บอร์ด สปสช.เห็นชอบแนวทางการจ่ายค่าดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่ม ‘สีเขียว’ ที่รับบริการสถานพยาบาลอื่น

บอร์ด สปสช. เห็นชอบแนวทางการจ่ายชดเชยค่าบริการผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว สิทธิบัตรทอง 30 บาทที่เข้ารับบริการสถานพยาบาลอื่นหรือโรงพยาบาลเอกชนที่ทำข้อตกลงเข้าร่วมให้บริการกับ สปสช.  

18 เม.ย.2565 ทีมสื่อ สปสช. รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2565 ซึ่งมี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน มีมติรับรองแนวทางการจ่ายค่าใช้จ่ายกรณีการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ที่รับบริการยังสถานบริการอื่น (ไม่ได้เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบบัตรทอง) ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการปรับหลักเกณฑ์ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติโควิด-19 UCEP Plus เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2565 ไม่ครอบคลุมในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ และมีอาการเล็กน้อย 

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากประกาศของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ที่มีผลเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2565 กำหนดให้ผู้ป่วยโควิด-19 ระดับความรุนแรงกลุ่มสีเหลืองและสีแดงที่เข้าเกณฑ์ UCEP Plus ประกอบด้วย ผู้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ใช้เครื่องควบคุมการให้ออกซิเจนอัตราการไหลสูง (O2 High flow) ใช้สายหรือท่อให้ออกซิเจนทางจมูก (O2 Canular) กลุ่ม 608 หายใจเหนื่อยหอบ และหญิงตั้งครรภ์ ทั้งนี้ด้วยหลักเกณฑ์ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติโควิด-19 UCEP Plus นี้ กำหนดการใช้สิทธิ UCEP Plus เฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มฉุกเฉินวิกฤตเท่านั้น โดยค่าบริการกำหนดให้เป็นการจ่ายชดเชยแบบ Fee schedule เริ่มตั้งแต่เข้ารับบริการจนออกจากโรงพยาบาล  

ในส่วนของผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มอาการสีเขียว สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ทำข้อตกลงกับสถานพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเหมือนกับหน่วยบริการในระบบ โดยผู้ป่วยนอกจะจ่ายแบบแยกกักตัวที่บ้าน (OP Self Isolation) โดยเหมาจ่าย 1,000 บาทต่อราย ประกอบด้วย ค่าให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวในการแยกกักตัวที่บ้าน การให้ยาตามอาการ ฟ้าทะลายโจร หรือยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) (ที่เบิกจากกระทรวงสาธารณสุข) รวมค่าจัดส่ง การประสานติดตามอาการเมื่อครบ 48 ชั่วโมง และการจัดระบบส่งต่อเมื่อผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องส่งต่อเข้ารับบริการในโรงพยาบาล กับอีกส่วนหนึ่งคือกรณีพ้น 48 ชั่วโมงไปแล้วผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงแล้วโทรมาปรึกษาสถานบริการอื่น โดยส่วนนี้ถ้ามีการจัดระบบ สปสช. จะจ่ายให้อีก 300 บาทต่อราย 

ขณะที่บริการแบบผู้ป่วยใน เช่น การดูแลแบบ Home Isoaltion: HI/Community Isolation:CI, Hotel Isolation โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ฯลฯ จะจ่ายแบบเหมาจ่ายโดยครอบคลุมค่าดูแลรวมอาหาร 3 มื้อ พร้อมคำปรึกษา ค่ายาฟ้าทะลายโจร ค่าอุปกรณ์ติดตามสัญญาณชีพ และค่าเอกซเรย์ปอด (Chest X-ray) กรณีที่มีความจำเป็น โดยในกลุ่มนี้ สปสช. จะเหมาจ่ายกรณีรักษาตั้งแต่ 1-6 วัน อยู่ที่ 6,000 บาท ในกรณีรักษา 7 วันขึ้นไปจะเหมาจ่ายอยู่ที่ 12,000 บาท 

สำหรับรายชื่อโรงพยาบาลเอกชนที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียวนั้น สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/page/privatehospital_green 

ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท