Skip to main content
sharethis

22 ก.ย. 2564 วันนี้ (22 ก.ย. 2564) เวลาประมาณ 12.30 น. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง สมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก Panusaya Sithijirawattanakul ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) บุกจับกุมตนเองที่บริเวณหน้าบ้านพักของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม

ปนัสยาเล่าเหตุการณ์ว่าตนเพิ่งกลับมาถึงบ้านพักเพื่อเตรียมตัวเรียนออนไลน์ แต่เมื่อตนจอดรถที่บริเวณหน้าบ้าน ตำรวจได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าวิช สีบลอนด์เงิน ป้ายทะเบียน 4กฒ1798 กรุงเทพมหานคร ตามมา และวิ่งลงมาแสดงหมายจับ พร้อมเข้าจับกุมตน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชาย 2 นาย ตำรวจหญิง 2 นาย รวมทั้งหมด 4 นาย แสดงตนจับกุมในชุดนอกเครื่องแบบ

เมื่อตรวจสอบหมายจับเลขที่ 1506/2564 ของศาลอาญา ลงวันที่ 15 ก.ย. 2564 ที่ปนัสยาแสดงในไลฟ์ ระบุว่า "ด้วยนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย กรณีมีหลักฐานตามสมควรว่านางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี เพราะฉะนั้นให้ท่านจับตัวนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล"

ความผิดตามหมายจับดังกล่าว คือ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) นอกจากนี้ในหมายจับยังระบุอีกว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.ปอท. เข้าจับกุมตัวปนัสยาตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2564 ถึง 11 ส.ค. 2574 ตามอายุตาม 10 ปี ลงชื่อศักดา ไพรสันต์ ผู้พิพากษา

ระหว่างการจับกุม ปนัสยาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กของวัชรากร ไชยแก้ว หรือซัน สมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขอไปเข้าห้องน้ำในบ้าน พร้อมบอกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้าไปด้วยกัน แต่ตำรวจไม่ยอมให้ไป โดยระบุว่าให้รอสารวัตรมาก่อน หลังจากนั้น พ.ต.ต.ภาคิน ไกรกิตติชาญ ตำแหน่ง สว.สส.สน.ห้วยขวาง และตำรวจนายอื่นๆ ได้เข้ามาแสดงตัว อ่านหมายจับ และนำตัวปนัสยาและพวกขึ้นรถตู้ตำรวจ บก.ปอท. เลขทะเบียน 1นช6438 กรุงเทพมหานคร ไปที่สำนักงาน บก.ปอท. ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม.

ก่อนจะนำตัวปนัสยาและพวกขึ้นรถ ตำรวจได้แจ้งกับปนัสยาและทนายความในสายโทรศัพท์ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเรื่องฝากขังตามหมายจับไปแล้ว จึงต้องการรีบนำตัวปนัสยาไปที่ บก.ปอท. โดยเร็วเพื่อที่ทนายความจะได้สามารถดำเนินการยื่นเรื่องขอประกันตัวผ่านช่องทางออนไลน์ตามขั้นตอนได้ทันเวลา อย่างไรก็ตาม ปนัสยายืนยันว่าตนขอรอ ผศ.บุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา เดินทางมาถึงก่อน จึงจะขึ้นรถตำรวจไปยังสำนักงาน บก.ปอท.

ทั้งนี้ ปนัสยาได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเหตุใดจึงไม่ออกหมายเรียกก่อน จะได้ไปรายงานตัวตามขั้นตอน แต่ตำรวจชุดจับกุมบอกว่าไม่ทราบ เพราะทำการจับกุมตามหน้าที่เท่านั้น และพยายามเร่งให้ปนัสยาขึ้นรถตำรวจไปที่สำนักงาน บก.ปอท. เพราะทนายความกำลังเดินทางไปรอที่สำนักงานแล้ว ปนัสยาและเพื่อนสมาชิกกลุ่มแนวร่วมฯ บางส่วนจึงได้เดินทางขึ้นรถตำรวจไปโดยไม่รอให้บุญเลิศเดินทางมาถึง

ศาลให้ประกันตัว 'รุ้ง' ด้วยเงินสด 35,000 บาท ไม่กำหนดเงื่อนไข

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ผู้แจ้งความเอาผิดปนัสยาตามหมายจับครั้งนี้ คือ นพดล พรหมภาสิต สมาชิกของศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) โดยระบุว่าปนัสยาเป็นแอดมินเพจ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม-United Front of Thammasat and Demonstration” และกล่าวหาว่าเพจดังกล่าวปลุกระดมให้ผู้คนออกไปประท้วงเดินชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งผู้ชุมนุมไม่ได้ออกมาเรียกร้องในสันติวิธี จึงไม่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นไปตามความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ 

ต่อมา จากการสืบสวนทางเทคนิคและการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลพบว่า ปนัสยา และนิราภร อ่อนขาว มีความเกี่ยวข้องกับเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวข้างต้นและพบว่าบัญชีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม- United Front of Thammasat and Demonstration” ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดการชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรม รายงานความเคลื่อนไหวต่างๆ ของกลุ่มแกนนํา แนวร่วมกลุ่มอื่นๆ และเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าดําเนินการกับแกนนําของกลุ่ม

อีกทั้งยังพบว่าผู้ดูแลระบบ (Admin) เพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ยังมีพฤติการณ์ยุยง ปลุกปั่น ผ่านทางสื่อออนไลน์ให้แนวร่วมของกลุ่มเกิดความกระด้างกระเดื่องต่ออํานาจรัฐและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นแล้ว แกนนําของกลุ่มดังกล่าวก็ไม่ได้พยายามที่จะเข้าไประงับยับยั้งเหตุแต่กลับนําภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปโจมตีและกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออํานาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ปนัสยา และนิราภร 

ต่อมา เวลา 15.00 น. หลังจากสอบคำให้การเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้ยื่นขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ผ่านวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมคัดค้านการประกันตัวโดยระบุว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มอีก 10 ปาก รอผลการตรวจลายนิ้วมือ และประวัติการต้องโทษ จึงขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน

ท้ายคำร้องยังระบุว่า หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงประกอบกับเป็นคดีสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปเกรงว่าจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1(3)

ด้านทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางเงินสดจำนวน 35,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ เป็นหลักประกัน ในคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวได้ให้เหตุผลว่า ปนัสยามิได้เป็นแอดมินเพจดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา และในคดีนี้ผู้ต้องหาไม่เคยได้รับหมายเรียกแม้แต่ครั้งเดียว โดยคดีที่ปนัสยาถูกกล่าวหานั้น ปนัสยาได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด มิได้มีการต่อสู้ขัดขวาง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งยังเป็นเพียงนักศึกษาที่กำลังต้องสอบไล่ หากได้รับการปล่อยตัว ก็ไม่อาจไปก่ออันตรายประการอื่นได้

ต่อมาเวลา 16.44 น. ศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันตัว โดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมกำหนดนัดรายงานตัววันที่ 9 พ.ย. 2564 เวลา 08.30 น.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net