Skip to main content
sharethis

นายก ส.แพทย์นิติเวชฯ เผยมีชายไทยวัย 40 เสียชีวิตโดยสัมพันธ์กับการใช้กัญชาอย่างชัดเจน ย้ำหยุดวลี 'กัญชาไม่ทำให้ใครตาย' ได้แล้ว ระบุตามงานวิจัยระดับโลก กัญชามีความสัมพันธ์กับการตายได้ 

4 ม.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (3 ม.ค.) นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ หรือหมอสมิทธิ์ แพทย์นิติเวช หัวหน้าห้องปฏิบัติการนิติเวชศาสตร์ ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Smith Fa Srisont ถึงรายงานสำคัญที่เกี่ยวกับกัญชา ว่า ขณะนี้พบศพหนึ่งรายที่เสียชีวิตโดยสัมพันธ์กับการใช้กัญชาอย่างชัดเจน ซึ่งยืนยันโดยการผ่าศพและผลการตรวจเลือด

นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ระบุ รายละเอียดไว้ดังนี้

1. ผู้ตายเป็นชายไทยอายุ 40 ปี มีประวัติว่าใช้กัญชาก่อนเสียชีวิต โดยพบนอนเสียชีวิตภายในบ้าน จึงทำการชันสูตรพลิกศพโดยการผ่าศพ

2. ผลการผ่าศพพบพยาธิสภาพที่สำคัญแค่สองอย่างคือ เส้นเลือดแดงเลี้ยงหัวใจตีบประมาณ 50% เพียงเส้นเดียว และผนังหัวใจห้องล่างซ้ายหนากว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งจากผลผ่ายังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ เพราะพยาธิสภาพดังกล่าวไม่เป็นสาเหตุการตาย

3. ทางแพทย์นิติเวชจึงส่งตรวจทางพิษวิทยาเพิ่มเติม และลงผลในหนังสือรับรองการตายไปเบื้องต้นว่าไม่ทราบสาเหตุการตาย

4. ต่อมาผลทางพิษวิทยาเป็นดังนี้

- พบ delta9-THC (สารที่เกิดจากการเสพกัญชา) ในเลือด โดยมีปริมาณ 7.10 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร แต่ไม่พบ delta9-THC ในปัสสาวะ ซึ่งการพบแต่ในเลือดแสดงให้เห็นว่า ผู้ตายพึ่งใช้กัญชาก่อนเสียชีวิต

- พบ carboxy-delta9-THC ทั้งในเลือดและปัสสาวะเป็นจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ตายใช้กัญชาเป็นประจำ

- ไม่พบสารเสพติดอื่นๆ ในเลือดและปัสสาวะ ยกเว้นสาร mitragynine จากการเสพพืชกระท่อม

- สรุปสั้นๆ แบบให้คนทั่วไปเข้าใจคือ ผู้ตายพึ่งเสพกัญชาก่อนเสียชีวิตโดยมีปริมาณกัญชาในเลือดของผู้ตาย 7.10 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร ผู้ตายใช้กัญชามาเป็นเวลานาน และไม่พบสารเสพติดอื่นๆ ในผู้ตาย เว้นแต่สารจากพืชกระท่อม 

5. จากผลทั้งหมด ทางแพทย์นิติเวชสามารถสรุปสาเหตุการตายได้ว่า “โรคหัวใจขาดเลือดกำเริบจากการได้รับสารอนุพันธ์ของกัญชา (cannabis induced coronary artery disease)”

6. ทำไมถึงสรุปแบบนี้ ขออธิบายโดยใช้งานวิจัยที่ทำโดยนักนิติพิษวิทยาระดับโลกตามนี้ https://www.naac.org.cy/uploads/e53d88d15c.pdf...

ถ้าอ้างอิงตามงานวิจัยนี้ ปริมาณกัญชาที่พบในเลือดของเคสนี้ไปกระตุ้นให้หัวใจขาดเลือดได้ เหมือนกับรูปจากงานวิจัยที่ผมตัดออกมาให้ดู ส่วนใครไม่อยากอ่านภาษาอังกฤษ ผมเคยสรุปเรื่องนี้ไว้ตามสเตตัสนี้ครับ https://www.facebook.com/100001957212970/posts/7717048101703687/

นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย สรุป 4 ประเด็นประเด็นสำคัญ ว่า

1. เคสนี้ชัดเจนว่าเป็นการตายที่สัมพันธ์กับการใช้กัญชา ก่อนหน้านี้ก็มีเคสแบบนี้หลายเคสแล้ว ที่ใช้กัญชาแล้วเสียชีวิตในลักษณะแบบนี้ แต่มักจะโดนปฏิเสธว่าไม่ได้ตรวจทางพิษวิทยา (เพราะไม่เชื่อแค่ประวัติ) หรือบางเคสไม่ได้ผ่าศพ (เพราะถ้าผ่าอาจเจอเหตุตายอื่น) หรือบางเคสใช้ร่วมกับสารเสพติดตัวอื่น (เพราะสารเสพติดอื่นทำให้ตาย แต่จริงๆ เคสนี้ก็ใช้กัญชาร่วมกับตัวอื่น แต่เป็นกระท่อมที่พึ่งปลดล็อคออกจากยาเสพติดเช่นกัน)

2. หยุดวลี “กัญชาไม่ทำให้ใครตาย” ได้แล้ว เพราะตามงานวิจัยระดับโลก กัญชามีความสัมพันธ์กับการตายในลักษณะแบบนี้ได้ และตอนนี้ก็มีเคสที่ยืนยันชัดเจนว่าตายแบบนี้ในไทยแล้ว 

3. การตายสัมพันธ์กับการใช้กัญชาแบบนี้ เกิดจากใช้กัญชาโดยการสูบครั้งเดียวก็เป็นไปได้ โดยไม่ต้องมีโรคประจำตัวใดๆ ดังนั้นถ้าเอามาเทียบกับเหล้าบุหรี่ในเรื่องนี้ กัญชาจะรุนแรงกว่า เพราะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่การใช้เหล้าบุหรี่เพียงเล็กน้อยมีผลสัมพันธ์จนทำให้ถึงแก่ชีวิต แต่กัญชากลับมีความสัมพันธ์กับการตายแบบนี้ จึงควรต้องเตือนเรื่องนี้กับประชาชนให้ชัดเจน

4. ประเด็นในการตรวจหากัญชาหรือ THC ในเลือดก็สำคัญมาก กรณีนี้เจอ THC ในเลือดที่ประมาณ 7 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร ซึ่งบางห้องปฏิบัติการอาจตรวจไม่เจอ เพราะต้องมี THC 10 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตรหรือมากกว่านั้นห้องปฏิบัติการถึงตรวจเจอ ทำให้แพทย์อาจแปลผลผิดว่าไม่มีกัญชาในเลือด ทั้งๆ ที่มีการใช้กัญชาจริง ก็อยากให้ทางกรมวิทย์ยืนยันว่า สามารถตรวจพบ THC ได้ถึง 1 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตรในทุกห้องปฏิบัติการ เพราะจากงานวิจัยนี้ THC เพียง 2 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตรก็สัมพันธ์กับการตายในกรณีแบบนี้ได้แล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net