'ยัน มาร์ฉัล' ชาวฝรั่งเศสที่โด่งดังจากการล้อเลียนการเมืองถูก ตม. ไทยห้ามเข้าประเทศและสั่งเดินทางกลับ อ้างมีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อถือว่าเป็นภัยต่อสังคม เจ้าตัวฝากถึงนักท่องเที่ยวว่าประเทศนี้มีเรื่องที่อ่อนไหวมากอยู่

27 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยัน มาร์ฉัล (Yan Marshal) ชายชาวฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์จากการแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเมือง ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองห้ามเดินทางเข้าประเทศขณะที่กำลังเดินทางออกจากสนามบินภูเก็ต และมีคำสั่งแจ้งส่งออกนอกประเทศ ด้วยเหตุผลว่า “มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม” จึงห้ามให้เข้าเมือง อาศัยอำนาจตามมาตรา 19 22 และ 54 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

ผู้สื่อข่าวติดต่อยันเพื่อสอบถามสถานการณ์ ยันเล่าว่า ขณะนี้ (11.00 น.) เขาได้เดินทางจากภูเก็ตมายังสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อรอเครื่องบินไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และยังพิจารณาอยู่ว่าจะดำเนินเรื่องอุทธรณ์คำสั่งส่งออกนอกประเทศหรือไม่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่ภูเก็ตแจ้งว่าชื่อของเขาติดบัญชีดำ แต่ไม่ได้แสดงให้ดูว่าเป็นบัญชีอะไร

ณัฐาศิริ เบิร์กแมน ทนายความของยัน ให้ข้อมูลว่า ตามกระบวนการของ พ.ร.บ. คนเข้าเมือง ผู้ถูกผลักดันออกจากประเทศมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งกับเจ้าพนักงานภายใน 48 ชั่วโมง โดยทำเรื่องถึงรัฐมนตรี และรัฐมนตรีจะมีเวลา 7 วันในการพิจารณาคำอุทธรณ์ ในอดีตเคยมีกรณีชาวต่างชาติถูกศาลไทยลงโทษจำคุก รอลงอาญาในคดีทำร้ายร่างกาย แล้วถูก ตม. ห้ามเข้าประเทศ ก็ได้อุทธรณ์ว่าคำสั่งมิชอบ แต่ในกรณีของยันนั้นต่างออกไป เพราะขณะนี้เขาไม่มีสถานะทางคดี ดังนั้นจึงไม่ควรปิดกั้นการเดินทางเข้าประเทศ

“ปกติต้องเป็นคนที่ถูกดำเนินคดีมาแล้ว โดยปกติคนที่จะถูก black list คนที่ overstay หรือคนที่เข้ามาแล้ววีซ่าขาดแล้วอยู่ต่อหลายปีโดยไม่ออกไป คนที่ถูกพิพากษามีความผิดตามกฎหมาย หรือว่าคนที่ศาลต่างประเทศพิพากษาว่าทำผิด” 

“การสั่งแบบนี้เป็นคำสั่งทางปกครอง โดยปกติคนที่ถูกสั่งไม่ให้เข้าก็ควรได้รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาทำอะไรถึงได้มีภัยต่อสังคมและไม่ควรเข้ามา และเปิดโอกาสให้เขาชี้แจง” ณัฐาศิริกล่าว

ยัน อยู่เมืองไทยมานานกว่า 17 ปี มีลูกที่เกิดกับอดีตภรรยาชาวไทย ประกอบอาชีพเป็นนักพัฒนาเกม การถูกผลักดันครั้งนี้ทำให้เขาต้องคิดถึงอนาคตของเขาในประเทศไทยว่าจะทำอย่างไร เพราะยังมีบุตรและลูกจ้างในประเทศอยู่ ซึ่งคงต้องใช้เวลาสักพักในการจัดการเรื่องราวเหล่านี้ ทั้งนี้เขาทิ้งท้ายถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังจะเข้ามาในประเทศไทยหลังการเปิดประเทศว่า ในประเทศนี้มีกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากๆ ถ้าอยากจะมั่นใจว่าการมาท่องเที่ยวจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ก็ควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายได้