Skip to main content
sharethis

ประชุมใหญ่ 'นายกท้องถิ่นคณะก้าวหน้า' ยืนยันต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เพราะหลังจากได้ร่วมงานกับคณะก้าวหน้ามาเกือบ 2 ปี เชื่อว่าแนวทางการทำงานและอุดมการณ์แบบอนาคตใหม่ สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง - 'พิธา' เปิดเวทีที่ดินลำพูน-พะเยา ลั่นปฏิรูปที่ดิน เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด คืนที่ดินนายทุนให้ประชาชน เพิ่มงบแก้ปัญหาพิสูจน์สิทธิที่ดินทันทีถ้าได้เป็นรัฐบาล

ทีมสื่อคณะก้าวหน้า แจ้งข่าวว่าธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จัดงานประชุมใหญ่ประจำปี นายกองค์กรปกครองท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน โดยมีนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาท้องถิ่น กว่า 120 คนเข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง

ในการประชุมครั้งนี้ นายกฯ ท้องถิ่นได้โชว์ผลงานความสำเร็จนับตั้งแต่ได้เข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งครอบคลุมปัญหาพื้นฐานของประชาชน ตั้งแต่นายกเทพพร จำปานวน เทศบาลตำบลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ที่นอกจากจะทำน้ำประปาดื่มได้สำเร็จใน 99 วัน ล่าสุดยังอัพเกรดระบบประปาเป็นสมาร์ทมิเตอร์ครบทุกครัวเรือน ตรวจสอบคุณภาพน้ำ 24 ชั่วโมงด้วยระบบ IOT (Internet of Things) สำเร็จในระดับตำบลเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

นายกทองออน สิงห์สุ เทศบาลตำบลโพนทราย จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งทำโครงการ “กองทุนขยะฌาปนกิจ” รณรงค์ให้ประชาชนแยกขยะ นำขยะรีไซเคิลมาขายให้เทศบาล เพื่อให้เทศบาลบริหารจัดการและขายขยะต่อ และหากมีสมาชิกในครอบครัวผู้เข้าร่วมโครงการเสียชีวิต จะได้เงินช่วยเหลือรายละ 6,150 บาท ซึ่งมาจากกำไรจากการขายขยะของเทศบาล โครงการนี้ดำเนินมาได้เพียง 7 เดือน สามารถสร้างมูลค่าแล้วกว่า 200,000 บาท และลดปริมาณขยะในตำบลได้กว่า 100 ตัน

นายกยุทธเดช ขนาดกำจาย เทศบาลตำบลทากาศเหนือ จังหวัดลำพูน มีการจัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน “ปงผาง Escape” ซึ่งสร้างรายได้ให้กับชาวปกาเกอะญอในพื้นที่ โดยไม่ทำลายวิถีชีวิตและป่าของชุมชน โดยหลังจากเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะในช่วงฤดูหนาวมา 2 ฤดูกาล สร้างรายได้ปีละกว่า 300,000 บาทให้กับหมู่บ้าน และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มถึง 2 เท่าภายใน 2 ปี

นายกนราพงศ์ ทรงสวัสดิ์วงศ์ อบต. เข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดมหกรรมวิ่ง “La Sportiva Kheknoi Ultra” งานวิ่งเทรลระยะ 100 กิโลเมตร โดยชูจุดเด่นการเป็นชุมชนม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีอัตลักษณ์วัฒนธรรมเข้มแข็ง และป่าชุมชนสวยงามอุดมสมบูรณ์ ทัศนียภาพระดับโลก โดยงานนี้จัดเพียงปีแรกก็มีนักวิ่งมาเข้าร่วมกว่า 500 คน สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 2 ล้านบาทในพื้นที่ในเวลาเพียง 2 วันที่จัดการแข่งขัน

นายกมาโนช พันธ์ฉลาด อบต. เชิงทะเล จังหวัดภูเก็ต มีโครงการสร้าง “คานเรือ” หรือโรงเรือนสำหรับนำเรือประมงพื้นบ้านมาจอดซ่อมบำรุง เพื่อตอบโจทย์ชาวประมงซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ในชุมชน คานเรือดังกล่าวออกแบบและควบคุมการก่อสร้างอย่างได้มาตรฐานสากลโดยทีมวิศวกรของคณะก้าวหน้า สามารถอำนวยความสะดวกให้กับชาวประมงในการนำเรือเข้าซ่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ธนาธรกล่าวชื่นชมการทำงานของทุกท้องถิ่น โดยระบุว่า ตลอดสองปีที่ผ่านมา นายกฯ แต่ละท้องถิ่นได้พิสูจน์ว่าแม้จะมีงบประมาณและอำนาจจำกัด แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร และการสร้างความร่วมมือกับท้องถิ่นอื่นๆ ผ่านเครือข่ายคณะก้าวหน้า ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริงได้ และคณะก้าวหน้าพร้อมผลักดันให้นายกฯทุกแห่ง ทำงานรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง 2566 ก็จะยิ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กว้างขวางมากขึ้น ไม่ใช่เกิดในไม่กี่ท้องถิ่นเช่นนี้

ทั้งนี้ นายกท้องถิ่นหลายคนยืนยันว่า ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เพราะหลังจากได้ร่วมงานกับคณะก้าวหน้ามาเกือบ 2 ปี เชื่อว่าแนวทางการทำงานและอุดมการณ์แบบอนาคตใหม่ สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนได้จริง

'พิธา' เปิดเวทีที่ดินลำพูน-พะเยา ลั่นปฏิรูปที่ดิน เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด คืนที่ดินนายทุนให้ประชาชน เพิ่มงบแก้ปัญหาพิสูจน์สิทธิที่ดินทันทีถ้าได้เป็นรัฐบาล

