Skip to main content
sharethis

'นิด้าโพล' ชี้คนระบุ 'เพื่อไทย' มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก ไม่เชื่อ 'เพื่อไทย-พปชร.' จับมือกันตั้งรัฐบาล เนื่องจากอุดมการณ์แตกต่างกัน ด้าน 'ซูเปอร์โพล' ยก 'อนุทิน' อันดับ 1 แคนดิเดตนายก ตามมาด้วย 'แพทองธาร' และ 'จุรินทร์'

11 ธ.ค. 2565 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “6 พรรคกับโอกาส ได้เป็นรัฐบาล” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับ 6 พรรคกับโอกาสได้เป็นรัฐบาล การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0จากการสำรวจเมื่อให้ประชาชนวิเคราะห์ถึงโอกาสที่พรรคการเมือง ทั้ง 6 พรรค ซึ่งกำลังมีกระแสข่าวการไหลเข้า-ออก ของนักการเมืองจะได้เป็นรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า พบว่า

1.พรรคเพื่อไทย (นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว/น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) ตัวอย่าง ร้อยละ 40.38 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก รองลงมา ร้อยละ 32.44 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน ร้อยละ 16.88 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย ร้อยละ 8.24 ระบุว่า
ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน และร้อยละ 2.06 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

2.พรรคก้าวไกล (นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์) ตัวอย่าง ร้อยละ 31.45 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย รองลงมา ร้อยละ 30.23 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก ร้อยละ 23.66 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน ร้อยละ 11.00 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน และร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

3.พรรคพลังประชารัฐ (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) ตัวอย่าง ร้อยละ 33.51 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน รองลงมา ร้อยละ 32.60 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย ร้อยละ 20.38 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก ร้อยละ 10.76 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน และร้อยละ 2.75 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

4.พรรครวมไทยสร้างชาติ (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค/พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ตัวอย่าง ร้อยละ 43.12 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน รองลงมา ร้อยละ 31.45 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย ร้อยละ 15.73 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก ร้อยละ 5.73 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน และร้อยละ 3.97 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

5.พรรคภูมิใจไทย (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ตัวอย่าง ร้อยละ 39.16 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน ร้อยละ 21.60 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก ร้อยละ 4.96 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน และร้อยละ 3.44 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

6.พรรคประชาธิปัตย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ตัวอย่าง ร้อยละ 40.69 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย รองลงมา ร้อยละ 38.93 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน ร้อยละ 13.20 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก ร้อยละ 4.58 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอนและร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อกระแสข่าวข้อตกลงการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย ภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 45.65 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย เพราะ เป็นเพียงแค่กระแสข่าวลือ โอกาสเป็นไปได้ยากเนื่องจากอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน รองลงมา ร้อยละ 29.24 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ เพราะ ทั้งสองพรรคต่างต้องการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของตนเองจึงไม่น่าจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้ ร้อยละ 16.64 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ เพราะ การเมืองเป็นเรื่องของการหาผลประโยชน์

จึงมีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองพรรคจะตกลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ร้อยละ 5.19 ระบุว่า เชื่อมาก เพราะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยเคยมีความสัมพันธ์กันในอดีต จึงอาจมีการหารือเพื่อตกลงเรื่องผลประโยชน์หากได้เป็นรัฐบาลร่วมกัน และร้อยละ 3.28 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ

'ซูเปอร์โพล' ยก 'อนุทิน' อันดับ 1 แคนดิเดตนายก ตามมาด้วย 'แพทองธาร' และ 'จุรินทร์'

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง เปิดใจคนไทย อนาคตการเมือง กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,028 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 7 – 10 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

