ยงกล้วย ถ้ายังใช้ระบบนี้ สมัยหน้าจะมีพันพรรค

ข้อสาม ในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน อาจช่วยลดกระแสต้าน หรืออย่างน้อยก็ไม่กระพือ ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้า ส.ว.เป็นผู้ร้ายคว่ำแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง คาร์ม็อบวันที่ 19 คงยิ่งระอุ

ข้อสี่ เป็นการแขวนเหยื่อ “อ่อย” ม็อบไล่รัฐบาลโดยเฉพาะ FC เพื่อไทย อย่างน้อยก็มีความหวัง ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พี่โทนี่จะพาชนะ “แลนด์สไลด์”

ข้อห้า อันที่จริงเป็นข้อสำคัญอันดับต้นๆ “ตัดตอน” พรรคก้าวไกล เป้าหมายอันดับหนึ่งของอำนาจอนุรักษนิยม ให้พรรคที่คิดจะแก้รัฐธรรมนูญหมวด 1 หมวด 2 แก้ 112 ได้ ส.ส.น้อยลง เพราะคะแนนก้าวไกลมาจากปาร์ตี้ลิสต์ ยากชนะ ส.ส.เขต “บ้านใหญ่” ถ้าใช้ระบบ 60 หรือระบบเยอรมัน สมมติคะแนน 10% ได้ ส.ส. 50 คน พอใช้ระบบ 40 ก็จะเหลือ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 10 คน กับ ส.ส.เขตหร็อมแหร็ม

ข้อหก ความแตกต่างมาไกลเกินกลับไปนับหนึ่ง ยังไงๆ ก้าวไกลก็จำเป็นต้องส่ง ส.ส.เขตแข่งเพื่อไทย เป็นโอกาสให้ พปชร. ภท. ปชป. สลับกันช่วงชิง

ข้อเจ็ด ถ้ายังเป็นพรรคใหญ่ ยังไงๆ พปชร.ก็จะได้ ส.ส.มากกว่าระบบเดิม

นั่นคือปัจจัยบวก โดยจำต้องตัดสินใจแบบยอมรับปัจจัยลบ เรื่องยากจะควบคุม พปชร. “นักการเมืองจากเลือกตั้ง” ซึ่งปั่นป่วนมาตลอด 2 ปี จนไล่สี่กุมาร จนปลดธรรมนัส และอาจมี ส.ส.หนีไปตั้งพรรคใหม่ เพราะเห็นแล้วว่าการเป็น ส.ส.พปชร. ได้โควตารัฐมนตรีน้อยกว่าเป็นพรรคร่วมอย่างประชาธิปัตย์ภูมิใจไทย

มันเป็นทางเลือกที่ไม่สามารถ win หมดทุกด้าน ต้องเอาทางที่ได้ประโยชน์กว่า โดยประยุทธ์ยังมีเวลายื้อ เช่นตอนนี้ ประยุทธ์เสื่อมจากโควิด แต่ก็มีเวลาอีกหนึ่งปี ที่ฝ่ายค้านจะไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจ การเลือกตั้งก็ยังไม่มาถึงในเร็วๆ นี้ เพราะแก้รัฐธรรมนูญแล้ว ยังต้องแก้กฎหมายลูก ยื้อได้อีก 5-6 เดือน

ประยุทธ์ไม่เคยราบรื่นนะ ล้มเหลวโควิด เศรษฐกิจพัง ม็อบล้นหลาม แต่ก็ดันทุรังได้ตลอด ด้วยอำนาจหนุนหลังใหญ่โตมโหฬาร

เพียงแต่ปัญหาต่างๆ ปะทุประดังมากขึ้นๆ เหมือนปัญหาใน พปชร.ซึ่งครั้งนี้ไม่ธรรมดา ไม่ใช่แค่เรื่องตัวบุคคล เรื่องธรรมนัส แต่มันสะท้อนระบอบพิกลพิการ รัฐประหารสืบทอดอำนาจกวาดต้อนนักการเมืองมาเป็นเบี้ยล่าง

นักการเมืองจากเลือกตั้งเหลืออดกับความล้มเหลว กลัวสอบตกสมัยหน้า จึงต่อรองขออำนาจ เช่นมหาดไทยที่สามารถใช้เอื้อการหาเสียง หรือตำแหน่งใหญ่ที่สามารถหากล้วยมาเลี้ยงลูกพรรคได้ ตามระบบการเมืองอุปถัมภ์ แต่ผู้นำกับพวกพ้องดัดจริตเป็นคนดีย์ ฮุบอำนาจกอดต้นกล้วยไว้ไม่แบ่ง ทั้งที่จะให้รับใช้

มันไม่ปะทุแค่ธรรมนัส มันไม่จบแค่ปลดธรรมนัส เพียงแต่ธรรมนัสบังเอิญเป็น “เส้นเลือดใหญ่” กุมความลับ แม้มีภาพลักษณ์ “เทามนัส”

แม้พวกเชียร์ลุงจะเอาไปแห่แหน เห็นไหม ประยุทธ์ยึดประโยชน์ชาติ สุจริต เป็นธรรม ไม่ยอมรับแรงบีบทางการเมืองจากรัฐมนตรีสีเทา หัวหน้าแก๊ง “มันคือแป้ง” โดนสื่อออสเตรเลียขุดคุ้ย โดนตั้งข้อสงสัยปริญญาปลอม ฯลฯ

โธ่ถัง ยิ่งฟังยิ่งอ้วก เอาเทามนัสมาใช้ ไม่สนใจเรื่องมัวหมอง ไม่แยแสจริยธรรม แต่แค้นคั่งเพราะเลื่อยขาเก้าอี้ จนไล่ออก

ผู้สังเกตการณ์วงนอกเลยรอดูว่า ธรรมนัสจะเอาคืนแบบไหน เมื่อไหร่ เพราะคนที่ประกาศว่า “ใจนักเลง” โกรธจนพิมพ์ใบลาออกผิดๆ ถูกๆ คงไม่แค่ออกไปตั้งพรรคใหม่ มี ส.ส.ตามไปไม่กี่คน

ถ้าจะเอาคืน คนแบบธรรมนัส คงไม่รอเลือกตั้ง ไม่ได้เชียร์ไม่ได้ยุ แต่ธรรมชาติธรรมนัสเป็นแบบนั้น

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_6613574

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net