"24 มิถุนาประชาธิปไตย" เรียกร้องกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบกรณี "นพ.ชาตรี" คุกคาม "ใบปอ" ราชทัณฑ์แจงว่าทาง นพ.ชาตรีชี้แจงว่าไม่ได้คุกคาม แค่ตรวจตามปกติและ "ทดสอบสติปัญญาและความรู้สึก" เท่านั้น

22 มิ.ย.2565 หลังจากเมื่อ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมาทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยกรณีนายแพทย์ชาตรี หมอที่สถานพยาบาลประจำเรือนจำที่เป็นผู้ตรวจร่างกายณัฐนิช (สงวนนามสกุล) หรือใบปอ และเนติพร (สงวนนามสกุล) หรือบุ้ง พูดข่มขู่ เสียดสี และคุกคามณัฐนิชว่า “ถ้ามีปืนก็คง…( ทำท่ามือเป็นปืนเอามาจ่อที่คาง)” พร้อมหัวเราะ และยังพูดข่มขู่ว่า “ต้องจับสองคนนี้แยกออกจากกัน”และซักถามในเรื่องส่วนตัวและวิจารณ์โดยไม่เกี่ยวกับการรักษา

วันนี้กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดย สมยศ พฤกษาเกษมสุข เจษฎา ศรีปลั่ง หรือเจมส์ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท เดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรม ที่ถ.แจ้งวัฒนะเพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายแพทย์คนดังกล่าวโดยให้มีการเปิดเผยหลักฐานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งให้จัดหาแพทย์หญิงตรวจร่างกายผู้ต้องขังหญิงด้วย

นอกจากนั้นยังมีข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายทั้งในส่วนของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพื่อป้องกันการใช้ดุลพินิจของศาลในการสั่งขังผู้ต้องหาทั้งที่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา รวมถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ที่ถูกนำมใช้กลั่นแกล้งปิดกั้นการแสดงความเห็นของประชาชนด้วย

ทั้งนี้ สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมออกมารับฟังและผู้รับมอบหนังสือ พร้อมกล่าวว่าเป็นข้อร้องเรียนเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และยืนยันว่าราชทัณฑ์จะไม่ปล่อยปละละเลยจนเกิดการเสียชีวิตในเรือนจำ จากนั้นได้มีการเชิญตัวแทนเข้าไปพูดคุยและสอบถามข้อร้องเรียนด้วย

หมอแจงผ่านราชทัณฑ์แค่ตรวจรักษาและทดสอบสติปัญญา

อย่างไรก็ตามประชาสัมพันธ์ของกรมราชทัณฑ์ออกจดหมายข่าวมาชี้แจงเรื่องนี้ว่าเมื่อ 16 มิ.ย. เวลา10.30 น. ณัฐนิชได้เข้าพบแพทย์ตามข้อแนะนำของพยาบาลประจำทัณฑสถานเพื่อทำการรักษาและรับยาอย่างต่อเนื่องจากอาการแสบท้องเพราะการอดอาหาร โดยแพทย์ที่ทำหน้าที่ในวันนั้นคือ นายแพทย์ชาตรี จองศิริเลิศ

นพ.ชาตรีดำเนินการซักประวัติและอาการเพื่อประกอบการวินิจฉัยอาการป่วยและให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพิ่มเพื่อไม่ให้เจ็บป่วย ซึ่งณัฐนิชแจ้งว่าไม่ขอรับยาและไม่ขอรับการรักษา

ราชทัณฑ์ระบุอีกว่า นพ.ชาตรีแจ้งอีกว่าการซักถามในวันนั้นเพื่อทดสอบระดับสติปัญญา การรับรู้และระดับความรู้สึกและสาเหตุของการอดอาหาร พร้อมกับให้คำแนะนำว่าควรทานอาหารเพื่อไม่ให้เจ็บป่วยพร้อมพูดให้เห็นโทษของการอดอาหาร แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาข่มขู่ เสียดสีใดๆ

นอกจากนั้น นพ.ชาตรีแจ้งกับราชทัณฑ์อีกว่าในการดำเนินการมีเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำสถานพยาบาลของทัณฑสถานอยู่ด้วยตลอดเวลาตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOPs)

ราชทัณฑ์ระบุอีกว่าเรื่องที่ นพ.ชาตรีเคยถูกร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสม จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการร้องเรียนแต่อย่างใด

“สำหรับนายแพทย์ชาตรี ที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว เป็นแพทย์อายุรกรรมที่อุทิศเวลามาให้ การรักษาดูแลผู้ต้องขังหญิงภายในทัณฑสถานหญิงกลางมาแล้ว 15 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ผิดปกติ หรือข้อร้องเรียนจากผู้ต้องขังหญิงที่ได้รับการรักษาจากนายแพทย์คนดังกล่าวแต่อย่างใด

กรมราชทัณฑ์ ขอให้สังคมเชื่อมั่นว่า ทัณฑสถานหญิงกลางได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOPs) ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งให้ความสำคัญกับหลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangok Rules) ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงทุกราย” ราชทัณฑ์ระบุในท้ายจดหมายข่าว

อดอาหารวันที่ 21

12.20 น. อานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนเผยแพร่จดหมายจากเรือนจำของณัฐนิชที่ฝากทนายความออกมาระบุถึงสภาพร่างกายของทั้งตัวเองและเนติพรล่าสุด

ในจดหมายระบุถึงอาการของเนติพรว่าตอนนี้อ้วกทุกวันแต่ไม่ได้เรียกเจ้าหน้าที่ เพราะพวกเธอยืนยันจะปฏิเสธการรักษา แต่เมื่อวานเนติพรอ้วกตั้งแต่เย็นออกมาเยอะมากแต่ก็มีเพียงน้ำกับน้ำย่อย มีอาการแสบท้อง ตอนประมาณห้าทุ่มกว่าๆ พวกเธอเรียกเจ้าหน้าที่อยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะได้ออกไปสถานพยาบาลก็ราวๆ ตีหนึ่ง ตอนนี้เธอเป็นห่วงเนติพรและอยากให้ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่มีความไว้วางใจแพทย์ของเรือนจำเนื่องจากเหตุการณ์ข้างต้น