เมื่อถามถึงความต้องการเร่งด่วนของประชาชนต่อรัฐบาลอนาคต หลังการเลือกตั้ง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.4 ต้องการให้แก้ปัญหาปากท้อง เรื่อง รายได้ อาชีพ ร้อยละ 62.1 ต้องการให้แก้ปัญหาสุขภาพ ค่าใช้จ่ายน้อย เข้าถึงง่าย อยู่ใกล้ สะดวก ร้อยละ 61.8 ต้องการให้แก้ปัญหาหนี้สิน พักหนี้ ปลดหนี้ ร้อยละ 48.9 ต้องการให้แก้ปัญหาพลังงาน ราคาแพง เช่น ไฟฟ้า น้ำมัน และร้อยละ 43.1 ต้องการให้แก้ปัญหามลพิษ โลกร้อน ใช้พลังงานสะอาด ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนเชื่อมั่นช่วยแก้ปัญหาปากท้อง รายได้ และปัญหาหนี้สินของประชาชนได้ พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 50.7 เชื่อมั่นนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองลงมาคือร้อยละ 47.2 เชื่อมั่นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 46.4 เชื่อมั่นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 19.8 เชื่อมั่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และร้อยละ 17.6 เชื่อมั่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ อะไรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้ง ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.8 ระบุปัญหาเดือดร้อนที่กำลังเจอเป็นอะไรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้ง รองลงมาคือ ร้อยละ 56.9 ระบุ พรรคการเมืองเป็นอะไรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้ง ร้อยละ 52.0 ระบุ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคการเมือง ร้อยละ 51.8 ระบุ นโยบายพรรคการเมืองที่บอกประชาชน และร้อยละ 46.7 ระบุ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงผู้นำพรรคการเมืองที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลและทำได้จริงตามที่พูด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 47.8 ระบุ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้นำพรรคการเมืองที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลและทำได้จริงตามที่พูด รองลงมาคือร้อยละ 44.9 ระบุ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 44.4 ระบุ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่ร้อยละ 17.2 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และร้อยละ 14.5 ระบุเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตามลำดับ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลเปิดใจคนไทย อนาคตการเมืองชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาเดือดร้อนที่ประชาชนกำลังเจอจะเป็นอะไรที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้ตัดสินใจเลือกตั้งโดยพบว่า ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง รายได้ ค่าครองชีพ อาชีพ การแก้ปัญหาสุขภาพ ค่าใช้จ่ายน้อย เข้าถึงบริการสุขภาพที่ดีได้ง่าย อยู่ใกล้และสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ ปัญหาหนี้สิน พักหนี้ ปลดหนี้ เป็นความต้องการสำคัญอันดับต้น ๆ ของประชาชนในโพล ที่น่าสนใจคือ ความเชื่อมั่นต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สูงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งนำหน้าไล่เรียงรอง ๆ ลงไปคือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีสัดส่วนฐานสนับสนุนสูงทิ้งห่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถูกทิ้งห่างอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ เมื่อถามถึงผู้นำพรรคการเมืองที่มีโอกาสจะเป็นรัฐบาลและทำได้จริงตามที่พูด พบว่า อันดับแรกได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองลงไปคือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีสัดส่วนฐานสนับสนุนทิ้งห่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถูกทิ้งห่างอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคะแนนนิยมลดลง ตกไปอยู่อันดับท้าย ๆ ของตารางผลสำรวจครั้งนี้น่าจะมาจากปัจจัยสำคัญคือ ความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนเรื่องปัญหาปากท้อง รายได้ ค่าครองชีพ อาชีพการงาน ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันนี้อาจจะมีจุดอ่อนด้านทีมเศรษฐกิจ และปัญหาขัดแย้งแยกทางกันเดินระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำให้แฟนคลับผิดหวังพลังสนับสนุนอ่อนลงบวกกับภาพลักษณ์ของแกนนำพรรคพลังประชารัฐและกระแสต่อต้านของคนไทยที่แรงต่อทุนจีนสีเทากับอดีตรัฐมนตรีที่ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยเพราะความไม่ชัดเจนและความไม่เข้มแข็งเพียงพอของ 3 ป. ปล่อยปละละเลยไม่สะสางปัญหาที่กระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนในห้วงเวลาที่ยาวนาน ผลที่ตามมาคือ ประชาชนส่วนใหญ่กำลังมองหาผู้นำประเทศคนใหม่ที่เป็นความหวังและเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาปากท้องและอื่น ๆ ที่สำคัญต่อชีวิตของประชาชนแทนคนเดิมที่อยู่มาช้านาน ก็เป็นไปได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net