Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

สัญญาณร้าย ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยมาเต็มหลังการผ่านงบประมาณปี 2666 ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ที่พุ่งขึ้นไม่หยุด สินค้าข้าวของแพง ผู้คนตกงาน ฯลฯ ซึ่งก็น่าจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงภาคการเงิน ภาคเศรษฐกิจอื่นๆ อย่าเลี่ยงไม่ได้ แถมยังบ่งสถานการณ์เงินเฟ้อ แน่นอนกระทบต่อทุกภาคส่วนเป็นแน่แท้ ไม่ว่าช้าหรือเร็ว สถานการณ์ด้านการเงิน เศรษฐกิจของไทยกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต ไม่ว่ารัฐบาลจะมีข้ออ้างใดๆ ก็ตาม ตลาดการเงินในต่างประเทศ (off shore) เริ่มกล่าวขวัญ ล้มละลาย อาจล้มละลาย จนถึงการล้มละลายของประเทศ 

สถานการณ์เชิงอุกาฟ้าเหลืองทางเศรษฐกิจของไทยแบบนี้  อาจส่งผลบานปลายในอีกไม่นานต่อจากนี้ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องระทมขมขื่นมากกว่าการรับฟังข้อมูลจากฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยเชิงบวกแต่เพียงข้างเดียว ในขณะที่กองเจดีย์เศรษฐกิจ การเงิน การคลัง พังพาบ ยุบลงมากองกับพื้น

เรา, ผม มักคิดว่า เผาจริงกันมาช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คิดว่ามันตกเรี่ยราดแบกะดินเรียบร้อยมีแต่จะเด้งขึ้น ที่ไหนได้ กำลังหลุดลงต่ำกว่าดิน ดุจดิ่งนรก !!

มาโนชญ์ คงทอง อดีตเจ้าหน้าที่ลอสแองเจลิส เคาน์ตี้ ผู้คร่ำหวอดและเป็นนักคาดการณ์ด้านเศรษฐกิจเหตุที่เขาคุ้นชินกับความผันผวนแบบนี้มายาวนาน รวมถึงฟากอเมริกา  ผ่านร้อนหนาวมาเกิน 80 ฤดู เตือนผมผ่านไลน์ส่วนตัวว่า You don't have to believe me! but I'm doing what I'm telling you. เขาแนะนำให้หาทางสวอปบาทเป็นดอลลาร์ ซึ่งผมก็เถียงเขาด้วยซ้ำ ผมว่ามันจะเกิดวิกฤตดอลลาร์ เพราะสงครามยูเครน-รัสเซีย เขาว่า ยังไงก็ยังดีกว่าเงินบาทอยู่ดี

เหมือนปัจเจกบุคคลผู้มีหนี้สินล้นตัว หนี้ท่วมหัว เอาล่ะ วิชาการว่ากู้เกินกำลังจีดีพีไปมาก ข้อมูลเท็จจริงไปหาจากกูเกิลเอาเองนะครับ ผมขี้เกียจก๊อปมา แถมวิธีการงบประมาณแบบสมดุลมันแสดงออกชัดว่าจ่ายออกมากว่ารายได้ งบลงทุนผ่านงบประมาณเพียงแค่หยิบมือเดียว ไม่ช่วยให้ก่อเกิดรายได้อะไรมากมาย คงมีแต่กู้ กู้และกู้ มิหนำซ้ำเป็นการกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

น่าตระหนกอย่างยิ่งว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ก็ในเมื่อรัฐบาลปัจจุบันเย่อหยิ่งอวดดีว่า  ประเทศไทยมีทรัพยากรอันอุดมสุดในแถบสุวรรณภูมิ การณ์มิกลับกลายไปดอกหรือว่า ทรัพยากรอันอุดมนี้ ถ้าขาดการบริหารจัดการที่ดียังไงก็ไม่สามารถเป็นเครื่องการันตีความเป็นอยู่ของพี่น้องเราว่าจะสุขสบายไร้มลภาวะทางเศรษฐกิจหรือไม่ ทั้งนี้ให้พยายามนึกถึงศรีลังกา บราซิล เอาไว้ให้มากๆ 

เอาเถอะครับ อย่างไม่เป็นทางการก็จริง แต่บุคคลที่ผมรู้จักส่วนตัวใน off shore financial  market  ต่างกล่าวกันด้วยความระทึก แย้งสวนสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่ระบุเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า “เศรษฐกิจไทยปี 2565 จะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.0 ถึง 4.0) ปรับลดลงจากประมาณการครั้งก่อน ณ เดือนมกราคม 2565 ที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียยูเครนที่ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยชะลอตัว โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา และส่งผลกระทบให้ราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2565 จะอยู่ที่ร้อยละ 5.0 ต่อปี” ถ้อยแถลงของรัฐบาลไทยที่เชื่อถือไม่ได้

แรงหวาดวิตกที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึงกับถึงต้องรอดูการประเมินขององค์กรการเงินระหว่างประเทศ อย่างกองทุนการเงินระหว่างสประเทศ (IMF) ธนาคารโลก (WB) หรือสถาบันจัดอันดับ (เครดิต) นานาชาติอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งก็แน่นอนว่า นักลงต่างประเทศมีความเชื่อถือสถาบันการเงินระหว่างประเทศมากกว่าถ้อยแถลงของรัฐบาลไทยชนิดที่เทียบกันไม่ติด   

ท่ามกลางฝุ่นควันพิษทางเศรษฐกิจอันอวบอวลชวนคลื่นเหียนยามนี้ เรา ประชาชนไม่มีไรต้องเตรียมตัวมากไปกว่าการระมัดระวังตัวเอง ไม่ประมาทด้านค่าใช้จ่าย ไม่ให้ตกลงไปในห้วงกระแสน้ำวน จนถูกดูดลงสู่ลูปน้ำเบื้องทะเลลึกจนเกินสุดที่จะหยั่งได้ 

ลำพังการพึ่งหวังรัฐบาล ที่นับวันจะกลายเป็นซากปรักหักพังอยู่แล้วนั้น  มิอาจช่วยให้อนาคตทางเศรษฐกิจ กำลังเงินในกระเป๋าสดใสขึ้นมาได้ การถอนทุนของต่างชาติ การเคลื่อนย้ายทุนไปยังประเทศที่สิ่งแวดล้อมดีกว่า ความไร้ค่าไร้เสถียรภาพของเงินบาทเทียบสกุลต่างชาติอื่นๆ ที่ถาโถมโจมจู่เป็นระยะๆ ทำให้ความหวังการกอบกู้เศรษฐกิจการเงินการลงทุนอันเคยบันเจิดเจิดจ้าต้องปลาสนาการไปอย่างช่วยไม่ได้ สองทศวรรษที่สูญเปล่าเกี่ยวแก่ความเป็นศูนย์กลางทางการเงินในอาเซียน  ทั้งๆ ที่ในอดีตเราเคยเชื่อมั่นตัวเองเป็นนักเป็นหนา

เจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) บอกผมเช่นเดียวกับมาโนชญ์ว่า ถ้าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกขาดิ่งแบบนี้ เศรษฐกิจของไทยจะถูกลากพันเกี่ยวขากันลงเหวไปด้วย 

“อเมริกาขาลง” ผมยืนยันกับมาโนชญ์เหมือนเดิม แต่ไทยอาจถึงขั้นล้มละลาย !!!  
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net