ทีมสื่อพรรคก้าวไกล แจ้งข่าวว่าวันนี้ (5 ก.พ.) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ร่วมเปิดเวทีนำเสนอนโยบายของพรรคก้าวไกลและรับฟังความคิดเห็นประชาชน ที่วัดแม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน และที่บ้านห้วยงิ้ว อ.จุน จ.พะเยา โดยผู้สนใจเข้าร่วมเวทีส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มีปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดินทำกิน ในพื้นที่ที่ส่วนใหญ่เป็น ส.ป.ก. ซึ่งมีข้อจำกัดในการทำกินที่ทำให้ไม่สามารถต่อยอดได้

พิธากล่าวว่า ผ่านมาเรามีปัญหา “3 ท.” คือทัศนคติ เทคโนโลยี และทุน การแก้ปัญหาทั้ง 3 ท. นี้ จะเกิดขึ้นได้ภายใต้รัฐบาลก้าวไกล เพราะเรามีทัศนคติที่ต่างออกไป ว่าเราต้องปลูกคนไปปลูกป่า ให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่า ทำกินกับป่า และรักษาป่าไปพร้อมกันได้ ให้ท้องถิ่นมีบทบาทในการสนับสนุนการกระจายที่ดิน เช่น การข้อบัญญัติท้องถิ่นแบบในต่างประเทศ ที่อนุญาตให้ประชาชนตัดไม้ได้ แต่ต้องปลูกทดแทน เช่น ตัด 1 ต้นต้องปลูก 3 ต้นมาทดแทน เป็นต้น

ในเรื่องของเทคโนโลยี วันนี้เรามีเครื่องมือในการแก้ปัญหาอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ นั่นคือเทคโนโลยี One Map ที่มีอัตราส่วนละเอียดขึ้นเป็น 1 : 4,000 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ถูกนำมาใช้เนื่องจากหน่วยงานรัฐทั้ง 8 กระทรวงต่างคนต่างไม่ยอม แต่ถ้าตนได้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ ตนจะบูรณาการนำเทคโนโลยี One Map ที่มีอยู่แล้วมาใช้ทันที

สุดท้ายคือเรื่องของทุน รัฐบาลก้าวไกลจะเพิ่มงบประมาณในการพิสูจน์สิทธิจาก 300 ล้านบาทเป็น 10,000 ล้านบาท ให้เกิดการพิสูจน์ได้ทันทีทั่วประเทศ

พิธากล่าวอีกว่า ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราจะทำการปฏิรูปที่ดินครั้งใหญ่ เพื่อจบปัญหาคาราคาซังด้านที่ดินที่ตกอยู่ในมือของนายทุนขุนศึกศักดินามาเป็นเวลานานเกินไปแล้ว โดยจะดำเนินการทั้งหมด 5 ข้อ อันประกอบด้วย

หนึ่ง การพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดิน และเพิกถอนสภาพที่ดินของรัฐที่ประกาศทับพื้นที่ชุมชนที่อยู่มาก่อน โดยจะจัดตั้งกองทุนในการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน 10,000 ล้านบาท เพื่อให้พิสูจน์สิทธิในที่ดินที่มีข้อพิพาททั้งหมดประมาณ 13 ล้านไร่ ภายในเวลา 5 ปี และแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ร.บ.ที่ดินราชพัสดุ และมติครม.ที่เกี่ยวข้อง และปรับปรุงปัญหาทับซ้อนของแผนที่ให้แล้วเสร็จ

สอง มองสิทธิในที่ดินตามความเป็นจริง 3 ประเภท คือ สิทธิของเอกชน สิทธิของชุมชน และสิทธิของรัฐ และปรับโครงสร้างอำนาจการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับรูปแบบสิทธิ ผลักดันกฎหมายธนาคารที่ดินเพื่อเป็นกลไกการกระจายการถือครองที่ดิน

สาม ให้กรรมสิทธิ์ประชาชน เริ่มจากเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. เป็นโฉนดเอกสารสิทธิ์ให้กับเกษตรกรตัวจริง ทวงคืนที่ดิน ส.ป.ก. จากนายทุน ผ่านร่าง พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อประชาชน

สี่ ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการปรับปรุงกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และผลักดันกฎหมายภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้าแบบรวมแปลง

ห้า คืนความยุติธรรม ด้วยการนิรโทษกรรมคดีที่เกี่ยวกับป่าไม้และที่ดินที่มีการดำเนินคดีทั้งหมด

ทั้งนี้ พิธาและอภิชาติ ยังได้ร่วมเดินสำรวจที่ดินที่มีปัญหาทับซ้อน ในพื้นที่ อ.จุน จ.พะเยา พร้อมเปิดแผนที่ดาวเทียมเปรียบเทียบ พบว่านอกจากมีการกินพื้นที่ของรัฐเข้ามาทับซ้อนที่ดินของประชาชนแล้ว ยังมีการทับซ้อนกันเองระหว่างที่ ส.ป.ก. และที่ป่าสงวนอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนที่ได้รับผลกระทบเคยยื่นขอให้หน่วยงานรัฐเข้ามาแก้ปัญหา แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากไม่มีหน่วยงานใดกล้าอ้างสิทธิบนที่ดินผืนดังกล่าว ซึ่งพิธาระบุว่านี่คือตัวอย่างที่ัชัดเจนที่สุด ของการจัดการที่ดินภายใต้แนวทางและวิธีคิดของรัฐที่เป็นมาจนถึงปัจจุบันนี้ และยิ่งเป็นเหตุผลว่าเหตุใดการปฏิรูปที่ดินจึงต้องเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเรื้อรังนี้อย่างถาวร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net