Skip to main content
sharethis

กลุ่มปกป้องสถาบัน เดินทางมาที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อติดตามข้อเรียกร้องให้ปฏิเสธการต่อใบอนุญาตแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ ทวง 'แรมโบ้' ช่วยตามด้วย ด้านหน่วยงานรัฐแจง อยู่ระหว่างการพิจารณา ย้ำต้องไปเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย 

  

5 เม.ย. 65 กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. ถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์ม ‘เฟซบุ๊ก’ วันนี้ (5 เม.ย.) ที่หน้ากระทรวงมหาดไทย เวลาประมาณ 13.00 น. นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่ม ศปปส. นายนพดล พรหมภาสิต แกนนำ ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ ศชอ. พร้อมด้วยประชาชนบางส่วน มาติดตามทวงถามหนังสือที่เคยยื่นกระทรวงมหาดไทย เมื่อ 17 ก.พ. 65 ให้มีการปฏิเสธใบอนุญาตของ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ทั้งในประเทศไทย และนานาชาติ โดยมีนายรัชกฤต พยัคฆ์ ผู้อำนวยการส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อย 2 (สรร.2) เป็นผู้รับเรื่อง

อานนท์ ให้สัมภาษณ์ผ่านไลฟ์สดว่า วันนี้ตนมายื่นหนังสือที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อทวงถามความคืบหน้าการดำเนินการขับองค์กรแอมเนสตี้ฯ ออกนอกประเทศ เพราะนับตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว (2564) ที่เคยร้องเรียน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แบะมีการยื่นหนังสือเมื่อ 17 ก.พ. 65 ที่กระทรวงมหาดไทย จนมาถึงปัจจุบัน แอมเนสตี้ฯ ก็ยังคงก่อความวุ่นวายในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา แอมเนสตี้ มีการปลุกปั่นประชาชน ให้ไปร่วมประท้วงรัสเซีย ที่หน้าสถานทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการเมืองระหว่างประเทศของไทย

อานนท์ กล่าวต่อว่า ตนจำได้ว่าเมื่อ 17 ก.พ. 65 ที่เคยมายื่นหนังสือที่กระทรวงมหาดไทย ตอนนั้นมีข่าวระบุว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล หมดสัญญาในไทยแล้ว จึงอยากถามว่าหมดจริงไหม ถ้าหมดแล้วจริง ทำไมยังสามารถดำเนินงานในประเทศไทยได้ กรมการปกครองทำอะไรอยู่ กระทรวงมหาดไทยลักไก่เซ็นอนุญาตอยู่ต่อหรือไม่ กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันจึงอยากให้กระทรวงมหาดไทย ช่วยอธิบายให้กระจ่าง และจะตามเรื่องนี้จนถึงที่สุด 

นพดล กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรอ พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มประชาชน ให้มีการบังคับใช้ เพราะที่มาเรียกร้องในวันนี้ เพื่อต้องการความชัดเจนว่า กระทรวงมหาดไทย ลักไก่ต่อสัญญาให้กับองค์กร แอมเนสตี้ฯ หรือไม่ และอยากฝากถามไปยังแรมโบ้อีสาน หรือ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ว่าในเมื่อคุณกล้าเอาตำแหน่งคุณเดิมพันแล้ว ช่วยมาตามเรื่องนี้ด้วย อย่าทิ้งกลางคัน ประชาชนจำได้

ขณะที่นายรัชกฤต พยัคฆ์ ผอ.สรร.2 และเป็นผู้แลเรื่องประเด็นสมาคม แอมเนสตี้ฯ ชี้แจงว่า ตั้งแต่ได้รับเรื่องทางกระทรวงมหาดไทย มีการเชิญแอมเนสตี้ฯ มาพูดคุย ตรวจสอบในรายละเอียด และส่งเอกสารให้หน่วยงานความมั่นคงให้เข้าไปตรวจสอบแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต่างๆ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน และวิธีการทางกฎหมาย ถ้าไม่เช่นนั้น จะไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้ร้องเรียน และฝั่งแอมเนสตี้ฯ ได้

ผอ.สรร.2 ระบุต่อว่า ยืนยันว่า ตนเองอยู่ในอนุกรรมการ และได้เข้าไปมีบทบาทร่วมตรวจสอบสมาคมต่างๆ หน่วยรัฐมีการหารือพูดคุยกันโดยตลอด และพยายามที่จะดำเนินการให้ดีที่สุด และให้ถูกต้องที่สุดมากที่สุด เพราะถ้าเราดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย สุดท้าย ก็ต้องไปถึงศาล ถ้าศาลเห็นด้วยกับเรา ก็จบกระบวนการเห็นชอบ แต่ถ้าไม่ ศาลจะถามว่า ทำไมไม่ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เราพยายามทำตามกระบวนการกฎหมายไทยมากที่สุด เพื่อให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย 

นอกจากนี้ ในประเด็นการต่อใบอนุญาตของแอมเนสตี้ นายรัชกฤต ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาต่อใบอนุญาต ซึ่งจะมีขั้นตอนกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และเมื่อมีมติออกมาแล้ว ไม่ว่าจะไม่ต่อหรือต่อใบอนุญาต ก็จะมีขั้นตอนของการอุทธรณ์ กระบวนการฟ้องศาลปกครองต่อ 

ทั้งนี้ กลุ่มพสกนิกรฯ ถามต่อตัวแทนรับเรื่องว่า ทำไมเมื่อแอมเนสตี้ฯ ใบอนุญาตหมดอายุแล้ว ยังสามารถทำกิจกรรมได้อยู่ ดังที่ปรากฏเมื่อ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการจัดงานต่อต้านการบุกยูเครนที่หน้าสถานทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย 

ทางตัวแทนกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ตอนนี้แอมเนสตี้ อยู่ในระหว่างต่อใบอนุญาต และตามกฎหมาย สามารถดำเนินกิจกรรมบางอย่างได้ ซึ่งตรงนี้มีเงื่อนไขของมันอยู่ 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มพสกนิกรฯ ยังไม่พอใจ เนื่องจากไม่ทราบว่า ทางกระทรวงมหาดไทยจะมีกรอบระยะเวลาดำเนินการอีกนานเท่าไร ในการพิจารณาขับไล่แอมเนสตี้ฯ ออกนอกประเทศ ขณะที่รัชกฤต รับปากว่า จะเร่งให้เร็วที่สุด 

ร้องเอาผิด ไทยเวียตเจ็ทแอร์

ในวันเดียวกันนี้ เว็บไซต์ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำ กลุ่ม ศปปส. นายนพดล พรหมภาสิต ประธาน ศชอ. เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง พรสถิตย์ บุราณรัตน์ รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อผู้บริหารของสายการบิน "ไทยเวียตเจ็ท" ตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ มาตรา 14 (2) ในกรณีที่โพสต์ข้อความเล่นกับกระแสวันเมษาหน้าโง่ 1 เมษายน หรือ Aprill Fool's Day ซึ่งเป็นวันโกหกของฝรั่ง เล่นมุกสายการบินไทยเวียตเจ็ทเปิดบินเส้นทางใหม่ "น่าน-มิวนิค" เริ่มต้น 1,010 บาท พร้อมทั้งติดแฮชแท็ก 'April Fool’ s Day' ไว้ที่ช่วงท้ายของภาพ ต่อมาทวิตดังกล่าวได้มีคนมาแชร์และแสดงความเห็นจำนวนมาก หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการลบทวิตดังกล่าวออกไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไทยเวียตเจ็ท' สั่งพักงาน พนง.-ทำเรื่องขออภัยโทษ ปมมุขเที่ยวบิน 'น่าน-มิวนิค' วัน April Fool's Day

นายนพดล กล่าวว่า เมื่อวาน (4 เม.ย.) พวกเรา ศชอ.และ ศปปส.ไปประชุมเรียกร้องต่อผู้บริหารไทยเวียตเจ็ท ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ให้เปิดเผยบุคคลที่กระทำการดังกล่าวออกมา แต่ทางไทยเวียตเจ็ทปฏิเสธที่จะเปิดเผย อ้างว่าอาจจะเป็นการกฎหมายได้เนื่องจากยังไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด ยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของทางบริษัท หากเปิดเผยออกไปจะเป็นการละเมิดสิทธิของพนักงานเขาได้

วันนี้เราจึงมาใช้สิทธิของเราตามกฎหมาย โดยมาแจ้งความ บก.ปอท.ให้ดำเนินการเอาผิดกับบุคคลที่เป็นผู้โพสต์ดังกล่าว ในข้อหาความผิด พ.ร.บ.คอมพ์พิวเตอร์ มาตรา 14 (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือ โครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

นายอานนท์ กล่าวว่า ในเรื่องที่มีข่าวออกมาว่าจะขอพระราชทานอภัยโทษในเรื่องนี้นั้น ได้รับการชี้แจงจากผู้บริหารไทยเวียตเจ็ทว่า พูดเร็วไปหน่อย เขายังไม่ได้ไปขอพระราชทานอภัยโทษ เพียงแต่ได้ไปติดต่อทางสำนักราชเลขาฯ ว่าควรจะทำอย่างไรกับกรณีนี้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เข้าไป พวกเรามาวันนี้เพราะเห็นว่าการกระทำของไทยเวียตเจ็ท ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ ม.14(2) แน่นอน ส่วนมาตรา 112 นั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ ของ บก.ปอท.จะพิจารณาว่าเข้าข่ายหรือไม่ต่อไป

สำหรับการดำเนินคดีกับไทยเวียตเจ็ท ม.112 วานนี้ (4 เม.ย.) เว็บไซต์ข่าว ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รอง ผบก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใช้ทวิตเตอร์ ThaiVietjet @ThaiVietjet จากกรณีการโพสต์ข้อความในวันเมษาหน้าโง่ ข้อหา ม.112 พ.ร.บ.คอมฯ และข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นายศรีสุวรรณ ให้เหตุผลว่า หลังเกิดเหตุแม้ทางผู้บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท จะได้ออกมาแถลงขอโทษ และมีการพักงานพนักงานแล้ว แต่การกระทำดังกล่าวถือว่าย่ามใจในการแซะถึงเบื้องสูง ผ่านกิจกรรมวันแห่งความโง่ ของชาวตะวันตก ซึ่งไม่เกี่ยวกับประเทศไทยแม้แต่น้อย จึงมิอาจยอมรับได้ ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินการตรวจสอบ และออกหมายเรียกผู้บริหารของสายการบินดังกล่าวมาดำเนินการสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังผู้ดูแลทวิตเตอร์มาดำเนินคดีต่อไป

“ทั้งนี้ ผมขอฝากให้ทุกท่านทราบว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ หากใครละเมิดจาบจ้วงหรือหมิ่นสถาบัน สมาคมฯ จะแจ้งความเอาผิดทุกรายไป เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคมต่อไป” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ได้รับเรื่องดังกล่าวก่อนนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาความผิดต่อสถาบันฯ ของ บก.ปอท.เพื่อดำเนินการต่อไป 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net